ตลาดบิ๊กไบค์ ใหญ่แค่ไหน?
ตลาดบิ๊กไบค์ ใหญ่แค่ไหน? / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนคงเคยเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่
เคยสงสัยไหมว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในรถแบบนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ทุกคนคงเคยเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่
เคยสงสัยไหมว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในรถแบบนี้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ (BigBike) แค่ชื่อก็พอจะบอกได้อยู่แล้วว่า ต้องมีขนาดใหญ่กว่ารถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป
ซึ่งจริงๆ แล้ว ความแตกต่างไม่ได้อยู่แค่ที่ขนาดของตัวรถเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องรวมไปถึงเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ บนรถด้วย
ทุกวันนี้ รถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่จะมีขนาดของเครื่องยนต์ตั้งแต่ประมาณ 250 ซีซี ไปจนถึงมากกว่า 2,000 ซีซี กันเลยทีเดียว แต่จริงๆ แล้วรถมอเตอร์ไซค์ใหญ่ที่เรียกว่าบิ๊กไบค์จะเป็น 400 ซีซี ขึ้นไป
ส่วนเรื่องของราคา ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นและยี่ห้อ ส่วนใหญ่ก็จะมีค่าตัวอยู่ในหลักแสน เริ่มตั้งแต่หลักแสนต้นๆ ไปจนถึงหลายแสน แต่ก็จะมีบางรุ่นที่ราคาแพงขึ้นไปจนถึงหลักล้าน
รถบิ๊กไบค์ได้รับความนิยมมากแค่ไหน?
เราคงพอจะสังเกตเห็นกันอยู่แล้วว่า เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็เจอรถบิ๊กไบค์อยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นในเมืองเอง หรือเวลาขับรถทางไกลไปต่างจังหวัด
ซึ่งตลาดรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ยอดขายรถบิ๊กไบค์รวม 5 ปีล่าสุด
ปี 2555 ขายได้ 6,206 คัน
ปี 2556 ขายได้ 13,423 คัน
ปี 2557 ขายได้ 16,603 คัน
ปี 2558 ขายได้ 19,962 คัน
ปี 2559 ขายได้ 23,985 คัน
ปี 2560 ครึ่งปีแรก ขายได้ 17,098 คัน
ปี 2556 ขายได้ 13,423 คัน
ปี 2557 ขายได้ 16,603 คัน
ปี 2558 ขายได้ 19,962 คัน
ปี 2559 ขายได้ 23,985 คัน
ปี 2560 ครึ่งปีแรก ขายได้ 17,098 คัน
ดูตัวเลขก็จะเห็นได้ชัดว่าตลาดบิ๊คไบค์เติบโตอย่างก้าวกระโดด
แล้วบริษัทไหนเป็นผู้นำในตลาดนี้?
เจ้าตลาดรถบิ๊กไบค์ในบ้านเรา ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ฮอนด้า (Honda) ที่เรารู้จักกันดีอยู่แล้ว
โดยจากข้อมูลล่าสุด ฮอนด้า ครองส่วนแบ่งตลาดนี้อยู่ประมาณ 43%
รถบิ๊กไบค์ ดียังไง?
นี่คงเป็นอีกหนึ่งคำถามที่อยู่ในใจของใครหลายๆคน
เพราะราคาของรถบิ๊กไบค์ส่วนใหญ่ ดันไปอยู่ตรงกลางระหว่าง รถมอเตอร์ไซค์ธรรมดากับรถยนต์
ทำให้หลายคนรู้สึกว่า อยากได้มอเตอร์ไซค์ก็ซื้อแบบธรรมดาก็ได้ แต่ถ้าอยากจ่ายแพงขึ้น ก็เอารถยนต์ไปเลยจะดีกว่ามั้ย
ซึ่งจริงๆ แล้ว คงไม่มีคำตอบที่ถูกสำหรับทุกคนว่า อะไรดีกว่ากัน
เพราะคงจะต้องดูในเรื่องของความเหมาะสมในการใช้งานและความต้องการของตัวเองด้วย ซึ่งก็จะไม่เหมือนกันในแต่ละคน
แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่า บิ๊กไบค์ เองก็มีข้อดีที่หลายคนอาจมองข้ามไป
รู้หรือไม่ว่า รถบิ๊กไบค์หลายๆ คัน ใช้น้ำมันแค่ครึ่งเดียวของรถยนต์ในการขับที่ระยะทางพอๆ กัน
และถ้าพูดถึงความเร็ว บิ๊กไบค์สามารถทำความเร็วได้ใกล้เคียงกันหรือเร็วกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ ที่ไม่ใช่รถสปอร์ตหรือซุปเปอร์คาร์ (ซึ่งก็มีราคาแพงกว่ามาก)
ส่วนการซ่อมบำรุงก็น่าจะถือได้ว่าทำได้ง่ายกว่ารถยนต์ เพราะชิ้นส่วนต่างๆ มีน้อยกว่ามาก
และที่สำคัญ.. หาที่จอดรถได้ง่ายกว่ารถยนต์
ถึงตรงนี้ ถ้าเราเริ่มอยากจะเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ซักคัน ควรจะเริ่มจากอะไร?
ในปัจจุบันแม้คนไทยจะหันมานิยมรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่กันมากขึ้น แต่ยังมีหลายคนไม่ทราบว่ารถมอเตอร์ไซค์ขนาดกี่ซีซีกันแน่ถึงจะเรียกว่า บิ๊กไบค์
โดยกรมการขนส่งทางบกได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ศึกษาและแบ่งประเภทรถจักรยานยนต์
ผลการศึกษากำหนดให้รถจักรยานยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า 400 ซีซี เป็นรถบิ๊กไบค์
และในเร็วๆนี้ กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มกฎหมายใหม่ ให้ผู้ขับขี่บิ๊กไบค์ 400 ซีซี ขึ้นไปต้องทำใบขับขี่รถลักษณะพิเศษ และเตรียมเพิ่มเนื้อหาการอบรม และข้อสอบเฉพาะทางอีกด้วย
ดังนั้นรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดใหญ่ แต่ถ้ามีเครื่องยนต์ 250 - 399 ซีซี ก็ไม่ถือเป็นรถบิ๊กไบค์
หลายคนจึงบอกว่าถ้าจะเริ่มขับบิ๊กไบค์ทั้งทีก็น่าจะเริ่มจากเครื่องยนต์ 500 ซีซี ไปเลย ถึงจะเรียกได้ว่าบิ๊กไบค์สมชื่อ
สรุปแล้วแนวโน้มของตลาดรถบิ๊กไบค์ในอนาคตก็น่าจะยังเติบโตได้อีกเรื่อยๆ เพราะรถบิ๊กไบค์สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทั้ง ความสะดวก ภาพลักษณ์ และ สมรรถนะ
แต่ถ้าใครยังมีเงินไม่ถึงที่จะซื้อบิ๊กไบค์ อดใจไว้ หยอดกระปุก ระหว่างนี้เดินเข้าเซเว่นซื้อบิ๊กไบท์กินไปก่อนนะ..
----------------------
<ad> ซื้อบิ๊กไบท์มาแล้ว กินเพลินๆ
อ่านคู่กับบทความลงทุนแมนได้ที่แอปลงทุนแมน
โหลดฟรีได้ทีนี่ longtunman.com/app
----------------------
----------------------
<ad> ซื้อบิ๊กไบท์มาแล้ว กินเพลินๆ
อ่านคู่กับบทความลงทุนแมนได้ที่แอปลงทุนแมน
โหลดฟรีได้ทีนี่ longtunman.com/app
----------------------