<ผู้สนับสนุน> รับมือกับ DIGITALIZATION
<ผู้สนับสนุน>
รับมือกับ DIGITALIZATION / โดย ลงทุนแมน
โลกนี้กำลังถูก DIGITIZED
ทุกอย่างบนโลกนี้กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
และโลก DIGITAL จะ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ โลกแห่งความจริง
กว่าเราจะรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นว่าเราตามโลกนี้ไม่ทันแล้ว
รับมือกับ DIGITALIZATION / โดย ลงทุนแมน
โลกนี้กำลังถูก DIGITIZED
ทุกอย่างบนโลกนี้กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
และโลก DIGITAL จะ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ โลกแห่งความจริง
กว่าเราจะรู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นว่าเราตามโลกนี้ไม่ทันแล้ว
Steven Kotler และ Peter Diamandis ผู้เขียนหนังสือ Bold ได้กล่าวถึงกระบวนการ 6D ของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีไว้
6D จะประกอบไปด้วย
1) Digitized เราคงไม่คิดว่าเสียงเพลง รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ DNA ของมนุษย์จะสามารถถูกบันทึกมาเป็นไฟล์ดิจิตอลได้
2) Deceptive หลายคนจะนึกว่าสิ่งที่มาแทนที่ยังอยู่อีกไกล แต่จริงๆแล้วมันใกล้กว่าที่เราคิด
3) Disruptive คนที่ปรับตัวไม่ทัน ก็จะถูกของใหม่ที่เป็นดิจิตอลเข้ามาทำลาย และแทนที่ในที่สุด
4) Demonetized เมื่อเทคโนโลยีมาแทนที่ จะทำให้ทุกอย่างราคาถูกลง ทุกวันนี้เราฟังเพลงฟรี ดูวิดีโอฟรี จากเมื่อก่อนเราต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อ แต่ตอนนี้ทุกอย่างฟรี
5) Dematerialized สุดท้ายหลายอย่างจะหายไปจากโลกความจริง และไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไป ตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดก็คงจะเป็น ฟิล์ม วิดีโอเทป ซีดี ที่เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักแล้วว่าเป็นอะไร
6) Democratized เมื่อทุกอย่างถูกทำให้อยู่ในโลกเสมือนก็จะควบคุมได้ยาก และมีเสรีมากขึ้น จนบางครั้งรัฐบาลก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Cryptocurrency Uber AirBnb
ในเรื่องนี้ถ้าองค์กรไหนปรับตัวไม่ทันก็จะถูกทำลาย
และเรื่องนี้จะมาเร็วกว่าที่เราคิด
และเรื่องนี้จะมาเร็วกว่าที่เราคิด
ถ้ายังจำกันได้
20 ปีที่แล้วเรายังเขียนจดหมาย
15 ปีที่แล้วเราเริ่มใช้เพจเจอร์
10 ปีที่แล้วเราเริ่มส่ง SMS
5 ปีที่แล้วเราเริ่มใช้ LINE
แค่การส่งข้อความก็เปลี่ยนรูปแบบไปทุก 5 ปี
20 ปีที่แล้วเรายังเขียนจดหมาย
15 ปีที่แล้วเราเริ่มใช้เพจเจอร์
10 ปีที่แล้วเราเริ่มส่ง SMS
5 ปีที่แล้วเราเริ่มใช้ LINE
แค่การส่งข้อความก็เปลี่ยนรูปแบบไปทุก 5 ปี
5 ปี เป็นเวลาที่เร็วเกินกว่าที่เราคิด
ของที่เราใช้อยู่ในวันนี้ที่เราคิดว่าดี เราแน่ใจแค่ไหนว่าจะใช้ได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า?
แล้วกิจการของเรา องค์กรของเราจะก้าวตามทันโลกได้หรือไม่
ตอนนี้มีอะไรอีกบ้างที่กำลังจะหายไป?
ร้านโชห่วย ร้านหนังสือ ร้านวัสดุก่อสร้าง วิทยุ ทีวี หรือแม้แต่ธุรกิจที่เราคาดไม่ถึงเช่น รถยนต์ ธนาคาร โรงแรม และ โรงผลิตไฟฟ้า เราแน่ใจแค่ไหนว่าเราจะแข่งกับคนอื่นได้ เราจะอยู่รอดได้ในธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ในตอนนี้ผู้ที่กำลังจะครอบครองโลกนี้ได้ก้าวไปถึงไหนแล้ว?
Google เข้ามาแทนห้องสมุดทั่วโลก ต่อไปนี้เราคงไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องสมุดเพื่อค้นหาอะไรอีกแล้ว ในเมื่อเรากดปุ่มค้นหาได้จากมือถือของเรา
Facebook เข้ามาแทนนิตยสาร หนังสือพิมพ์ทุกเล่มบนโลกนี้ เราจะต้องซื้อนิตยสารมาทำไม ในเมื่อมีเนื้อหาที่ทุกอย่างอยู่ตรงหน้าเรา และมันฉลาดพอที่จะรู้ด้วยว่าเราชอบเนื้อหาอะไร
Amazon เข้ามาทดแทนร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม เราจะเดินไปซื้อของที่ร้านค้าให้เมื่อยทำไม ในเมื่อเราแค่กดสั่ง สินค้าก็มาส่งถึงที่บ้านเรา
Airbnb เข้ามาทดแทนการจองที่พักแบบเดิม เราจะไปพักโรงแรมราคาแพงทำไม ในเมื่อเราสามารถจองที่พักราคาแสนถูกใจกลางเมือง
Tesla เข้ามาทดแทนรถที่ใช้น้ำมันแบบเดิม เราจะใช้รถแบบเก่าทำไม ในเมื่อรถที่ใช้ไฟฟ้า มีสมรรถนะดีกว่า และประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าหลายเท่า โดยตอนนี้ราคาขายรถรุ่น Model3 ของ Tesla ไม่ได้ต่างจากรถที่ใช้น้ำมัน
ที่น่าสนใจคือ เจ้าของธุรกิจเหล่านี้เพิ่งเริ่มธุรกิจมาไม่นาน และสามารถสำเร็จได้เพียงชั่วอายุคนเดียว
แต่รู้ไหมว่าบริษัทเหล่านี้ทุกบริษัทอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ เกือบทุกบริษัทอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่า Silicon Valley (ซิลิคอน แวลลีย์)
แล้วเราสามารถลุกขึ้นมาทำอะไรใหม่ๆให้เหมือนกับบริษัทเหล่านี้ได้บ้างไหม? เรามีนวัตกรรมอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ได้บ้างไหม?
เรื่องของ นวัตกรรม ดูเหมือนจะฟังดูง่าย แต่จริงๆแล้วทำให้เกิดยาก ถ้าเราไม่เริ่ม ก็ดูเหมือนว่าจะรอวันที่ถูกคนอื่นแซงหน้าไป ดังนั้น “การเริ่มต้น” น่าจะเป็นทางเลือกเดียวที่มีอยู่
ถ้าเราเป็นผู้บริหาร หรือ เจ้าของธุรกิจ ก็ควรจะเตรียมตัวเอง เตรียมองค์กร เตรียมคน ให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง แต่จะเริ่มยังไง ก็น่าจะต้องมีตัวช่วยในการเรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์โดยตรงจากมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน Silicon Valley
โครงการ LDW ย่อมาจาก Leading in a Disruptive World แปลตรงตัวก็คือโปรแกรมสำหรับการเตรียมตัวการที่จะเป็นผู้นำในโลกแห่งการ Disruptive ในยุคนี้
โปรแกรมนี้ไม่ได้จัดขึ้นในประเทศไทยแต่เป็นที่สหรัฐอเมริกา
โครงการนี้เป็นโครงการที่ร่วมออกแบบเป็นพิเศษระหว่าง The Stanford Center for Professional Development และ SEAC ในการจัดหลักสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับผู้บริหารระดับสูง หรือเจ้าของธุรกิจ
เราจะได้เรียนรู้โดยตรงกับอาจารย์ระดับ Top Professor หลายคนจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้
โปรแกรมจะจัดขึ้นที่ Stanford University Campus ใน Palo Alto รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งที่นี่คือ Silicon Valley ที่หลายคนพูดถึง
โปรแกรมใช้เวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ถึง 4 พฤษภาคม 2018 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว
เราน่าจะได้เปิดมุมมองไปในสิ่งที่เราอาจจะยังไม่เคยฟัง ทั้งในเชิงทฤษฎี และ กรณีศึกษาจากธุรกิจจริง
ถ้าถามว่าศิษย์เก่าของโปรแกรมนี้มีใครเรียนบ้าง ก็คงต้องตอบว่า เป็น เจ้าของธุรกิจ และ ผู้บริหารระดับสูงในองค์กรชั้นนำของประเทศ ในทุกหมวดธุรกิจ ตั้งแต่ ธนาคาร การเงิน พลังงาน โรงแรม วัสดุก่อสร้าง โรงแรม และ อสังหาริมทรัพย์
ถ้าองค์กรของเราอยากทำเรื่องใหม่ๆ อยากเปิดหูเปิดตา และอยากได้ network ในระดับเดียวกัน และที่สำคัญคือสนใจในการรับมือกับ Digitalization คอร์สนี้จะได้ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์
ดูคลิปตัวอย่างได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=G0kvNOtlQeM&feature=youtu.be
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ 086-403-9238
หรือ prapairat_p@seasiacenter.com
www.seasiacenter.com/ldw
หรือ prapairat_p@seasiacenter.com
www.seasiacenter.com/ldw