<ผู้สนับสนุน> บางทีชีวิตก็ไม่อยากมีความเสี่ยง
<ผู้สนับสนุน>
บางทีชีวิตก็ไม่อยากมีความเสี่ยง / โดย ลงทุนแมน
ที่ผ่านมา เวลาเราพูดถึงการวางแผนการเงินเพื่อให้มีความมั่นคั่งในอนาคต หลายคนก็มักจะนึกถึงการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่สูงๆ เพื่อให้เงินที่เราใส่ลงไป งอกเงยขึ้นมามากๆ
บางทีชีวิตก็ไม่อยากมีความเสี่ยง / โดย ลงทุนแมน
ที่ผ่านมา เวลาเราพูดถึงการวางแผนการเงินเพื่อให้มีความมั่นคั่งในอนาคต หลายคนก็มักจะนึกถึงการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่สูงๆ เพื่อให้เงินที่เราใส่ลงไป งอกเงยขึ้นมามากๆ
แต่ในโลกของการลงทุน
ผลตอบแทนที่สูง ก็ย่อมจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงไปด้วย
ผลตอบแทนที่สูง ก็ย่อมจะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงไปด้วย
พูดง่ายๆ คือ ถ้ามีโอกาสที่จะได้เงินมาก เวลาที่แย่ๆ ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนมากเช่นกัน
ซึ่งความเสี่ยงตรงนี้ ก็คงไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน
เพราะสำหรับบางคนแล้ว ความมั่นคงก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าความมั่งคั่ง
บางคนอาจต้องการแค่มีเงินก้อนสำรองเอาไว้ใช้ในยามจำเป็น หรืออาจจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแล้ว อยากจะแบ่งส่วนหนึ่งเก็บไว้ในสินทรัพย์ไม่เสี่ยงด้วยเช่นกัน
ถ้าหากเราไม่ต้องการที่จะรับความเสี่ยงใดๆ ที่จะมีโอกาสทำให้เงินต้นลดน้อยลงแม้แต่บาทเดียว
ถ้าเป็นเมื่อก่อน อาจนำเงินไปใส่โอ่งฝังดินเอาไว้
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดตอนนี้ คงเป็นการฝากเงินเอาไว้ในธนาคาร เพราะนอกจากจะมีความเสี่ยงน้อยมากที่จะเสียเงินต้นแล้ว ยังจะได้ดอกเบี้ยด้วย
ส่วนใหญ่แล้ว การฝากเงินกับธนาคารเพื่อออมไว้ใช้ในอนาคต ก็จะมีอยู่ 2 แบบ คือ ออมทรัพย์ และ ฝากประจำ
ข้อดีของการฝากแบบออมทรัพย์คือ มีความคล่องตัว ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ อยากจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้
แต่ข้อเสียก็อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่า อัตราดอกเบี้ยบัญชีออมทรัพย์ของทุกธนาคารในปัจจุบันนั้นน้อยเหลือเกิน โดยเฉลี่ยแล้วก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 0.50% ต่อปี
ส่วนการฝากแบบประจำนั้น ถึงจะให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าออมทรัพย์ แต่ก็ต้องแลกกับความคล่องตัว เพราะนอกจากเราจะต้องฝากเพิ่มเข้าไปใหม่ทุกเดือนแล้ว ยังไม่สามารถถอนออกมาใช้ก่อนเวลาที่กำหนดได้
ถ้าเรามีเงินเก็บอยู่ ควรจะเลือกฝากเงินแบบไหนดี?
คำตอบก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน
แต่รู้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ เราอาจไม่จำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว
ลงทุนแมนจะขอแนะนำให้รู้จักกับ
เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ “อัลตร้าเซฟวิ่ง” (ULTRA SAVINGS) ของ ธนาคารธนชาต
เนื่องจากเป็นบัญชีที่รวมเอาข้อดีของการฝากเงินทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกัน
ข้อดีของ ULTRA SAVINGS คืออะไร?
ULTRA SAVINGS เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ เพราะฉะนั้นจะไม่จำเป็นต้องฝากประจำทุกเดือน
และจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 ครั้งต่อเดือน (ถ้าถอนเกิน มีค่าธรรมเนียม 50 บาทต่อครั้ง)
ซึ่งก็น่าจะเหมาะสมกับคนเงินที่เราจะเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ได้ต้องการถอนออกมาใช้บ่อยๆ
บัญชีเงินฝากนี้จะให้ดอกเบี้ยได้เทียบเท่าการฝากประจำคือ สูงสุด 1.50% ต่อปี ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ทั่วไปมากถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ ยังคิดดอกเบี้ยเงินฝากให้เราทุกวัน (Daily Compounding) และจะจ่ายดอกเบี้ยให้กับเราทุกเดือน
อัตราดอกเบี้ยของ ULTRA SAVINGS
วงเงินฝากไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 0.80% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 100,000 แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 10 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 50 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.30% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 0.80% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 100,000 แต่ไม่ถึง 10 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 10 ล้านบาท แต่ไม่ถึง 50 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.30% ต่อปี
วงเงินฝากตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ย 0.80% ต่อปี
ถ้าดูจากข้อดีต่างๆ ของ ULTRA SAVINGS แล้ว ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะมีลักษณะเด่นตรงที่เป็นบัญชีออมทรัพย์ แต่ได้รับดอกเบี้ยเหมือนบัญชีฝากประจำ สามารถถอนออกมาใช้เมื่อจำเป็นได้ตลอดเวลา
ถ้าถามว่าเงินฝากประเภทนี้เหมาะกับใคร?
ก็น่าจะเหมาะกับคนที่มีเงินก้อนในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะจำนวนเงินในช่วงตั้งแต่ 100,000 ไปจนถึงเกือบ 50 ล้านบาท
อาจจะเป็นคนที่มีอาชีพพนักงานเงินเดือนระดับกลาง ไปจนถึง คนที่เป็นเจ้าของกิจการ ที่มีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง โดยไม่อยากนำเงินนั้นไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หรือ คนที่มีเงินเย็นเป็นก้อนและมองหาแหล่งเก็บเงินที่ความเสี่ยงต่ำหรือไม่มีความเสี่ยงเลย
ถ้าเรามีลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงไว้บ้างแล้ว และ รู้สึกว่าชีวิตเราอาจไม่ต้องการรับความเสี่ยงที่มากเกินไป แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากธรรมดา เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ “อัลตร้าเซฟวิ่งส์” ( ULTRA SAVINGS ) ของ ธนาคารธนชาต ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการออมเงิน..