เบื้องหลัง SC Asset สู่เป้าหมายยอดขาย 150,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
เบื้องหลัง SC Asset สู่เป้าหมายยอดขาย 150,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี
SC Asset X ลงทุนแมน
SC Asset X ลงทุนแมน
ช่วงที่ผ่านมา เราคงได้ยินข่าวตลาดอสังหาฯ กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เมื่อหลาย ๆ บริษัทต่างประกาศผลประกอบการที่เติบโตอย่างเกินคาด
เมื่อหลาย ๆ บริษัทต่างประกาศผลประกอบการที่เติบโตอย่างเกินคาด
แต่.. หนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจก็คือ SC Asset
โดยปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขาย 24,468 ล้านบาท เติบโต 12%
พร้อมทั้ง กำไรสุทธิ 2,556 ล้านบาท เติบโต 24%
โดยปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขาย 24,468 ล้านบาท เติบโต 12%
พร้อมทั้ง กำไรสุทธิ 2,556 ล้านบาท เติบโต 24%
ส่วนเหตุผลที่น่าสนใจก็มาจากเบื้องหลังการเติบโตของ SC Asset
คือการเป็นบริษัทอสังหาฯ เพียงไม่กี่รายในเมืองไทย ที่เชื่อว่าโมเดลธุรกิจ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางรอด แต่ยังเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
คือการเป็นบริษัทอสังหาฯ เพียงไม่กี่รายในเมืองไทย ที่เชื่อว่าโมเดลธุรกิจ “ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่ทางรอด แต่ยังเป็นโอกาสที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ด้วยความเชื่อนี้เอง ทำให้คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ CEO บริษัท SC Asset กล้าที่จะตั้งเป้าหมาย ภายใน 5 ปี บริษัทจะมีรายได้รวมกันสูงถึง 150,000 ล้านบาท
ด้วยแนวคิด SC Thriving Beyond เติบโตแบบมีคุณภาพ แบบเหนือชั้น และยั่งยืน ที่จะสร้าง “คุณค่า” ให้แก่ 4 ฝ่ายที่อยู่ในวงจรธุรกิจ คือ ลูกค้า, พนักงาน, สิ่งแวดล้อม และองค์กร
ด้วยแนวคิด SC Thriving Beyond เติบโตแบบมีคุณภาพ แบบเหนือชั้น และยั่งยืน ที่จะสร้าง “คุณค่า” ให้แก่ 4 ฝ่ายที่อยู่ในวงจรธุรกิจ คือ ลูกค้า, พนักงาน, สิ่งแวดล้อม และองค์กร
คุณณัฐพงศ์ ยังบอกว่า “คุณค่า” มันมีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง
คือ มันจะหมุนเวียนสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย
คือ มันจะหมุนเวียนสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย
SC Asset จะใช้พลังของ “คุณค่า” หมุนเวียนสร้างการเติบโตให้แก่ทุกฝ่ายด้วยวิธีไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดแรกสุดคือ “ลูกค้า” ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย
โดย ณ เวลานี้ SC Asset กำลังทำในสิ่งที่บริษัทอสังหาฯ รายอื่น ๆ ไม่ทำอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว
โดย ณ เวลานี้ SC Asset กำลังทำในสิ่งที่บริษัทอสังหาฯ รายอื่น ๆ ไม่ทำอยู่หลายเรื่องเลยทีเดียว
รู้หรือไม่ ในปีนี้ SC Asset มีการเปิดตัว 25 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 40,000 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 22 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% ของมูลค่าเงินลงทุนพัฒนาโครงการทั้งหมด
โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 22 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 75% ของมูลค่าเงินลงทุนพัฒนาโครงการทั้งหมด
โดยจะมีโครงการแนวราบหลากหลาย ครอบคลุมทุกระดับราคา เริ่มต้นตั้งแต่ 2.5 ล้านบาท จนถึงกว่า 150 ล้านบาท
พร้อมกับการสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เป็น Segment ใหม่ ๆ
อย่างเช่น “บ้านคนโสด” ที่เปิดตัวไปแล้วได้ผลตอบรับดีเกินคาด หรือ “บ้านเกมเมอร์” ที่จะเปิดตัวในปีนี้
จนถึงโครงการบ้านที่ออกแบบเฉพาะที่จับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป
พร้อมกับการสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เป็น Segment ใหม่ ๆ
อย่างเช่น “บ้านคนโสด” ที่เปิดตัวไปแล้วได้ผลตอบรับดีเกินคาด หรือ “บ้านเกมเมอร์” ที่จะเปิดตัวในปีนี้
จนถึงโครงการบ้านที่ออกแบบเฉพาะที่จับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป
ส่วนเหตุผลที่ SC Asset ให้ความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบมากเป็นพิเศษ
เพราะนี่คือ สมรภูมิที่บริษัทแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวราคากว่า 10 ล้านบาท ที่ SC Asset มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน
เพราะนี่คือ สมรภูมิที่บริษัทแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตลาดบ้านเดี่ยวราคากว่า 10 ล้านบาท ที่ SC Asset มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างยาวนาน
แต่ที่เป็นปรากฏการณ์ในตลาดอสังหาฯ ก็คือ การเปิดตัวแบรนด์ “95E1”
บ้านหรูระดับ Ultimate Luxury ในราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท มีเพียง 10 ยูนิต
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่บริษัทอสังหาฯ จะกล้าขายบ้านเดี่ยวราคาสูงระดับนี้
บ้านหรูระดับ Ultimate Luxury ในราคาเริ่มต้น 100 ล้านบาท มีเพียง 10 ยูนิต
ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยที่บริษัทอสังหาฯ จะกล้าขายบ้านเดี่ยวราคาสูงระดับนี้
แต่คุณณัฐพงศ์ บอกว่า ที่ผ่านมาหากพูดถึงบ้านหรู ชื่อของ SC Asset เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง
ทำให้การจะสร้างบ้านราคา 100 ล้านบาทขายนั้น ลูกค้าจะมั่นใจทันทีว่า SC Asset จะสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเกินความคาดหมาย
ทำให้การจะสร้างบ้านราคา 100 ล้านบาทขายนั้น ลูกค้าจะมั่นใจทันทีว่า SC Asset จะสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเกินความคาดหมาย
ส่วนคอนโดมิเนียมปีนี้จะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท
ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ ในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ SC Asset เข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมในราคาเข้าถึงง่าย ที่มีราคา 2 ล้านต้น ๆ ในทำเลย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม
ที่เป็นไฮไลต์ก็คือ ในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่ SC Asset เข้าสู่ตลาดคอนโดมิเนียมในราคาเข้าถึงง่าย ที่มีราคา 2 ล้านต้น ๆ ในทำเลย่านรัชดา-พระราม 9 ใกล้ MRT ศูนย์วัฒนธรรม
คุณณัฐพงศ์ บอกว่า นอกจากทุก ๆ โครงการจะเป็นที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงแล้วนั้น
เวลานี้ SC Asset ยังขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่หลากหลาย
และครอบคลุมมากกว่าในอดีต
เวลานี้ SC Asset ยังขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพื่อเป็นการตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่หลากหลาย
และครอบคลุมมากกว่าในอดีต
อย่างไรก็ตาม คนที่จะทำเรื่องทั้งหมดให้เกิดขึ้นจริงได้ก็คือ “พนักงาน”
ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้ SC Asset มีนโยบายให้พนักงานสร้าง คุณค่า ให้แก่ตัวเอง
แล้วนำ “คุณค่า” นั้นส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มี “คุณค่า” ให้แก่ลูกค้า
แล้วนำ “คุณค่า” นั้นส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มี “คุณค่า” ให้แก่ลูกค้า
หลายคนอาจไม่รู้ว่า ช่วงที่ผ่านมา SC Asset ลงทุนไปกับโครงสร้างต่าง ๆ ในบริษัท
เพื่อให้ข้อมูลการทำงานทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ จนถึงมีการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้
เพื่อให้ข้อมูลการทำงานทุกอย่างเชื่อมต่อกันได้ จนถึงมีการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้
นอกจากจะลดขั้นตอนการทำงาน และทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วขึ้น
ยังทำให้พนักงาน Upskill การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
เป็นการเพิ่ม “คุณค่า” ให้ทั้ง 2 ทาง คือตัวพนักงานและบริษัท นั่นเอง
ยังทำให้พนักงาน Upskill การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
เป็นการเพิ่ม “คุณค่า” ให้ทั้ง 2 ทาง คือตัวพนักงานและบริษัท นั่นเอง
เรื่องต่อมาคือ สิ่งแวดล้อม หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ใกล้ตัวเรามาก
เพราะที่ผ่านมา คงได้ยินภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก
และถ้าจะให้เรื่องนี้ใกล้ตัวเราหน่อยก็คือ ฝุ่น PM2.5 ที่กำลังสร้างความลำบากให้หลายคน
และถ้าจะให้เรื่องนี้ใกล้ตัวเราหน่อยก็คือ ฝุ่น PM2.5 ที่กำลังสร้างความลำบากให้หลายคน
พอเป็นแบบนี้ ทำให้ SC Asset พยายามทุกวิถีทาง เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 25% ภายในปี 2573
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยที่ใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีที่ติดตั้งในที่อยู่อาศัย จนถึงเมื่อสร้างที่อยู่อาศัยเสร็จ ก็จะมีสารพัดบริการหลังการขายต่าง ๆ ที่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างที่อยู่อาศัยที่ใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีที่ติดตั้งในที่อยู่อาศัย จนถึงเมื่อสร้างที่อยู่อาศัยเสร็จ ก็จะมีสารพัดบริการหลังการขายต่าง ๆ ที่จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก
แล้วเชื่อหรือไม่ว่า การสร้างคุณค่าทั้งหมดที่กล่าวมา.. สุดท้ายมันจะกลับมาที่การเติบโตของบริษัท
โดยคุณณัฐพงศ์ อธิบายง่าย ๆ ให้เห็นภาพว่า
“เมื่อพนักงานทำงานมีคุณค่า ก็จะส่งมอบที่อยู่อาศัยที่มีคุณค่า และการเป็นบริษัทที่เห็นคุณค่าสิ่งแวดล้อม ก็จะชนะใจผู้บริโภคยุคนี้
เมื่อลูกค้ามีภาพจำแบบนี้ เวลาจะซื้อที่อยู่อาศัยหรือแนะนำคนรู้จัก
ชื่อของ SC Asset จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ซึ่งมันก็จะ Return กลับมาสู่รายได้บริษัท”
ชื่อของ SC Asset จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ซึ่งมันก็จะ Return กลับมาสู่รายได้บริษัท”
โดยปีนี้ SC Asset ตั้งเป้ายอดขาย 30,000 ล้านบาท เติบโต 23%
ส่วนเป้าหมาย 5 ปี ที่จะมีรายได้รวมกันสูงถึง 150,000 ล้านบาท จะทำได้หรือไม่นั้น
ส่วนเป้าหมาย 5 ปี ที่จะมีรายได้รวมกันสูงถึง 150,000 ล้านบาท จะทำได้หรือไม่นั้น
คงต้องรอเวลาเป็นตัวชี้วัด แต่ที่แน่ ๆ ทุก ๆ การเติบโตต่อไปนี้ของ SC Asset จะเป็นการเติบโตที่มีคุณค่าและทรงพลัง
มันก็ไม่ต่างจากชีวิตคนเรา เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราสร้างคุณค่าให้กับคนรอบข้าง
สิ่งที่เราจะได้กลับมาอย่างไม่ต้องร้องขอก็คือ ผู้คนรอบข้าง ก็จะให้คุณค่าแก่ตัวเรา
สิ่งที่เราจะได้กลับมาอย่างไม่ต้องร้องขอก็คือ ผู้คนรอบข้าง ก็จะให้คุณค่าแก่ตัวเรา
เป็นโมเดลธุรกิจความยั่งยืนของ SC Asset ที่กล้าคิดต่างและไม่เหมือนใคร
Reference
-งานแถลงข่าว SC Asset
-งานแถลงข่าว SC Asset