“Corner หุ้น” วิธีไล่ราคาหุ้นชนเพดาน ของนักลงทุนรายใหญ่

“Corner หุ้น” วิธีไล่ราคาหุ้นชนเพดาน ของนักลงทุนรายใหญ่

“Corner หุ้น” วิธีไล่ราคาหุ้นชนเพดาน ของนักลงทุนรายใหญ่ /โดย ลงทุนแมน
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เราน่าจะมีโอกาสได้เห็นหุ้นขนาดเล็ก ไปจนถึงหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทย ถูกดันราคาทะลุเกินมูลค่าที่แท้จริงไปไกล
หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือหุ้นของบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ที่ตอนต้นปี 2021 มีมูลค่าบริษัทอยู่เพียง 1,484 ล้านบาท
ผ่านไปเพียงปีเดียว JTS กลับถูกดันราคา จนมีมูลค่ามากถึง 440,000 ล้านบาท กลายเป็น 1 ใน 10 กิจการที่มีมูลค่ามากที่สุดในตลาดหุ้นบ้านเรา
วิธีการแบบนี้ เราเรียกว่า หุ้นถูก “Cornering the Market” หรือถูก Corner
อธิบายแบบง่าย ๆ ก็เหมือนกับการที่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่กวาดซื้อหุ้น จนมีอำนาจในการต้อนราคาสินทรัพย์ให้จนมุมทะลุเพดาน
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าหุ้น หรือสินทรัพย์ประเภทไหน กำลังถูกต้อนให้จนมุม ? ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ข้อสังเกตแรก เราสามารถดูได้จาก “Market Cap” หรือ มูลค่าบริษัท
หุ้นขนาดเล็ก หรือหุ้นที่มี Market Cap ต่ำ อย่างในตลาดหุ้นไทย คือหลักร้อยหรือหลักพันล้านบาท มีโอกาสถูก Corner ค่อนข้างสูงกว่าหุ้นขนาดใหญ่
เหตุผลก็เพราะว่าหุ้นกลุ่มนี้ มีโอกาสถูกควบคุมราคาหุ้นได้ ด้วยการใช้เม็ดเงินไม่มากนัก
แต่ก็ต้องบอกว่า ในปัจจุบัน ก็มีหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดใหญ่บางตัว ถูก Corner ได้เช่นกัน
ยกตัวอย่างหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นไทย ก็เช่น DELTA ที่ราคาพุ่งขึ้น จน Market Cap สูงพอที่จะผ่านเกณฑ์สำหรับถูกใช้คำนวณในดัชนี เช่น SET50
พอถูกนำเข้าไปคำนวณในดัชนีข้างต้น ก็ทำให้กองทุนรวมดัชนีหุ้น หรือ Index Fund ต้องนำเงินมาซื้อหุ้นเหล่านี้ เพื่อทำผลตอบแทนให้ใกล้เคียงดัชนี
พอเรื่องเป็นแบบนี้ มันก็ยิ่งส่งผลกระทบเป็นโดมิโน และยิ่งทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น หุ้นที่ซื้อขายในตลาดลดลง
ลักษณะนี้ เราก็ถือว่าเข้าข่ายหุ้นที่ถูก Corner ได้เช่นกัน
ต่อมา ที่เราต้องดูก็คือ “Free Float”
Free Float หรือ สัดส่วนการถือหุ้นของรายย่อย
โดยมีหลักในการดู Free Float ก็คือ
- หุ้นตัวไหนที่มีสัดส่วน Free Float สูง
แปลว่า มีผู้ลงทุนรายย่อยถือหุ้นตัวนั้นมาก สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นจะสูง
- หุ้นตัวไหนที่มีสัดส่วน Free Float ต่ำ
แปลว่า มีผู้ลงทุนรายย่อยถือหุ้นตัวนั้นน้อย สภาพคล่องในการซื้อขายหุ้นจะต่ำ
เช่น ถ้าบริษัท A มี Free Float 75%
หมายความว่า บริษัท A มีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นรวมกันอยู่ที่ 25% ขณะที่นักลงทุนรายย่อยถือหุ้นรวมกัน 75%
ในทางตรงข้าม ถ้าบริษัท B มี Free Float 25% หมายความว่า บริษัท B มีผู้ถือหุ้นใหญ่ถือหุ้นรวมกันอยู่ที่ 75% ขณะที่นักลงทุนรายย่อยถือหุ้นรวมกัน 25%
หุ้นที่มี Free Float ต่ำ จึงมีโอกาสที่จะถูก Corner จากการถูกซื้อ จนทำให้ปริมาณหุ้นเหลือน้อยลง ส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
โดยส่วนมากแล้ว หุ้นที่ถูก Corner มักจะมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว กว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
ทำให้มูลค่ากิจการ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับกำไรที่บริษัททำได้จริง หรือ P/E อยู่ในระดับสูงมาก
ในกรณีของตัวอย่างที่ได้เล่าไปอย่าง JTS รู้หรือไม่ว่าบริษัทแห่งนี้เคยมีอัตราส่วน P/E สูงทะลุ 1,000 เท่า
อธิบายเป็นคำพูดง่าย ๆ คือ หากบริษัททำกำไรได้เท่าเดิม คนที่ถือหุ้นที่มูลค่าเท่านี้ ต้องใช้เวลาอีก 1,000 ปี เพื่อเท่าทุน
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่หุ้นที่ถูกถือโดยนักลงทุนรายใหญ่เพียงไม่กี่คน ยังไม่ถูกขายออกมา
หุ้นที่ถูก Corner นั้น ก็อาจมีราคาและค่า P/E สูงลิ่วเป็นเวลาหลายปีได้เหมือนกัน เราในฐานะนักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบทุกครั้ง
ทั้งหมดนี้ก็คือ บทสรุปของการ Corner หุ้น ที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม ซึ่งมันก็น่าจะช่วยให้เราเข้าใจ รวมทั้งระมัดระวังการลงทุนได้ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
หนึ่งในการ Corner สินทรัพย์ทางการเงิน ที่อื้อฉาวมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก มีชื่อว่าเหตุการณ์ “Silver Thursday” ที่เกิดขึ้นในปี 1980
โดยมี 3 พี่น้องตระกูล Hunt นักลงทุนชาวอเมริกัน ได้ไล่ซื้อแร่เงินผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในปริมาณมาก
ซึ่งเมื่อคิดเป็นปริมาณแล้ว สูงกว่า 1 ใน 3 ของปริมาณแร่เงินทั้งโลก ส่งผลให้ราคาซื้อขายล่วงหน้าของแร่เงินพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรง
จนเรื่องนี้สร้างความปั่นป่วนให้แก่หลายอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แร่เงินเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า และมีคนออกมาประณามการกระทำของ 3 พี่น้องตระกูล Hunt ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของเหตุการณ์ในครั้งนี้
ทำให้ตอนนั้น คณะกรรมการของ New York Mercantile Exchange (NYMEX) ที่ทำหน้าที่กำกับดูแลตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ ต้องมาตรวจสอบเรื่องนี้
จนนักลงทุนเทขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแร่เงินกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคาของแร่เงินนั้นดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้ก็ส่งผลให้ 3 พี่น้องตระกูล Hunt ขาดทุนจากการ Corner ไปกว่า 100,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.investopedia.com/terms/c/corneramarket.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Silver_Thursday
-https://www.longtunman.com/30665
-https://en.wikipedia.org/wiki/Cornering_the_market
-https://corporatefinanceinstitute.com/resources/management/cornering-the-market

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon