รายได้ของดีลเลอร์ Mercedes-Benz ในไทย
รายได้ของดีลเลอร์ Mercedes-Benz ในไทย / โดย ลงทุนแมน
Mercedes-Benz รถยนต์หรูที่อยู่คู่เมืองไทย
แต่เคยสงสัยไหมว่าใครเป็นตัวแทนขายในไทย
แล้วตัวแทนขายเหล่านั้นมีรายได้เท่าไร
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 แบรนด์รถยนต์ “Mercedes-Benz” ได้เข้ามาในเมืองไทยเป็นครั้งแรก
โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้นำเข้ามาถวายรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2447 หรือกว่า 100 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกของประเทศไทย
และในปีต่อมาก็ได้มีการนำเข้ามาอีกคัน โดยเป็นรถเก๋งสีแดงรุ่นปี พ.ศ. 2448 เครื่องยนต์ 4 สูบ 28 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 73 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้รับพระราชทานนามว่า “แก้วจักรพรรดิ์”
ในปี พ.ศ. 2492 คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ รับซื้อกิจการบริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด
ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกรายใหญ่ในเมืองไทย รวมถึงเป็นผู้นำเข้ารถยนต์ชื่อดังอย่าง Chrysler (ไครสเลอร์) และ Renault (เรย์โนลต์)
ในปี พ.ศ. 2500 ธนบุรีพานิชได้มีการติดต่อไปที่ประเทศเยอรมนีเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการ ทำให้ขณะนั้น ธนบุรีพานิช เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedez-Benz แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
แต่หลังจากนั้น
ในปี พ.ศ. 2541 Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยด้วยตนเอง ผ่านการตั้งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
ดังนั้น ธนบุรีพานิชจึงแปรสภาพจากผู้นำเข้า Mercedes-Benz แต่เพียงผู้เดียว กลายเป็นเป็นหนึ่งในผู้จำหน่าย (dealer) ของ Mercedes-Benz ในเมืองไทยที่มีรวมทั้งสิ้น 33 แห่ง
ตัวอย่าง Dealer ที่มีชื่อเสียงของ Mercedes-Benz ที่เราอาจคุ้นเคยกันได้แก่
1. บจก.ธนบุรีพานิช (เบนซ์ ธนบุรี)
ปี 2557 รายได้ 5,300 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 5,300 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 4,700 ล้านบาท
เครือบริษัทนี้ยังมีธุรกิจ “วิริยะประกันภัย” และสถานที่ท่องเที่ยว “เมืองโบราณ” อีกด้วย
2. บจก.สตาร์แฟลก (เบนซ์ Star Flag)
ปี 2557 รายได้ 2,700 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 3,500 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 4,000 ล้านบาท
เครือบริษัทนี้ยังมีธุรกิจเช่ารถชื่อดัง “Thai Rent A Car”
3. บจก.กลุ่มทองหล่อ (เบนซ์ทองหล่อ)
ปี 2557 รายได้ 3,000 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 3,200 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 3,000 ล้านบาท
โดยมีเจ้าของที่หลายคนอาจคุ้นเคยคือ คุณวสันต์ “เบนซ์ทองหล่อ”
4. บจก. เมโทร ออโต้เฮ้าส์
ปี 2557 รายได้ 375 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,800 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 1,900 ล้านบาท
โดยมีเจ้าของและ CEO เป็นนักร้องชื่อดัง “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” ศิลปินวง Groove Rider
ส่วนบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มีรายได้ดังนี้
ปี 2557 รายได้ 39,000 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 42,000 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 43,000 ล้านบาท
จากยอดขายเป็นหมื่นล้าน ดูเหมือนว่าแบรนด์ Mercedes-Benz ยังคงเป็นแบรนด์รถยนต์หรูในดวงใจของคนไทย
แต่…การรักษาแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ปัจจุบันภาพลักษณ์ของรถ Mercedes-Benz หากถามคนรุ่นใหม่แล้วนั้น ก็จะได้คำตอบว่าดู “แก่”
ต่างจาก BMW ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่ให้ความเป็นคนรุ่นใหม่มากกว่า
จึงเป็นโจทย์ยากที่นักการตลาดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องทำงานอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามต้องขอหมายเหตุว่าความชื่นชอบของแบรนด์อาจแตกต่างกันได้แล้วแต่บุคคล
จริงๆ แล้วสาระสำคัญคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้รถแบรนด์อะไร
รถก็เป็นแค่พาหนะคันหนึ่งที่ทำให้เราเดินทางไปถึงเป้าหมาย
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าก็คงจะเป็นเรื่อง เป้าหมายที่เราเดินทางไปนั้น จะเป็นที่ไหน
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็น คนที่นั่งคู่กับเราในรถนั้นเป็นใคร
ถ้าเป็นคนที่เราอยากอยู่ด้วย ต่อให้เป็นรถแบรนด์ถูกแค่ไหน เราก็คงมีความสุขกว่า คนขับรถหรู ที่นั่งคู่กับคนที่ไม่อยากอยู่ด้วย..
----------------------
<ad> นอกจากเรื่องรถแล้ว ลองมาดูเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูมีคุณภาพ
ขอแนะนำ 'งานไม้ ที่เป็นได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์'
อุด-ทะ-ยาน [ut-tha-yan] เฟอร์นิเจอร์งานไม้ของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น 'Wood Slab Enthusiasts' หรือ 'ผู้ที่รักในงานไม้แผ่นเดียว' โดยให้ความสําคัญและคุณค่าของการคงรูปทรงธรรมชาติ ผสมผสานกับการออกแบบที่ทันสมัย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tel: 09-242424-71 / Line ID: @utthayandesign / FB & IG: Utthayan / website: www.utthayan.com
----------------------
Reference
-http://www.thonburi.com
-https://th.carro.co/blog/king-rama-5-royal-cars/
[4281].
แต่เคยสงสัยไหมว่าใครเป็นตัวแทนขายในไทย
แล้วตัวแทนขายเหล่านั้นมีรายได้เท่าไร
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 แบรนด์รถยนต์ “Mercedes-Benz” ได้เข้ามาในเมืองไทยเป็นครั้งแรก
โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ได้นำเข้ามาถวายรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2447 หรือกว่า 100 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นรถยนต์พระที่นั่งคันแรกของประเทศไทย
และในปีต่อมาก็ได้มีการนำเข้ามาอีกคัน โดยเป็นรถเก๋งสีแดงรุ่นปี พ.ศ. 2448 เครื่องยนต์ 4 สูบ 28 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 73 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้รับพระราชทานนามว่า “แก้วจักรพรรดิ์”
ในปี พ.ศ. 2492 คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ รับซื้อกิจการบริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด
ซึ่งดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออกรายใหญ่ในเมืองไทย รวมถึงเป็นผู้นำเข้ารถยนต์ชื่อดังอย่าง Chrysler (ไครสเลอร์) และ Renault (เรย์โนลต์)
ในปี พ.ศ. 2500 ธนบุรีพานิชได้มีการติดต่อไปที่ประเทศเยอรมนีเพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการ ทำให้ขณะนั้น ธนบุรีพานิช เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ Mercedez-Benz แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
แต่หลังจากนั้น
ในปี พ.ศ. 2541 Daimler AG บริษัทแม่ของ Mercedes-Benz ได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยด้วยตนเอง ผ่านการตั้งบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์มาร์เก็ตติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่ง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
ดังนั้น ธนบุรีพานิชจึงแปรสภาพจากผู้นำเข้า Mercedes-Benz แต่เพียงผู้เดียว กลายเป็นเป็นหนึ่งในผู้จำหน่าย (dealer) ของ Mercedes-Benz ในเมืองไทยที่มีรวมทั้งสิ้น 33 แห่ง
ตัวอย่าง Dealer ที่มีชื่อเสียงของ Mercedes-Benz ที่เราอาจคุ้นเคยกันได้แก่
1. บจก.ธนบุรีพานิช (เบนซ์ ธนบุรี)
ปี 2557 รายได้ 5,300 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 5,300 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 4,700 ล้านบาท
เครือบริษัทนี้ยังมีธุรกิจ “วิริยะประกันภัย” และสถานที่ท่องเที่ยว “เมืองโบราณ” อีกด้วย
2. บจก.สตาร์แฟลก (เบนซ์ Star Flag)
ปี 2557 รายได้ 2,700 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 3,500 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 4,000 ล้านบาท
เครือบริษัทนี้ยังมีธุรกิจเช่ารถชื่อดัง “Thai Rent A Car”
3. บจก.กลุ่มทองหล่อ (เบนซ์ทองหล่อ)
ปี 2557 รายได้ 3,000 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 3,200 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 3,000 ล้านบาท
โดยมีเจ้าของที่หลายคนอาจคุ้นเคยคือ คุณวสันต์ “เบนซ์ทองหล่อ”
4. บจก. เมโทร ออโต้เฮ้าส์
ปี 2557 รายได้ 375 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,800 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 1,900 ล้านบาท
โดยมีเจ้าของและ CEO เป็นนักร้องชื่อดัง “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” ศิลปินวง Groove Rider
ส่วนบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด มีรายได้ดังนี้
ปี 2557 รายได้ 39,000 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 42,000 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 43,000 ล้านบาท
จากยอดขายเป็นหมื่นล้าน ดูเหมือนว่าแบรนด์ Mercedes-Benz ยังคงเป็นแบรนด์รถยนต์หรูในดวงใจของคนไทย
แต่…การรักษาแบรนด์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ปัจจุบันภาพลักษณ์ของรถ Mercedes-Benz หากถามคนรุ่นใหม่แล้วนั้น ก็จะได้คำตอบว่าดู “แก่”
ต่างจาก BMW ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่ให้ความเป็นคนรุ่นใหม่มากกว่า
จึงเป็นโจทย์ยากที่นักการตลาดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ต้องทำงานอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามต้องขอหมายเหตุว่าความชื่นชอบของแบรนด์อาจแตกต่างกันได้แล้วแต่บุคคล
จริงๆ แล้วสาระสำคัญคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้รถแบรนด์อะไร
รถก็เป็นแค่พาหนะคันหนึ่งที่ทำให้เราเดินทางไปถึงเป้าหมาย
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าก็คงจะเป็นเรื่อง เป้าหมายที่เราเดินทางไปนั้น จะเป็นที่ไหน
และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คงจะเป็น คนที่นั่งคู่กับเราในรถนั้นเป็นใคร
ถ้าเป็นคนที่เราอยากอยู่ด้วย ต่อให้เป็นรถแบรนด์ถูกแค่ไหน เราก็คงมีความสุขกว่า คนขับรถหรู ที่นั่งคู่กับคนที่ไม่อยากอยู่ด้วย..
----------------------
<ad> นอกจากเรื่องรถแล้ว ลองมาดูเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูมีคุณภาพ
ขอแนะนำ 'งานไม้ ที่เป็นได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์'
อุด-ทะ-ยาน [ut-tha-yan] เฟอร์นิเจอร์งานไม้ของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น 'Wood Slab Enthusiasts' หรือ 'ผู้ที่รักในงานไม้แผ่นเดียว' โดยให้ความสําคัญและคุณค่าของการคงรูปทรงธรรมชาติ ผสมผสานกับการออกแบบที่ทันสมัย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tel: 09-242424-71 / Line ID: @utthayandesign / FB & IG: Utthayan / website: www.utthayan.com
----------------------
Reference
-http://www.thonburi.com
-https://th.carro.co/blog/king-rama-5-royal-cars/
[4281].