
อมรินทร์ซื้อ กิจการ Dek-D มูลค่า 204 ล้าน
อมรินทร์ซื้อ กิจการ Dek-D มูลค่า 204 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
เมื่อวานนี้ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN เข้าซื้อกิจการ เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด หรือ DDI เจ้าของเว็บไซต์ Dek-D
เมื่อวานนี้ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMARIN เข้าซื้อกิจการ เด็กดี อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด หรือ DDI เจ้าของเว็บไซต์ Dek-D
ในสัดส่วน 51% ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 204 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าทั้งกิจการ 400 ล้านบาท
ในปี 2564 AMARIN มีรายได้ 2,961 ล้านบาท กำไร 313 ล้านบาท
โดยมี 3 ธุรกิจหลัก ก็คือ
โดยมี 3 ธุรกิจหลัก ก็คือ
-ธุรกิจสิ่งพิมพ์และจัดจำหน่ายหนังสือ
-ธุรกิจผลิตสื่อทีวี
-ธุรกิจงานจัดแสดงและผลิตสื่อออนไลน์
-ธุรกิจผลิตสื่อทีวี
-ธุรกิจงานจัดแสดงและผลิตสื่อออนไลน์
ยกตัวอย่างแบบเป็นแบรนด์ ก็เช่น ร้านหนังสือนายอินทร์ และแบรนด์นิตยาสารต่าง ๆ เช่น บ้านและสวน แพรว สุดสัปดาห์
ทั้งนี้ AMARIN ได้ให้เหตุผลว่าการเข้าไปลงทุนใน DDI เจ้าของเว็บไซต์ Dek-D ก็เพราะว่าบริษัทแห่งนี้มีธุรกิจที่ชัด ดำเนินกิจการมานานกว่า 23 ปีแล้ว มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา มี 3 ธุรกิจหลัก แบ่งออกเป็น
-ธุรกิจการศึกษา เช่น การจัดอีเวนต์ การจัดสนามสอบจำลองออนไลน์ ขายคอร์สติว
-ธุรกิจให้บริการคอนเทนต์นิยายผ่านแพลตฟอร์ม
-ธุรกิจสื่อโฆษณา
-ธุรกิจให้บริการคอนเทนต์นิยายผ่านแพลตฟอร์ม
-ธุรกิจสื่อโฆษณา
จะเห็นได้ว่า Dek-D มีฐานลูกค้าที่ชัดเจน ว่าอยู่ในกลุ่มวัยเรียน นักศึกษา
การได้ฐานผู้ใช้งานจาก Dek-D มา ก็จะทำให้ฐานผู้รับชมคอนเทนต์ของบริษัทกว้างขึ้น
การได้ฐานผู้ใช้งานจาก Dek-D มา ก็จะทำให้ฐานผู้รับชมคอนเทนต์ของบริษัทกว้างขึ้น
อีก Synergy ก็คือคอนเทนต์กลุ่มนิยายบน Dek-D ที่มียอดรับชมหลักหลายแสนถึงล้านวิวต่อเรื่อง
โดยก็ต้องบอกว่าคอนเทนต์ประเภทนี้กำลังเป็นเทรนด์
สะท้อนให้เห็นจากบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น
เจ้าของธุรกิจอีบุ๊ก meb และแพลตฟอร์มนักเขียน readAwrite
ที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 5 ล้านบัญชีสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด
จนบริษัทได้มีการยื่น IPO เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
สะท้อนให้เห็นจากบริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น
เจ้าของธุรกิจอีบุ๊ก meb และแพลตฟอร์มนักเขียน readAwrite
ที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 5 ล้านบัญชีสามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด
จนบริษัทได้มีการยื่น IPO เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
ดังนั้น การเข้าซื้อ Dek-D จะไม่เพียงแต่ทำให้ AMARIN มีฐานลูกค้ามากขึ้น
แต่จะทำให้บริษัทสามารถนำคอนเทนต์ฮิตจาก Dek-D ไปตีพิมพ์และจัดจำหน่ายสร้างมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มให้กับธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท ก็ได้เหมือนกัน
แต่จะทำให้บริษัทสามารถนำคอนเทนต์ฮิตจาก Dek-D ไปตีพิมพ์และจัดจำหน่ายสร้างมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มให้กับธุรกิจดั้งเดิมของบริษัท ก็ได้เหมือนกัน
แล้วด้วยมูลค่าการเข้าซื้อกิจการที่ 400 ล้าน ถามว่าคุ้มไหม ?
เราก็ต้องอาจจะลองนำไปเทียบกับผลประกอบการของ Dek-D
เราก็ต้องอาจจะลองนำไปเทียบกับผลประกอบการของ Dek-D
ปี 2562 รายได้ 126 ล้านบาท ขาดทุน 14.4 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 154 ล้านบาท กำไร 3.5 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 192 ล้านบาท ขาดทุน 2.5 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 154 ล้านบาท กำไร 3.5 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 192 ล้านบาท ขาดทุน 2.5 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่ารายได้เติบโตตลอดช่วงที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้ว 23% ต่อปี แต่ยังคงกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ซึ่งก็น่าจะเป็นเพราะบริษัทยังคงอยู่ในระหว่างการลงทุน
เหตุผลสำคัญก็อาจจะเป็นเพราะในช่วง 2-3 ปีมานี้ โควิด 19 น่าจะกระทบต่อธุรกิจอีเวนต์โดยตรง รวมถึงการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาออฟไลน์ และ เม็ดเงินโฆษณาที่หายไปจากการควบคุมค่าใช้จ่าย
แต่หากเราลองนำมูลค่ากิจการ มาเทียบกับกำไรในปี 2563 หรือ P/E ก็จะอยู่ 114 เท่า
ถ้าตอบจากสิ่งที่เห็นวันนี้เลย ก็คือ ค่อนข้างแพง
ถ้าตอบจากสิ่งที่เห็นวันนี้เลย ก็คือ ค่อนข้างแพง
แต่ในอนาคตหากบริษัทสามารถรักษาการเติบโตแบบนี้ไปได้เรื่อย ๆ
เริ่มทำกำไรได้สม่ำเสมอ และ สามารถสร้าง Synergy กับ AMARIN ได้ดี
มูลค่าเท่านี้ ก็อาจจะไม่ได้แพงเลย
ดีลนี้ ก็ถือเป็นอีกดีลการเข้าซื้อกิจการในอุตสาหกรรมสื่อ ที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว..
เริ่มทำกำไรได้สม่ำเสมอ และ สามารถสร้าง Synergy กับ AMARIN ได้ดี
มูลค่าเท่านี้ ก็อาจจะไม่ได้แพงเลย
ดีลนี้ ก็ถือเป็นอีกดีลการเข้าซื้อกิจการในอุตสาหกรรมสื่อ ที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว..