เบื้องหลังความสำเร็จ SAPPE เปลี่ยน “ออฟฟิศ เป็นสนามระดมไอเดีย” เพื่อ UP LEVEL พนักงาน
เบื้องหลังความสำเร็จ SAPPE เปลี่ยน “ออฟฟิศ เป็นสนามระดมไอเดีย” เพื่อ UP LEVEL พนักงาน
SAPPE x ลงทุนแมน
SAPPE x ลงทุนแมน
เวลาได้ยินความสำเร็จทางธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ
สิ่งแรกที่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเรามักจะคิดและสรุปกันเอาเอง
สิ่งแรกที่มนุษย์ออฟฟิศอย่างเรามักจะคิดและสรุปกันเอาเอง
คือ บรรยากาศในการทำงาน ของบริษัทเหล่านี้
น่าจะเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยแรงกดดัน
น่าจะเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด และเต็มไปด้วยแรงกดดัน
และเชื่อว่า เมืองไทย ก็น่าจะมีออฟฟิศหลายแห่ง ที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
รู้หรือไม่ว่า.. มีบริษัทเครื่องดื่มไทยแบรนด์หนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
ด้วยการส่งออกเครื่องดื่มไป 98 ประเทศ ผ่านช่องทางการขายกว่า 1,000,000 Outlets
ด้วยการส่งออกเครื่องดื่มไป 98 ประเทศ ผ่านช่องทางการขายกว่า 1,000,000 Outlets
โดยบริษัทนี้ ใช้แนวคิดบริหารพนักงานที่เปรียบ “ออฟฟิศ เป็นสนามระดมไอเดีย”
ให้พนักงานทำงานอย่างสนุกสนาน พร้อมกับสร้างไอเดียใหม่ ๆ ของตัวเองตลอดเวลา จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เหมือนใคร
ให้พนักงานทำงานอย่างสนุกสนาน พร้อมกับสร้างไอเดียใหม่ ๆ ของตัวเองตลอดเวลา จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่เหมือนใคร
บริษัทที่มีสไตล์การทำงานนอกกรอบแห่งนี้คือ บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
ลงทุนแมน ได้พูดคุยกับคุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท
พร้อมกับรู้ว่า ที่ทำงานในฝัน เงินเดือน อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ความสนุก และความสุขในการทำงาน ที่ UP LEVEL ตัวเราเองต่างหาก
ที่จะเพิ่มมูลค่าตัวเราเอง อย่างประเมินค่าไม่ได้
พร้อมกับรู้ว่า ที่ทำงานในฝัน เงินเดือน อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ความสนุก และความสุขในการทำงาน ที่ UP LEVEL ตัวเราเองต่างหาก
ที่จะเพิ่มมูลค่าตัวเราเอง อย่างประเมินค่าไม่ได้
SAPPE ทำเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นจริงในออฟฟิศตัวเอง ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
คุณปิยจิต เล่าว่า SAPPE ใช้ 3 แนวคิดในการขับเคลื่อนพนักงาน นั่นคือ Creative - Dynamic - Fun
อธิบายง่าย ๆ คือ ไม่ว่าจะผลิตสินค้า, วางแผนการตลาด, ลงมือปฏิบัติ และประเมินผล
ทุก ๆ อย่างจะต้องมีความยืดหยุ่น และต้องทำให้พนักงานรู้สึกสนุกไปกับการทำงาน
อธิบายง่าย ๆ คือ ไม่ว่าจะผลิตสินค้า, วางแผนการตลาด, ลงมือปฏิบัติ และประเมินผล
ทุก ๆ อย่างจะต้องมีความยืดหยุ่น และต้องทำให้พนักงานรู้สึกสนุกไปกับการทำงาน
เช่น การทำให้รูปแบบการทำงานเป็นเกมการแข่งขัน หรือเป็นกิจกรรมให้ challenge มากขึ้นเรื่อย ๆ
มีการแจกรางวัลเป็นแรงกระตุ้น ให้พนักงานพยายามให้ดีที่สุดและสนุกอีกด้วย
มีการแจกรางวัลเป็นแรงกระตุ้น ให้พนักงานพยายามให้ดีที่สุดและสนุกอีกด้วย
พอเป็นแบบนี้ ออฟฟิศก็จะปกคลุมไปด้วยบรรยากาศ ความสุข ความสนุก เสียงหัวเราะ และไอเดียสร้างสรรค์
ทีนี้ก็มาถึง Pain Point ที่มนุษย์ออฟฟิศหลายคนเคยเผชิญคือ “ถูกจำกัดไอเดีย”
ส่วนใหญ่มาจากวัฒนธรรมองค์กร และประเด็นนี้ ส่งผลเสียรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
ทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีคุณค่า ขาดความเชื่อมั่น ไม่กล้าแสดงออก
สุดท้าย.. อาจส่งผลให้องค์กร ขาดความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และแข่งขันในตลาดไม่ได้
ทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีคุณค่า ขาดความเชื่อมั่น ไม่กล้าแสดงออก
สุดท้าย.. อาจส่งผลให้องค์กร ขาดความคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และแข่งขันในตลาดไม่ได้
เหตุผลนี้เองที่ทำให้ SAPPE สร้างออฟฟิศให้กลายเป็นเวที “ปล่อยของ” หรือที่เรียกว่า Sappe playground
และเรียกพนักงานของเซ็ปเป้ว่าเป็น Sappe players พร้อมสร้างรูปแบบการทำงานที่เปิดกว้างทางความคิด ให้ player ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียต่าง ๆ ได้ตลอด เพื่อเฟ้นหาไอเดียสร้างสรรค์ที่สามารถทำเงินให้บริษัท และช่วยทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นตามปณิธานขององค์กร
และเรียกพนักงานของเซ็ปเป้ว่าเป็น Sappe players พร้อมสร้างรูปแบบการทำงานที่เปิดกว้างทางความคิด ให้ player ทุกคนสามารถนำเสนอไอเดียต่าง ๆ ได้ตลอด เพื่อเฟ้นหาไอเดียสร้างสรรค์ที่สามารถทำเงินให้บริษัท และช่วยทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นตามปณิธานขององค์กร
“เราบอกพนักงานว่า ไม่ต้องกลัวกับการคิดอะไรใหม่ ๆ
หากพลาดหรือล้มเหลว ก็ต้องลุกขึ้นให้เร็ว และ Move on ไปสู่สิ่งใหม่ ๆ”
หากพลาดหรือล้มเหลว ก็ต้องลุกขึ้นให้เร็ว และ Move on ไปสู่สิ่งใหม่ ๆ”
แนวทางการทำงานแบบนี้ สิ่งที่บริษัทจะได้ก็คือ ไอเดียใหม่ ๆ กองอยู่ในออฟฟิศเต็มไปหมด
ทำให้สามารถนำจุดแข็งของแต่ละไอเดีย มาผสมผสานขับเคลื่อนธุรกิจได้เหนือความคาดหมาย
ทำให้สามารถนำจุดแข็งของแต่ละไอเดีย มาผสมผสานขับเคลื่อนธุรกิจได้เหนือความคาดหมาย
ที่สำคัญ วิธีนี้ทำให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วม ให้บริษัทเป็น Home of innovators หรือ “บ้านที่อุดมด้วยนักคิดสร้างนวัตกรรม”
จุดนี้เอง เป็นที่มาที่ทำให้บริษัทมีสารพัดกิจกรรมมากกว่า 100 ครั้งต่อปี
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำภารกิจงานต่าง ๆ มาครีเอท เปลี่ยนเป็นเกมให้พนักงานมีส่วนร่วม
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำภารกิจงานต่าง ๆ มาครีเอท เปลี่ยนเป็นเกมให้พนักงานมีส่วนร่วม
ขณะเดียวกัน คุณปิยจิต เล่าว่า..
เธอเองได้ทำลายโครงสร้างองค์กรบางส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป
เช่น ลดลำดับขั้นตอนของการทำงาน ลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็น นำเทคโนโลยีและออนไลน์เข้ามาใช้ ปรับทุกส่วนให้เป็นระบบที่พร้อมเสิร์ฟการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพื่อทำให้บริษัทมีความคล่องตัวสูง
เธอเองได้ทำลายโครงสร้างองค์กรบางส่วนที่ไม่จำเป็นทิ้งไป
เช่น ลดลำดับขั้นตอนของการทำงาน ลดขั้นตอนเอกสารที่ไม่จำเป็น นำเทคโนโลยีและออนไลน์เข้ามาใช้ ปรับทุกส่วนให้เป็นระบบที่พร้อมเสิร์ฟการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เพื่อทำให้บริษัทมีความคล่องตัวสูง
เมื่อถูกถามว่า แล้วพนักงานพอใจกับวิธีการบริหารสไตล์นี้ มากน้อยแค่ไหน ?
คุณปิยจิต บอกว่า ในทุกปี เธอจะจัดทำสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน
โดยผลการประเมินความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรในทุกปี จะมากกว่า 4 คะแนน
จาก 5 คะแนนเต็ม
โดยผลการประเมินความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กรในทุกปี จะมากกว่า 4 คะแนน
จาก 5 คะแนนเต็ม
ในมุมการได้ใจพนักงาน SAPPE ถือว่า สอบผ่านสบาย ๆ
แล้วในมุมของธุรกิจ วิธีการบริหารพนักงานในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร สไตล์ SAPPE
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างไร ?
ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างไร ?
ผลประกอบการล่าสุด ในไตรมาส 2 ปี 2565 พบว่า
รายได้รวม 1,334.5 ล้านบาท เติบโต 38.9%
กำไรสุทธิ 167.3 ล้านบาท เติบโต 31.9%
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
รายได้รวม 1,334.5 ล้านบาท เติบโต 38.9%
กำไรสุทธิ 167.3 ล้านบาท เติบโต 31.9%
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว
ทำให้ SAPPE มั่นใจว่า เส้นทางการบริหารพนักงานของตัวเองมาถูกทาง
และเชื่อว่าในไม่ช้าตัวเองจะเป็นแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก
และเชื่อว่าในไม่ช้าตัวเองจะเป็นแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลก
พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้เมื่อถึงปี 2569 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีรายได้แตะ 10,000 ล้านบาท โดยเวลานี้ยอดขายในตลาดต่างประเทศกำลังโตขึ้นเรื่อย ๆ
การเติบโตครั้งนี้ จริง ๆ แล้ว หากมองให้ลึก ไม่ได้มาจากการ “บริหารพนักงาน”
แต่คือการ “สร้างคน” ของ SAPPE ต่างหาก ที่ทำให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผ่านระบบการทำงานที่ไม่ได้ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ
แต่คือการ “สร้างคน” ของ SAPPE ต่างหาก ที่ทำให้พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผ่านระบบการทำงานที่ไม่ได้ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ
พอรู้แบบนี้ น่าจะทำให้ใครหลายคน อยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ SAPPE
โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่บริษัทอยากได้เข้ามาร่วมทีม
โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่บริษัทอยากได้เข้ามาร่วมทีม
คุณปิยจิต เผยว่า SAPPE ไม่ได้เลือกพนักงานที่เกรดการศึกษา, เพศสภาพ, อายุ
แต่เราเลือกคนที่มีทัศนคติกระหายทั้งความสำเร็จ, การเรียนรู้ และพร้อมสนุกไปกับวัฒนธรรมองค์กรของเรา
แต่เราเลือกคนที่มีทัศนคติกระหายทั้งความสำเร็จ, การเรียนรู้ และพร้อมสนุกไปกับวัฒนธรรมองค์กรของเรา
ที่สำคัญ พนักงานทุกคน ต้องมีเป้าหมายเดียวกัน
คือการพา SAPPE แบรนด์ไทยส่งมอบอาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยสุดเจ๋ง ไปยังทั่วทุกมุมของโลก
คือการพา SAPPE แบรนด์ไทยส่งมอบอาหารและเครื่องดื่มที่อร่อยสุดเจ๋ง ไปยังทั่วทุกมุมของโลก
ภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้.. จะทำได้สำเร็จหรือเปล่า คงไม่มีใครตอบได้
แต่ที่ตอบได้แน่ ๆ คือ เวลานี้ SAPPE น่าจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าทำงานด้วย
แต่ที่ตอบได้แน่ ๆ คือ เวลานี้ SAPPE น่าจะกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใคร ๆ ก็อยากเข้าทำงานด้วย
เพราะไม่ใช่แค่ทำงานแล้ว ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เพียงอย่างเดียว
แต่ยังช่วย UP LEVEL ทักษะต่าง ๆ ผ่านการทำงานที่ สนุก, ท้าทาย และเพลิดเพลิน
แต่ยังช่วย UP LEVEL ทักษะต่าง ๆ ผ่านการทำงานที่ สนุก, ท้าทาย และเพลิดเพลิน
จนบางที.. เราอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า เราเก่งขึ้นกว่าเดิมมากแค่ไหนกัน
Reference
-บทสัมภาษณ์ตรง คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)
-บทสัมภาษณ์ตรง คุณปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน)