Wirecard โกงที่สุด ในประวัติศาสตร์ เยอรมนี
Wirecard โกงที่สุด ในประวัติศาสตร์ เยอรมนี /โดย ลงทุนแมน
หลายคน อาจคิดว่าการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่
ย่อมปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก
หลายคน อาจคิดว่าการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่
ย่อมปลอดภัยกว่าการลงทุนในหุ้นของบริษัทขนาดเล็ก
ทั้งเรื่องการจัดทำงบการเงินที่มีมาตรฐาน ชื่อเสียงของผู้ตรวจสอบบัญชี
ผลประกอบการย้อนหลังที่แข็งแกร่ง หรือแม้แต่สินค้าและบริการที่สามารถพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน
ผลประกอบการย้อนหลังที่แข็งแกร่ง หรือแม้แต่สินค้าและบริการที่สามารถพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทเหล่านี้ รายงานผลประกอบการอย่างตรงไปตรงมา และมีการทำธุรกิจอย่างโปร่งใส
วันนี้ ลงทุนแมนจะพาไปดูกรณีศึกษา ของบริษัทแห่งหนึ่งในเยอรมนี
ที่สามารถเติบโตขึ้นมา จนมีมูลค่ามากกว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Deutsche Bank
แต่กลับต้องล้มละลาย เพราะถูกจับได้ว่ามีการตกแต่งบัญชีมานานกว่า 10 ปี
ที่สามารถเติบโตขึ้นมา จนมีมูลค่ามากกว่าธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอย่าง Deutsche Bank
แต่กลับต้องล้มละลาย เพราะถูกจับได้ว่ามีการตกแต่งบัญชีมานานกว่า 10 ปี
เรากำลังพูดถึง บริษัทที่มีชื่อว่า “Wirecard”
แล้วบริษัทนี้ ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Wirecard ก่อตั้งเมื่อปี 1999 หรือราว 23 ปีก่อน เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการชำระเงินของเยอรมนี
ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับชำระเงินให้กับลูกค้า เจ้าของธุรกิจ และธนาคาร
แล้วบริษัทนี้ ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Wirecard ก่อตั้งเมื่อปี 1999 หรือราว 23 ปีก่อน เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านการชำระเงินของเยอรมนี
ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับชำระเงินให้กับลูกค้า เจ้าของธุรกิจ และธนาคาร
โดยบริษัทเริ่มเห็นช่องว่างทางธุรกิจว่าเว็บไซต์สีเทา เช่น เว็บพนันออนไลน์ สื่อสำหรับผู้ใหญ่ ยังไม่มีระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์เจ้าไหน มารองรับการทำธุรกรรมให้กับธุรกิจกลุ่มนี้
บริษัทจึงอาศัยช่องว่างตรงนี้ เข้ามาเป็นผู้ให้บริการ จนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วในช่วงปี 2000
ซึ่งตรงกับยุคสมัย Dot-Com Bubble หรือฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาพอดิบพอดี
ซึ่งตรงกับยุคสมัย Dot-Com Bubble หรือฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกาพอดิบพอดี
รายได้หลักของ Wirecard มาจากค่าดำเนินการทางธุรกรรม และการขายข้อมูลที่บริษัทมี ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรจากรายได้ของบริษัท ผู้ให้บริการรับชำระเงินออนไลน์รายอื่น ๆ
ต่อมา บริษัทได้เริ่มขยับขยายธุรกิจ โดยการให้บริการบัตรเครดิตของตัวเอง
พร้อมกับจับมือเป็นพันธมิตรกับบรรดาผู้ให้บริการรับจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
วีซ่า มาสเตอร์การ์ด อาลีเพย์ และวีแชทเพย์
พร้อมกับจับมือเป็นพันธมิตรกับบรรดาผู้ให้บริการรับจ่ายเงินอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
วีซ่า มาสเตอร์การ์ด อาลีเพย์ และวีแชทเพย์
นอกจากนี้บริษัทยังเริ่มเข้าไปทำธุรกิจในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
และสามารถนำหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตได้สำเร็จ
จนมูลค่าบริษัทแซงหน้า Deutsche Bank ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของเยอรมนี
และสามารถนำหุ้นของบริษัทเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์แฟรงก์เฟิร์ตได้สำเร็จ
จนมูลค่าบริษัทแซงหน้า Deutsche Bank ธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของเยอรมนี
มาถึงตรงนี้ ก็ดูเหมือนว่า Wirecard เป็นบริษัทเทคโนโลยี ที่ดูมีอนาคตที่สดใสมากทีเดียว
จนกระทั่งในปี 2008 นักลงทุนเริ่มสังเกตเห็น ความผิดปกติของงบการเงิน
พร้อมกับมีสื่อด้านการเงินชื่อดังอย่าง Financial Times พยายามหาข้อเท็จจริง
พร้อมกับมีสื่อด้านการเงินชื่อดังอย่าง Financial Times พยายามหาข้อเท็จจริง
ร้อนไปถึงผู้บริหารของบริษัทต้องออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหา ว่าเป็นความพยายามของคู่แข่ง
ที่ต้องการจะทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัท
ขณะที่สำนักงานตรวจสอบบัญชีชื่อดังอย่าง EY เอง ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร
จึงรับรองความถูกต้องของงบการเงินให้ Wirecard
ที่ต้องการจะทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัท
ขณะที่สำนักงานตรวจสอบบัญชีชื่อดังอย่าง EY เอง ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร
จึงรับรองความถูกต้องของงบการเงินให้ Wirecard
อีกทั้งหน่วยงานของรัฐ ที่ทำหน้าที่คอยตรวจสอบบริษัทเอกชน อย่าง BaFin เอง
ก็เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่พบความผิดปกติของบริษัท ซ้ำร้ายยังเอาผิดกับนักลงทุนที่กล่าวหา Wirecard ด้วย
ก็เข้าไปตรวจสอบ แต่ไม่พบความผิดปกติของบริษัท ซ้ำร้ายยังเอาผิดกับนักลงทุนที่กล่าวหา Wirecard ด้วย
แค่นั้นยังไม่พอ BaFin ปกป้อง Wirecard ราวกับว่าเป็นสมบัติของชาติเยอรมนี
ด้วยการออกกฎห้าม Short sell หุ้น Wirecard โดยอ้างว่า Wirecard มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เยอรมนี ที่มีการออกกฎห้าม Short sell หุ้นรายตัวแบบนี้
ด้วยการออกกฎห้าม Short sell หุ้น Wirecard โดยอ้างว่า Wirecard มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เยอรมนี ที่มีการออกกฎห้าม Short sell หุ้นรายตัวแบบนี้
สิ่งที่ผิดปกติสำหรับบริษัทนี้ก็คือ
เมื่อปี 2006 รัฐบาลสหรัฐฯ ออกกฎหมายให้ธุรกิจที่รับชำระเงิน จากชาวอเมริกันที่เล่นโป๊กเกอร์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้ Wirecard สูญเสียแหล่งรายได้หลัก
เมื่อปี 2006 รัฐบาลสหรัฐฯ ออกกฎหมายให้ธุรกิจที่รับชำระเงิน จากชาวอเมริกันที่เล่นโป๊กเกอร์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้ Wirecard สูญเสียแหล่งรายได้หลัก
แต่ว่าผลประกอบการของบริษัทกลับเติบโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับสิ่งที่เกิดขึ้น
และหากใครจำได้ เมื่อตอนต้นของบทความ เราพูดถึงธุรกิจสีเทาที่เป็นลูกค้าของ Wirecard
จึงมีข้อกล่าวหาว่า Wirecard รับฟอกเงินให้ธุรกิจเหล่านั้นด้วย
จึงมีข้อกล่าวหาว่า Wirecard รับฟอกเงินให้ธุรกิจเหล่านั้นด้วย
สิ่งที่น่าสงสัยประการต่อมาก็คือ รายได้มากกว่า 50% ของบริษัท
มาจากบริษัทลูก 3 แห่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเมื่อตรวจสอบที่อยู่ของบริษัทลูกทั้ง 3 แห่งโดยละเอียดแล้ว
ก็พบว่าสำนักงานของบริษัทลูกเหล่านั้น เป็นเพียงแค่โกดังของชาวประมง หรือบ้านของคนธรรมดาเท่านั้น
มาจากบริษัทลูก 3 แห่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเมื่อตรวจสอบที่อยู่ของบริษัทลูกทั้ง 3 แห่งโดยละเอียดแล้ว
ก็พบว่าสำนักงานของบริษัทลูกเหล่านั้น เป็นเพียงแค่โกดังของชาวประมง หรือบ้านของคนธรรมดาเท่านั้น
ถึงตรงนี้บริษัทได้รับแรงกดดันจากผู้ถือหุ้น และสื่อเป็นอย่างมาก จนบริษัทต้องจ้างสำนักงานตรวจสอบบัญชี KPMG มาเป็นผู้ตรวจบัญชีอิสระเป็นกรณีพิเศษ
และแล้ว 6 เดือนต่อมา ความจริงก็ปรากฏ
เมื่อ KPMG ไม่สามารถยืนยันได้ว่า งบของ Wirecard มีความถูกต้อง
เมื่อ KPMG ไม่สามารถยืนยันได้ว่า งบของ Wirecard มีความถูกต้อง
และมีรายงานจากทางธนาคารจากฟิลิปปินส์ว่า
เงินสดจำนวน 6.9 หมื่นล้านบาท ที่ Wirecard อ้างว่าเก็บไว้ที่ฟิลิปปินส์นั้น ไม่มีอยู่จริง
เงินสดจำนวน 6.9 หมื่นล้านบาท ที่ Wirecard อ้างว่าเก็บไว้ที่ฟิลิปปินส์นั้น ไม่มีอยู่จริง
เงินสดจำนวนนั้นเทียบเท่ากับผลกำไร จากการดำเนินงานของบริษัทรวมกัน 10 ปีย้อนหลังเลยทีเดียว
ส่งผลให้ราคาหุ้นของ Wirecard ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดเดิมถึง 98%
คิดเป็นมูลค่าที่หายไปมากกว่า 4 แสนล้านบาท ภายในสัปดาห์เดียว
คิดเป็นมูลค่าที่หายไปมากกว่า 4 แสนล้านบาท ภายในสัปดาห์เดียว
และ CEO ของบริษัทที่ชื่อ มาร์คุส บราวน์ ก็กำลังจะได้รับโทษในข้อหาฉ้อโกง รวมถึงการปั่นราคาหุ้น
โดยจะมีคำตัดสินออกมาจากศาลอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปี 2022
โดยจะมีคำตัดสินออกมาจากศาลอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปี 2022
โดยตัวเขาเองได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าตัวเขาก็เป็นเหยื่อของการฉ้อโกงครั้งนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทที่ชื่อ ยาน มาซาเลค กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
สำนักข่าว Financial Times รายงานว่า ชายคนนี้รู้จักกับสายลับรัสเซีย และนักการเมืองของออสเตรีย
ประเทศบ้านเกิดของเขา จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าเขาอาจได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างชาติในการหลบหนี
สำนักข่าว Financial Times รายงานว่า ชายคนนี้รู้จักกับสายลับรัสเซีย และนักการเมืองของออสเตรีย
ประเทศบ้านเกิดของเขา จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าเขาอาจได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่างชาติในการหลบหนี
เหตุการณ์ฉ้อโกงในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก
จนมีการตั้งคำถามว่า ควรจะมีหน่วยงานกำกับหลักทรัพย์ของสหภาพยุโรป ที่เป็นส่วนกลางหรือไม่
เพราะหน่วยงานในแต่ละประเทศ อาจมีความโน้มเอียงให้กับบริษัทของประเทศตัวเองได้
จนมีการตั้งคำถามว่า ควรจะมีหน่วยงานกำกับหลักทรัพย์ของสหภาพยุโรป ที่เป็นส่วนกลางหรือไม่
เพราะหน่วยงานในแต่ละประเทศ อาจมีความโน้มเอียงให้กับบริษัทของประเทศตัวเองได้
เรื่องราวของ Wirecard จึงเป็นกรณีศึกษาให้กับฝ่ายผู้กำกับดูแล และนักลงทุนทั่วไป
ที่ต้องคอยระลึกไว้เสมอว่า ต่อให้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน
ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลของผู้บริหาร
ที่ต้องคอยระลึกไว้เสมอว่า ต่อให้เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน
ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ว่า จะไม่มีปัญหาเรื่องธรรมาภิบาลของผู้บริหาร
หากเรามั่นใจในบริษัทมากเกินไป จนไม่ฟังเสียงของคนที่ออกมาเตือน เงินลงทุนของเราก็อาจจะหายไปพร้อมกับบริษัทเลยก็ได้..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.ft.com/wirecard
-https://www.reuters.com/business/finance/munich-court-paves-way-wirecard-trial-2022-09-21
-https://siamblockchain.com/2020/06/27/wirecard-scandals/
-https://workpointtoday.com/wirecard-explained/
-สารคดี Skandal! Bringing Down Wirecard
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.ft.com/wirecard
-https://www.reuters.com/business/finance/munich-court-paves-way-wirecard-trial-2022-09-21
-https://siamblockchain.com/2020/06/27/wirecard-scandals/
-https://workpointtoday.com/wirecard-explained/
-สารคดี Skandal! Bringing Down Wirecard