ตำนาน ปีเตอร์ ลินซ์

ตำนาน ปีเตอร์ ลินซ์

ตำนาน ปีเตอร์ ลินช์ / โดย ลงทุนแมน
ในช่วงชีวิตของคนเรานั้น
เป็นการดีที่จะใช้เวลามุ่งมั่นและทุ่มเทไปกับการทำงาน
เพื่อทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข
แต่หลายครั้ง
การทำงานงานนั้น ทำให้เราต้องสูญเสียเวลาที่จะอยู่กับคนที่เรารัก
เมื่อเรามองย้อนกลับไปแล้ว
ในชีวิตของเรา คงไม่มีอะไรที่มาทดแทนครอบครัวได้..
เรื่องราวของ ปีเตอร์ ลินช์ น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้
ที่มาที่ไปเป็นยังไงลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปีเตอร์ ลินช์ เกิดเมื่อปี 1944 เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักลงทุนและผู้จัดการกองทุนที่เก่งที่สุดในโลกคนหนึ่ง
ในวัยเด็กพ่อของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง เมื่อตอนที่ลินช์อายุเพียง 10 ขวบ ทำให้แม่ของเขาเป็นคนที่ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวมาตั้งแต่ที่ลินช์ยังเด็ก
ลินช์จบการศึกษาปริญญาตรีสาขาประวัติศาสตร์ จิตวิทยาและปรัชญาจาก วิทยาลัยบอสตัน ก่อนที่จะไปจบ MBA จากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย
ระหว่างที่เรียน เขาทำงานพิเศษโดยเป็นแค็ดดี้ ในสนามกอล์ฟ ไปด้วย ซึ่งครั้งหนึ่งเขาได้ไปเป็นแค็ดดี้ให้กับ Mr. George Sullivan ที่เป็นประธานกองทุนของ Fidelity ในขณะนั้น
ลินช์ซึ่งมีความสนใจเรื่องการลงทุนอยู่แล้ว จึงไปขอสมัครงานเป็นเด็กฝึกงานที่กองทุนแห่งนี้
เขาเริ่มตำแหน่งจากเด็กฝึกงานในปี 1966 จนมาเป็นนักวิเคราะห์และได้เลื่อนตำเหน่งเป็นผู้จัดการกองทุน Fidelity Magellan ในปี 1977
ลินช์ทำงานที่กองทุน Fidelity ตั้งแต่ปี 1977 ถึง 1990 โดยที่เขาสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นได้ถึง 29.2 % ต่อปีเป็นระยะเวลา 13 ปีติดต่อกัน และชนะดัชนี S&P500 11 ครั้งใน 13 ปี โดยที่สถิติดังกล่าวยังคงเป็นประวัติศาสตร์อยู่มาจนถึงทุกวันนี้
นั่นคือ ถ้าเราลงทุน 1 ล้านบาทกับลินช์ในวันแรก เราจะได้เงินลงทุนกลับมาเท่ากับ 28 ล้านบาทในอีก 13 ปีต่อมา
ขณะที่สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของเขาเติบโตจากประมาณ 600 ล้านบาท สู่ระดับ 460,000 ล้านบาท
ลินช์บอกว่า เคล็ดลับที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จในการลงทุนคือ การทำงานหนัก
บ่อยครั้งที่เขาต้องทำงาน 6 วันหรือบางครั้ง 7 วันต่อสัปดาห์ นั่งอ่านข้อมูลกับกองเอกสารมหึมา เพื่อให้ได้ข้อมูลดีๆ
อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะประสบความสำเร็จในการทำงาน เจ้านายและลูกค้าจะชื่นชอบ แต่ทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะลูกๆ มากนัก เขาพลาดโอกาสไปรับ ส่งลูก ไม่ได้ไปดูการแสดงของลูกที่โรงเรียนหลายครั้ง
วันหนึ่งระหว่างที่เขานั่งทำงาน เขาเริ่มรู้สึกถึงความตายและคิดว่า เขาควรจะใช้เวลาไปกับครอบครัวและลูกมากกว่านี้ ทำให้ช่วงกลางปี 1990 ซึ่งตอนนั้นเขาอายุเพียง 46 ปี เขาตัดสินใจที่จะไปบอกลากับเจ้านายเขา
เขาได้รับข้อเสนอให้บริหารกองทุนที่เล็กลง เพื่อจะได้มีเวลามากขึ้นพร้อมกับรายได้ที่มากขึ้น แต่เขาได้ปฏิเสธข้อเสนอเหล่านี้ไป
เพราะเขาคิดว่า แม้เขาจะรวยมากขึ้นกว่านี้แต่ก็ยังจนเวลาอยู่เหมือนเดิม
หลังจากที่ลินช์ลาออกตั้งแต่ปี 1990 เขามีเวลาอยู่ครอบครัวมากขึ้น จนถึงวันที่ภรรยาเขาเสียชีวิตไปด้วยโรคลูคีเมียในปี 2015 ซึ่งเขาอาจจะเสียใจมากกว่านี้ ถ้าตอนนั้นเขาเลือกที่จะทำงานมากกว่าลาออกเพื่อมีเวลาให้ครอบครัว
ลินช์บอกว่า เขาชอบเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับชาวนาผู้ทะเยอทะยานกับยักษ์วิเศษ
เรื่องมีอยู่ว่า
วันหนึ่งยักษ์วิเศษบอกกับชาวนาผู้นี้ว่า เขาจะได้ที่ดินทั้งหมดเพื่อไปเพาะปลูก ในขนาดพื้นที่เท่าที่เขาจะสามารถวิ่งได้เต็มกำลังในหนึ่งวัน
ด้วยความที่อยากได้ที่ดินมีค่าเหล่านี้
ชาวนาผู้นี้จึงตอบรับพร้อมกับวิ่งสุดแรง จนเขาน่าจะได้ที่ดินกว้างใหญ่พอที่ชาวนาผู้นี้และครอบครัวจะใช้ทำกินไปตลอดชีวิต
แต่ชาวนายังไม่หยุดวิ่ง
ชาวนาวิ่งจนเหงื่อโชก หายใจแทบจะไม่ทัน
เขาเริ่มถามตัวเองว่าจะวิ่งไปเพื่ออะไรอีก
แต่ทั้งๆที่รู้ เขาก็ยังไม่หยุดวิ่งอยู่ดี เพราะอยากจะได้ที่ดินให้มากที่สุด
สุดท้ายแล้วเขาก็เหนื่อยจนสิ้นลมหายใจ
ซึ่งลินช์บอกว่า นี่เป็นตอนจบที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นกับเขาเลยจริงๆ
เรื่องราวของปีเตอร์ ลินช์น่าจะช่วยทำให้เรามองย้อนมาและถามตัวเรามากขึ้นว่า
เราจำเป็นต้องวิ่งเต็มที่ไปตลอดไหม
เหนื่อยก็พักบ้าง
เพราะสุดท้ายได้ที่ดินมากมาย ก็คงทำอะไรกับที่ดินนั้นไม่ได้
เพราะเรายังวิ่งอยู่เลย..
----------------------
<ad> ถ้าเรามีที่ดินพอแล้ว มีบ้านพอแล้ว แต่ยังขาดเฟอร์นิเจอร์สวยๆ
ขอแนะนำ 'งานไม้ ที่เป็นได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์'
อุด-ทะ-ยาน [ut-tha-yan] เฟอร์นิเจอร์งานไม้ของกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น 'Wood Slab Enthusiasts' หรือ 'ผู้ที่รักในงานไม้แผ่นเดียว' โดยให้ความสําคัญและคุณค่าของการคงรูปทรงธรรมชาติ ผสมผสานกับการออกแบบที่ทันสมัย
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ tel:09-242424-71 / Line ID: @utthayandesign / FB & IG: utthayandesign / website: www.utthayan.com
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon