เมืองทอง ยูไนเต็ด รายได้เท่าไร
เมืองทอง ยูไนเต็ด รายได้เท่าไร / โดย ลงทุนแมน
การเติบโตของฟุตบอลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทำให้อาชีพนักฟุตบอลถือเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี
นักฟุตบอลบางคนมีรายได้ มากกว่า CEO หลายบริษัท
มากกว่าดารานักร้องหลายคน
และถ้าถามว่าสโมสรไหนที่เราคุ้นหูบ้าง..
หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด รวมอยู่ด้วย
การเติบโตของฟุตบอลไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทำให้อาชีพนักฟุตบอลถือเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี
นักฟุตบอลบางคนมีรายได้ มากกว่า CEO หลายบริษัท
มากกว่าดารานักร้องหลายคน
และถ้าถามว่าสโมสรไหนที่เราคุ้นหูบ้าง..
หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด รวมอยู่ด้วย
วันนี้ลงทุนแมนจะพามาทำความรู้จักสโมสรแห่งนี้กันว่า มีที่มาที่ไปยังไง
สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2532 ชื่อเดิมนั้นมีชื่อว่า ทีมโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสสรณ์
ซึ่งได้เริ่มเข้าแข่งขันฟุตบอลในระดับถ้วย ง ก่อนที่จะไต่เต้าขึ้นมาในระดับไทยลีกดิวิชั่น 1 ในฤดูกาล 2545–2546 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลไข่มุกดำหนองจอก
สโมสรใช้เวลากว่า 20 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งจนขึ้นมาเล่นในระดับไทยพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นฤดูกาล 2552
ต่อมาในฤดูกาล 2555 SCG ได้เซ็นสัญญาครั้งแรกเพื่อมาเป็นผู้สนับสนุนของทีมโดยมีมูลค่าสัญญากว่า 600 ล้านบาท ภายใต้ระยะเวลา 5 ปี พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อสนาม และชื่อสโมสรมาเป็น เอสซีจี สเตเดียม และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ต่อมาช่วงต้นปีพ.ศ. 2560 SCG ได้ต่อสัญญากับสโมสรไปอีก 5 ปี ด้วยวงเงิน 600 ล้านบาท นั่นหมายความว่าในช่วงปีพ.ศ. 2555-2564 สโมสรจะได้รับเงินสนับสนุนจาก SCG รวมกัน 1,200 ล้านบาท
ถ้าให้ถามคนอยู่ในวงการฟุตบอลสมัยก่อน คงไม่มีใครอยากจะเชื่อว่า สโมสรฟุตบอล จะได้รับเงินสปอนเซอร์เป็นพันล้าน..
สนามเอสซีจี สเตเดียมเปิดใช้เมื่อปีพ.ศ. 2541 ปัจจุบันมีความจุ 15,000 ที่ ซึ่งถือเป็นสนามที่ได้รับรองจาก FIFA รวมทั้งใช้หญ้าเกรดเดียวกับสโมสรในยุโรป
ในอนาคต สโมสรมีแนวคิดที่จะขยายสนาม คือ ต่อเติมให้มีความจุ 40,000 คน หรือสร้างสนามใหม่เพื่อรองรับแฟนบอล 35,000 คน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 500-700 ล้านบาท
รายได้ของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด
ปี 2557 รายได้ 314 ล้านบาท ขาดทุน 36 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 326 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 445 ล้านบาท กำไร 3.6 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 326 ล้านบาท กำไร 1.8 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 445 ล้านบาท กำไร 3.6 ล้านบาท
เมื่อไปดูรายได้ของสโมสรคู่แข่งอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ปี 2557 รายได้ 427 ล้านบาท ขาดทุน 35.7 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 585 ล้านบาท กำไร 2.3 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 805 ล้านบาท ขาดทุน 10 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 585 ล้านบาท กำไร 2.3 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 805 ล้านบาท ขาดทุน 10 ล้านบาท
(อ่านเรื่องราวของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ที่ https://www.longtunman.com/3357)
รายได้หลักของสโมสรฟุตบอลนั้น ส่วนใหญ่จะมาจากเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ค่าบัตรเข้าชม เงินรางวัลและค่าซื้อขายนักเตะ เป็นต้น
แต่เมื่อเทียบกับสโมสรต่างประเทศ สโมสรฟุตบอลในเมืองไทยอาจจะยังมีรายได้ และกำไรที่น้อยกว่ามาก
นอกจากค่าตั๋ว และค่าของที่ระลึกที่ราคาไม่สูงแล้วนั้น สิ่งสำคัญคือ รายได้จากการถ่ายทอดสดยังอยู่เพียงแต่ในประเทศเป็นหลัก เมื่อเทียบกับสโมสรจากต่างประเทศที่มีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
แม้แนวโน้มค่าลิขสิทธิ์ของฟุตบอลไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยทรูวิชั่นส์ได้ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลไทย ระหว่างปีพ.ศ 2560-2563 จำนวน 4,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1,800 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สูงเมื่อกับต่างประเทศ
อย่างค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษที่มีขายไปในหลายประเทศทั่วโลก ในช่วงปีพ.ศ. 2559-2562 มีมูลค่ากว่า 225,000 ล้านบาท
ทำให้ในฤดูกาล 2016/2017 ทีมในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้รับเงินกว่า 4,000 ล้านบาทต่อทีม ซึ่งเป็นทั้งค่าลิขสิทธิ์ในประเทศ ต่างประเทศ ค่าโฆษณา เป็นต้น เปรียบเทียบกับไทยลีกที่ค่าลิขสิทธิ์แต่ละทีมได้รับประมาณ 20 ล้านบาทต่อทีม
อย่างไรก็ตาม ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งด้านผู้ชม ผู้สนับสนุน ความสำเร็จต่างๆ ทั้งแบบรูปธรรมและนามธรรม
ลงทุนแมนก็อยากให้สิ่งนี้พัฒนาต่อไป ซึ่งสุดท้ายก็จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกคนทั้งแฟนบอล นักเตะ ทีมชาติ รวมไปถึงเด็กรุ่นหลังๆ ที่ชอบฟุตบอล ก็จะได้มีโอกาสเติบโตมาเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างที่หวังได้
จากเดิมคนที่มีพรสวรรค์ในด้านฟุตบอล กลับต้องเลือกทางเดินอื่นเพราะค่าตอบแทนในอาชีพนี้ไม่มากพอ
จนถึงตอนนี้ เราทุกคนคงยอมรับกันแล้วว่า ถ้าเก่งจริง ค่าตอบแทนในอาชีพนี้มากกว่าเงินเดือนผู้บริหารในบริษัทใหญ่โตเสียอีก นี่ไม่นับงานโฆษณาจากสินค้าต่างๆที่รอกันเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักฟุตบอล
เมื่อมีคนอยากเข้ามาเป็นนักฟุตบอลอาชีพมากๆ ก็จะช่วยให้มีนักเตะเก่งๆเกิดขึ้นได้มาก ทำให้ลีกภายในประเทศแข็งแกร่งมากพอที่จะสู้กับประเทศอื่นได้
ทั้งหมดนี้ เพราะในใจลึกๆของคนไทยทุกคนต้องการอยู่เรื่องเดียว
ความสุขที่สุดของคนไทยในตอนนี้คงไม่ใช่การได้เหรียญทองในโอลิมปิก แต่เป็นการได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย
นักเตะทีมไทยชุดไหนที่ได้เข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย บอกได้เลยว่านักเตะชุดนั้นก็น่าจะได้รับเงินสนุนจากองค์กรต่างๆเป็นหลักพันล้านบาท
เพราะมันเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนฝันไว้ เป็นความฝันที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงเมื่อไร..
----------------------
ลงทุนแมนมี "แอพ" แล้ว โหลดฟรีที่ longtunman.com/app
ทั้ง iOS และ android
----------------------
ลงทุนแมนมี "แอพ" แล้ว โหลดฟรีที่ longtunman.com/app
ทั้ง iOS และ android
ต่อไปในแอพจะมีบทความเรื่องที่ไม่ได้เขียนในเฟซบุ๊คด้วย ถ้าอยากติดตามทุกบทความให้โหลดแอพติดเครื่องไว้
----------------------
----------------------
Reference
-https://en.wikipedia.org/wiki/Muangthong_United_F.C.
-https://www.thairath.co.th/content/608875
-http://www.1morenews.com/8037.html
-http://www.siamsport.co.th/football/thaipremierleague/view/36904
-https://www.fourfourtwo.com/th/features/aikhraidethaaaihr-epidtawelkhraayaidthiimphriiemiiyrliikhlangcchbrduukaal-201617
-http://www.bbc.com/news/business-31379128
-https://en.wikipedia.org/wiki/Muangthong_United_F.C.
-https://www.thairath.co.th/content/608875
-http://www.1morenews.com/8037.html
-http://www.siamsport.co.th/football/thaipremierleague/view/36904
-https://www.fourfourtwo.com/th/features/aikhraidethaaaihr-epidtawelkhraayaidthiimphriiemiiyrliikhlangcchbrduukaal-201617
-http://www.bbc.com/news/business-31379128