ผ่าแนวคิดรักษ์โลกกับไมโล ทำไมต้องหลอดกระดาษ
ผ่าแนวคิดรักษ์โลกกับไมโล ทำไมต้องหลอดกระดาษ
ไมโล x ลงทุนแมน
ไมโล x ลงทุนแมน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกต่างกระตือรือร้น ที่จะช่วยกันลดการใช้พลาสติก โดยเฉพาะประเภทที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง อย่างเช่น “หลอดพลาสติก” เพื่อลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงทะเล
รู้หรือไม่ว่า ? หลอดพลาสติกเพียงหลอดเดียว ใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า 200 ปี
แตกต่างกับหลอดกระดาษที่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ถึง 6 สัปดาห์ ภายใต้สภาวะควบคุม เร็วกว่าถึง 1,740 เท่า
แตกต่างกับหลอดกระดาษที่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ถึง 6 สัปดาห์ ภายใต้สภาวะควบคุม เร็วกว่าถึง 1,740 เท่า
ที่สำคัญคือ ขยะพลาสติกเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นต้นตอของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอันดับต้น ๆ ของโลก แต่ยังทำลายระบบนิเวศทางทะเล ส่งผลให้สัตว์ทะเลกว่า 100,000 ชีวิต ต้องล้มตายทุก ๆ ปี อย่างน่าเสียดาย
พอเป็นแบบนี้ ไมโล แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำของไทย จึงได้ตัดสินใจพัฒนา “หลอดกระดาษใหม่”
ที่ทั้งแข็งแรง ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พอเป็นแบบนี้ ไมโล แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำของไทย จึงได้ตัดสินใจพัฒนา “หลอดกระดาษใหม่”
ที่ทั้งแข็งแรง ทนทาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ข้อมูลจากการประเมินโดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล พบว่า
ในปี 2021 หลอดพลาสติกที่กลายเป็นขยะลงสู่ทะเล มีจำนวน 8,300 ล้านหลอด
รวมน้ำหนัก 2,000 ตัน
ในปี 2021 หลอดพลาสติกที่กลายเป็นขยะลงสู่ทะเล มีจำนวน 8,300 ล้านหลอด
รวมน้ำหนัก 2,000 ตัน
แล้วปริมาณที่ว่านี้ ถือว่าเยอะขนาดไหน ?
เราลองมาดูข้อมูลเหล่านี้กัน
เราลองมาดูข้อมูลเหล่านี้กัน
ขยะพลาสติกบนโลก ทั้งหมด 275,000,000 ตันต่อปี
ขยะพลาสติกถูกทิ้งลงทะเล ทั้งหมด 8,000,000 ตันต่อปี
หลอดพลาสติกถูกทิ้งลงทะเล ทั้งหมด 2,000 ตันต่อปี
ขยะพลาสติกถูกทิ้งลงทะเล ทั้งหมด 8,000,000 ตันต่อปี
หลอดพลาสติกถูกทิ้งลงทะเล ทั้งหมด 2,000 ตันต่อปี
เท่ากับว่า ขยะจากหลอดพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลนั้น คิดเป็น 0.025% ของขยะพลาสติกในทะเล และคิดเป็น 0.0007% ของขยะพลาสติกทั้งหมดบนโลก
ตัวเลขเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าหลอดพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเล แท้จริงแล้วคิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ความคิดที่ว่าหลอดพลาสติกเพียงแค่ “หลอดเดียว” จริง ๆ แล้วสามารถทำลายระบบนิเวศทางทะเลได้อย่างมหาศาล
จากเพียงแค่หลอดพลาสติกหลอดเดียว จะกลายเป็นเศษขยะหลายล้านตัน ที่เป็นภาระให้ลูกหลานของเรา ต้องรับผิดชอบกันต่อไปในอนาคต..
ทีนี้เราลองมาดูว่า หลอดพลาสติกเพียงหลอดเดียว ส่งผลร้ายต่อโลกของเรามากแค่ไหน ?
ส่วนใหญ่แล้ว หลอดพลาสติกจะย่อยสลายกลายเป็นอนุภาคขนาดเล็ก เต็มไปด้วยสารเคมี ปนเปื้อนไปกับน้ำ อากาศ และดิน ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของคุณภาพสิ่งแวดล้อม
ซึ่งทั้งน้ำ อากาศ และดิน ล้วนเป็นต้นทางของสิ่งที่เราใช้อุปโภค และบริโภคกันในชีวิตประจำวัน
ที่สำคัญ นอกจากสารเคมีเหล่านี้จะเป็นภัยร้ายแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล แต่สารเคมียังเข้าไปปนเปื้อนในสัตว์ทะเล ที่เปรียบเสมือนสารอาหารสำคัญของมนุษย์
ทำให้โต๊ะอาหารของเรา ไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด..
พอเป็นแบบนี้ หลอดพลาสติกเพียงแค่หลอดเดียวก็สามารถทำลายระบบนิเวศบนโลก ที่เราพักอาศัยอยู่ในรุ่นของเรา และรุ่นลูกหลาน คนที่เรารัก
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ไมโล จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษ แทนหลอดพลาสติก
ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการตอกย้ำเทรนด์รักษ์โลกที่หลาย ๆ ประเทศได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการตอกย้ำเทรนด์รักษ์โลกที่หลาย ๆ ประเทศได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ การเปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษในครั้งนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของไมโล ที่อยากจะช่วยเปลี่ยนสิ่งเล็ก ๆ ที่สามารถส่งผลต่อโลกของเราได้ในระยะยาวให้ดียิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าต้นทุนของหลอดกระดาษจะสูงกว่าหลอดพลาสติกก็ตาม แต่แบรนด์ก็มีจุดยืนที่ชัดเจน ที่พร้อมสนับสนุนแนวคิดการบริหารแบบ ESG
เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ดี นั่นเอง
เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ดี นั่นเอง
ที่น่าสนใจคือ ไมโล ได้อัปเกรดหลอดกระดาษรุ่นใหม่ ที่แข็งแรงกว่าเดิม เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้แบบง่าย ๆ
และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้แบบง่าย ๆ
ทีนี้ เราลองมาดูจุดเด่นของ หลอดกระดาษรุ่นใหม่ จาก ไมโล
1. เจาะง่ายขึ้น ด้วยรูปทรงปลายหลอดที่ถูกพัฒนาให้มีความแหลม
2. ทนต่อความชื้นได้นานยิ่งขึ้น จากวัสดุกระดาษที่มีความหนา
3. ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะผลิตจากเยื่อกระดาษบริสุทธิ์ 100%
4. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้แบบง่าย ๆ และกระดาษยังถูกผลิตจากป่าไม้ที่ถูกรับรองโดยองค์การด้านการจัดการป่าไม้ (FSC)
มาถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปได้ว่า แม้ปริมาณของหลอดพลาสติกที่เราช่วยกันลด อาจไม่ได้คิดเป็นสัดส่วนที่มากเท่าไร เมื่อเทียบกับขยะพลาสติกบนโลก
แต่อย่างน้อย ๆ ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่สุด ที่เราสามารถช่วยให้โลกของเราดีขึ้นได้บ้าง
เพราะอย่าลืมว่า การเลิกใช้หลอดพลาสติกเพียงแค่ “หลอดเดียว” อาจจะช่วยสิ่งมีชีวิตได้อีกเป็นร้อยเป็นพัน และยังเป็นการทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น พร้อมส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต..
เพราะอย่าลืมว่า การเลิกใช้หลอดพลาสติกเพียงแค่ “หลอดเดียว” อาจจะช่วยสิ่งมีชีวิตได้อีกเป็นร้อยเป็นพัน และยังเป็นการทำให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น พร้อมส่งต่อให้ลูกหลานในอนาคต..