KBank จับมือกับกลุ่มธุรกิจคาราบาว กรุ๊ป ยกระดับค้าปลีกท้องถิ่น ให้กลายเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
KBank จับมือกับกลุ่มธุรกิจคาราบาว กรุ๊ป
ยกระดับค้าปลีกท้องถิ่น ให้กลายเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
KBank x ลงทุนแมน
ยกระดับค้าปลีกท้องถิ่น ให้กลายเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน
KBank x ลงทุนแมน
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ หนึ่งในธุรกิจที่กำลังเจอกับความท้าทายอย่างมาก จากทั้งวิกฤติโควิด 19 และปัญหาเศรษฐกิจซบเซา คงหนีไม่พ้นธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม หรือที่เรารู้จักกันในนาม “โชห่วย”
ซึ่งถ้าหากพูดถึงธุรกิจค้าปลีก เรามักจะเห็นกลุ่มนายทุนรายใหญ่ขยายธุรกิจไปตามหัวเมืองใหญ่ และพื้นที่เขตเศรษฐกิจ รวมถึงพยายามผลักดันตัวเองออกไปเติบโตในตลาดต่างประเทศ
แต่ในทางกลับกัน ผู้ประกอบการค้าปลีกรายเล็ก และรายกลาง บางรายถึงกับยกธงขาวยอมแพ้…
เนื่องจากไม่มีแหล่งเงินทุน ไม่มีระบบการบริหารจัดการที่ดีพอ ทำให้ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม
พอเป็นแบบนี้ KBank จึงตัดสินใจร่วมลงทุนกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจ คาราบาวกรุ๊ป เพื่อพัฒนาร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” ให้กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของชุมชน
ความร่วมมือนี้จะพลิกโฉมค้าปลีกชุมชนที่เป็นฐานรากเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศอย่างไร และจะเกิดผลดีกับคนในชุมชนตามต่างจังหวัดอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ต้องบอกว่า ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เกิดขึ้นจากความตั้งใจของคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ที่อยากจะยกระดับคุณภาพร้านค้าปลีกท้องถิ่น พร้อมทั้งผลักดันให้สังคมไทย เติบโตได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งคอนเซปต์ของ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน คือการนำระบบการจัดการแบบโมเดิร์นเทรด (POS) เข้าไปช่วยบริหารจัดการ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารต้นทุน รายได้ และกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ยังถูกตกแต่งให้มีความโมเดิร์น ความสะอาด ความสว่างในร้าน อย่างได้มาตรฐาน บริหารจัดการโดยเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นเจ้าของตัวจริงที่มีความคุ้นเคยกับคนในชุมชน คงกลิ่นอายของความเป็นร้านค้าของ “ชุมชน” ที่ผู้คนสามารถเข้ามาพบปะสังสรรค์ เพื่อแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ที่ดี เหมือนอย่างเดิม
ที่สำคัญ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ถูกบริหารภายใต้แนวคิด “กินแบ่ง ไม่กินรวบ” โดยทางบริษัทฯ จะคิดส่วนแบ่งกำไรเพียง 15% เป็นค่าบริหารจัดการ
เนื่องจากบริษัท ทีดี ตะวันแดง เป็นผู้ลงทุนสินค้า อุปกรณ์ในร้าน จัดส่งสินค้า รวมถึงระบบเทคโนโลยีที่ใช้บริหารจัดการร้าน โดยไม่มีค่าบริการรายเดือน
เนื่องจากบริษัท ทีดี ตะวันแดง เป็นผู้ลงทุนสินค้า อุปกรณ์ในร้าน จัดส่งสินค้า รวมถึงระบบเทคโนโลยีที่ใช้บริหารจัดการร้าน โดยไม่มีค่าบริการรายเดือน
ในส่วนของเจ้าของร้าน จะได้รับส่วนแบ่งกำไร 85% เพื่อให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน และกลายมาเป็นเส้นเลือดสำคัญในการหล่อเลี้ยงชุมชนในอนาคต
พอเป็นแบบนี้ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไม KBank ถึงเลือกลงทุนใน ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เพราะนี่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ KBank ที่ต้องการมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยเปิดโอกาสให้คนในชุมชนได้เข้าถึงบริการทางการเงิน และสินเชื่อครบวงจร
แล้วแผนการพัฒนาร้านถูกดี มีมาตรฐาน ในมุมมองของ KBank เป็นอย่างไร ?
คุณพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เล่าว่า ปัจจุบัน KBank มีแผนดำเนินการร่วมกับร้านถูกดี มีมาตรฐาน ประกอบด้วย 3 มิติ ได้แก่
1. ส่งเสริมศักยภาพการให้บริการธุรกรรมทางการเงินที่ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน
เพิ่มระบบช่องทางการชำระเงินให้แก่ลูกค้า และทำให้เจ้าของร้านถูกดี มีมาตรฐาน สามารถบันทึกการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ยกระดับ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้กลายเป็นแหล่งเงินทุน สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
โดย KBank จะนำข้อมูลการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของลูกค้า มาพิจารณาเพื่อปล่อยสินเชื่อ ที่เป็นธรรม และมีคุณภาพ
เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ประจำ หรือเจ้าของร้านค้าที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนภายในร้าน
เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ประจำ หรือเจ้าของร้านค้าที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนภายในร้าน
3. ยกระดับ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้เป็นจุดบริการธุรกรรมทางการเงินแบบครบวงจร
ตัวอย่างบริการทางการเงินแบบครบวงจร เช่น บริการถอนเงิน ฝากเงิน หรือจ่ายบิล และยังสามารถสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โคด ที่ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มรู้จักและคุ้นเคยมากขึ้น จากนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ
ที่น่าสนใจคือ KBank ยังได้เตรียมเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท ในการผลักดันร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้กลายเป็นผู้นำธุรกิจร้านสะดวกซื้อชุมชนของประเทศไทย
โดยการจัดสรรเงินลงทุน จะแบ่งออกเป็น
- 8,000 ล้านบาท เป็นวงเงินกู้ให้บริการในกลุ่มธุรกิจคาราบาว และบริษัทร่วมทุน
- 5,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนผ่านตราสารการลงทุน ที่ให้สิทธิการลงทุนในหุ้นของ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด
- 2,000 ล้านบาท เป็นเงินเตรียมทยอยร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท กสิกร คาราบาว จำกัด (kbao)
- 5,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนผ่านตราสารการลงทุน ที่ให้สิทธิการลงทุนในหุ้นของ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด
- 2,000 ล้านบาท เป็นเงินเตรียมทยอยร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท กสิกร คาราบาว จำกัด (kbao)
ซึ่งคุณพัชร ได้กล่าวว่า
“การร่วมมือกันครั้งนี้ จะทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ สามารถใช้บริการเคแบงก์ เซอร์วิส (KBank Service) รวมกันกว่า 30,000 จุด และสามารถขอสินเชื่อต่าง ๆ เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือค้าขายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งคนที่เป็นเจ้าของร้านถูกดี มีมาตรฐาน คู่ค้า หรือชาวบ้านในพื้นที่ ทุกคนสามารถใช้บริการทั้งซื้อสินค้าต่าง ๆ ทำธุรกรรมทางการเงินได้ ที่ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเขายังใช้การกู้หนี้นอกระบบ อาจจะยังเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุนที่มีความปลอดภัย”
มาถึงตรงนี้คงพอเห็นถึงรูปร่าง และหน้าตาของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ที่กำลังจะถูกพัฒนาขึ้นในอนาคต หลังจากการร่วมมือกันระหว่าง 2 บริษัทชั้นนำของประเทศไทย
ทีนี้ลองมาดูจุดเด่นของทั้ง KBank และคาราบาวกรุ๊ป ที่จะมาติดปีกให้กับร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้สามารถแข่งขันได้ ในยุคการแข่งขันที่ดุเดือดกันบ้าง
ต้องบอกว่า คาราบาวกรุ๊ป คือหนึ่งบริษัทชั้นนำด้านสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศไทย ที่มีแบรนด์ดัง ๆ ในเครืออย่าง คาราบาวแดง, ซีเจ เอ็กซ์เพรส, โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ต้องบอกว่า คาราบาวกรุ๊ป คือหนึ่งบริษัทชั้นนำด้านสินค้าอุปโภคบริโภคของประเทศไทย ที่มีแบรนด์ดัง ๆ ในเครืออย่าง คาราบาวแดง, ซีเจ เอ็กซ์เพรส, โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการคลังสินค้า การตลาด โลจิสติกส์ และบริษัทยังมีสินค้า และเครื่องดื่มภายใต้เครือ ที่สามารถนำไปเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ร้านถูกดี มีมาตรฐานได้
ในทางกลับกัน KBank ไม่เพียงแต่จะเป็นธนาคารชั้นนำของประเทศไทย ที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกรรมทางการเงิน และดิจิทัล แบงกิ้ง แต่ KBank ยังขึ้นชื่อว่าเป็นธนาคารที่ได้นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อมอบบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในวงกว้าง
ที่สำคัญคือ KBank และคาราบาวกรุ๊ป ต่างให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ทำให้คนในชุมชนมีรายได้หมุนเวียน
ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงสะท้อนได้ว่า ร้านถูกดี มีมาตรฐาน จะสามารถเป็นร้านค้าปลีกชุมชนที่น่าจับตามองได้ไม่ยาก...
แล้วในอนาคต ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีเป้าหมายในการเติบโต อย่างไรบ้าง ?
แล้วในอนาคต ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีเป้าหมายในการเติบโต อย่างไรบ้าง ?
ปัจจุบัน ร้านถูกดี มีมาตรฐาน มีสาขาทั้งหมดร่วมกันกว่า 5,000 ร้านทั่วประเทศไทย
ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ร้าน ภายในสิ้นปีนี้
และขยายอีก 20,000 ร้านภายในปี 2566 และมุ่งสู่ 30,000 ร้านภายในปี 2567
ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ร้าน ภายในสิ้นปีนี้
และขยายอีก 20,000 ร้านภายในปี 2566 และมุ่งสู่ 30,000 ร้านภายในปี 2567
นอกจากนี้ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ยังมีพาร์ตเนอร์ที่รอเปิดสาขาอีกกว่า 1,000 ราย
และในทุกสัปดาห์ ยังมีพาร์ตเนอร์ที่รอต่อคิว เพื่อสมัครขอเปิดร้านกว่า 500 ราย
และในทุกสัปดาห์ ยังมีพาร์ตเนอร์ที่รอต่อคิว เพื่อสมัครขอเปิดร้านกว่า 500 ราย
ซึ่งหากลองมาดูรายได้ย้อนหลัง 3 ปี ของ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด จะพบว่า
ปี 2562 รายได้ 106 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 424 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 5,060 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 424 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 5,060 ล้านบาท
ซึ่งคุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ได้กล่าวว่า
“ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เป็นธุรกิจร้านค้าปลีกที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทมีแนวคิดที่จะสร้างมาตรฐานให้แก่วงการร้านค้าปลีกชุมชนให้มีความทันสมัย ด้วยเทคโนโลยี และระบบจัดการบริหาร
เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และมุ่งแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย ดังแนวคิด “กินแบ่ง ไม่กินรวบ”
การร่วมมือกันระหว่าง KBank และ คาราบาวกรุ๊ป ในครั้งนี้ จึงเป็นการร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้เป็นร้านสะดวกซื้อชุมชนที่สามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมทั้งยกระดับบริการด้วยธุรกรรมทางการเงิน ที่จะมาผลักดันให้ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน แบบครบวงจร นั่นเอง..
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน คลิก https://bit.ly/3nZQChk