ทำไมคอนโดระดับไฮเอนด์บนย่านสาทร ถึงน่าสนใจ ?
ทำไมคอนโดระดับไฮเอนด์บนย่านสาทร ถึงน่าสนใจ ?
125 Sathorn x ลงทุนแมน
125 Sathorn x ลงทุนแมน
หากพูดถึงทำเลทองของกรุงเทพมหานคร ที่มีการเติบโตด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจ
หนึ่งในคำตอบของใครหลาย ๆ คน คงเป็น “ย่านสาทร”
หนึ่งในคำตอบของใครหลาย ๆ คน คงเป็น “ย่านสาทร”
ปัจจุบัน สาทร ถือว่าเป็นย่านศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และยังเป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงานชั้นนำของประเทศ โดยเฉพาะสถาบันการเงิน
ในปี 2019 ราคาที่ดินของย่านสาทร ถูกประเมินไว้ที่ 2,500,000 บาทต่อตารางวา
ในขณะที่ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร
ซึ่งตัวเลขนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทุกปี
ในขณะที่ คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 200,000 บาทต่อตารางเมตร
ซึ่งตัวเลขนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทุกปี
อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ ย่านสาทร มีอัตราการเติบโตสูง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จริง ๆ แล้ว ถนนสาทร เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนพระรามที่ 4 เข้ากับถนนเจริญกรุง
โดยถนนสาทรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ ถนนสาทรเหนือ ที่อยู่ในแขวงสีลม เขตบางรัก
และถนนสาทรใต้ ที่อยู่ในแขวงยานนาวา และแขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร
โดยถนนสาทรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ได้แก่ ถนนสาทรเหนือ ที่อยู่ในแขวงสีลม เขตบางรัก
และถนนสาทรใต้ ที่อยู่ในแขวงยานนาวา และแขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร
ปัจจุบันสาทรได้กลายมาเป็นย่านศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย
ซึ่งความเจริญของย่านสาทร สามารถอธิบายด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้
ซึ่งความเจริญของย่านสาทร สามารถอธิบายด้วย 3 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้
ปัจจัยที่ 1 คือ ศูนย์รวมแหล่งทำงานออฟฟิศ
รู้หรือไม่ว่า สาทร มีพื้นที่ออฟฟิศมากกว่า 1 ล้านตารางเมตร
หรือคิดเป็น 30% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมดในกรุงเทพฯ
หรือคิดเป็น 30% ของพื้นที่สำนักงานทั้งหมดในกรุงเทพฯ
ซึ่งหากใครเคยเดินทางมาในย่านนี้ จะสังเกตเห็นอาคารสำนักงานชั้นนำของไทยมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น เอ็มไพร์ทาวเวอร์, อาคารสาธรธานี, บางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์
ไม่ว่าจะเป็น เอ็มไพร์ทาวเวอร์, อาคารสาธรธานี, บางกอก ซิตี้ ทาวเวอร์
ข้อมูลในปี 2019 ยังพบว่า อัตราค่าเช่าออฟฟิศในย่านสาทร เฉลี่ยราว 800 - 1,100 บาทต่อตารางเมตร
และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะปรับเพิ่มขึ้นราว ๆ 4 - 5% ต่อปี อีกด้วย
และมีแนวโน้มว่าตัวเลขนี้จะปรับเพิ่มขึ้นราว ๆ 4 - 5% ต่อปี อีกด้วย
ปัจจัยที่ 2 คือ คอนโดมิเนียมในย่านสาทร เป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
ในปี 2021 สาทรมีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์รวมกันกว่า 6,073 ยูนิต
โดยสัดส่วน 71.8% เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอีก 28.2% คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2024
โดยสัดส่วน 71.8% เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ และอีก 28.2% คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2024
ที่น่าสนใจคือ ยูนิตที่สร้างแล้วเสร็จในย่านสาทร สามารถสร้างยอดขายสูงถึง 99.2%
สะท้อนได้ถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านสาทรที่เติบโตขึ้นอย่างดี
สะท้อนได้ถึงความต้องการที่อยู่อาศัยในย่านสาทรที่เติบโตขึ้นอย่างดี
ปัจจัยที่ 3 คือ สาทร ถูกรองรับด้วยระบบขนส่งสาธารณะ และทางด่วน
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ย่านสาทรมีความน่าสนใจ คือ “ความสะดวกสบาย” ในการเดินทาง
เพราะย่านสาทร ถูกรองรับด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT, รถด่วนพิเศษ BRT
และที่สำคัญ ย่านนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร
ส่งผลให้การคมนาคมในย่านสาทรเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
เพราะย่านสาทร ถูกรองรับด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT, รถด่วนพิเศษ BRT
และที่สำคัญ ย่านนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร
ส่งผลให้การคมนาคมในย่านสาทรเป็นไปอย่างสะดวกสบาย
เหตุผลเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า สาทรคือหนึ่งใน CBD ชั้นนำของไทย
ที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของแหล่งงาน, ความต้องการที่อยู่อาศัย และการเดินทาง
ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยหลากหลายเมกะโปรเจกต์ในอนาคต อย่างโครงการ One Bangkok, Dusit Central Park รวมทั้งสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี
ที่มีความพร้อมทั้งในเรื่องของแหล่งงาน, ความต้องการที่อยู่อาศัย และการเดินทาง
ทั้งยังแวดล้อมไปด้วยหลากหลายเมกะโปรเจกต์ในอนาคต อย่างโครงการ One Bangkok, Dusit Central Park รวมทั้งสวนสาธารณะคลองช่องนนทรี
ที่น่าสนใจก็คือ โครงการคอนโดมิเนียมที่กำลังจะเกิดขึ้นที่มีชื่อว่า “125 Sathorn”
คอนโดมิเนียมสุดหรู ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
คอนโดมิเนียมสุดหรู ที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
รู้หรือไม่ว่า พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันระหว่าง “โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์” บริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์
ร่วมกับ “Kanden Realty & Development” และ “Toray Construction” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น
ร่วมกับ “Kanden Realty & Development” และ “Toray Construction” ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของญี่ปุ่น
แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ 125 Sathorn น่าสนใจ ในย่านสาทร ?
ต้องบอกว่า โครงการ 125 Sathorn ตั้งอยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
เช่น BTS สถานีช่องนนทรี เพียง 500 เมตร
หรือจะเดินทางด้วย MRT สถานีลุมพินี เพียง 1.6 กิโลเมตร
เช่น BTS สถานีช่องนนทรี เพียง 500 เมตร
หรือจะเดินทางด้วย MRT สถานีลุมพินี เพียง 1.6 กิโลเมตร
นอกจากนี้ โครงการ 125 Sathorn ยังแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่อย่าง สีลมคอมเพล็กซ์, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้ายักษ์ใหญ่อย่าง สีลมคอมเพล็กซ์, โรงพยาบาลบีเอ็นเอช และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
หรือในแง่ของการลงทุน ย่านสาทรเป็นทำเลที่ตั้งของหลาย ๆ ธุรกิจชั้นนำของโลก
อย่างธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และดอยซ์แบงก์
อย่างธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส, ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และดอยซ์แบงก์
ทั้งหมดนี้สะท้อนได้ว่า โครงการ 125 Sathorn ตั้งอยู่ในย่านสาทรที่น่าจับตามอง
เพราะนอกจากจะเป็น CBD ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว
การมีโอกาสได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในย่านสาทร ที่มีอยู่อย่างจำกัด ยังน่าสนใจไม่น้อย
เพราะนอกจากจะเป็น CBD ที่เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันแล้ว
การมีโอกาสได้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในย่านสาทร ที่มีอยู่อย่างจำกัด ยังน่าสนใจไม่น้อย
ทีนี้ เราลองมาดูความพิเศษของโครงการ 125 Sathorn กันบ้าง
โครงการ 125 Sathorn ตั้งอยู่บนถนนสาทรใต้ บนแปลงที่ดินผืนสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสาทร
ด้วยหน้ากว้าง 97 เมตร รวมที่ดิน 3-1-25.2 ไร่
ด้วยหน้ากว้าง 97 เมตร รวมที่ดิน 3-1-25.2 ไร่
ทั้งนี้ ตัวโครงการถูกสร้างมาเป็น 2 อาคาร รวม 755 ยูนิต
และมีที่จอดรถ 433 คัน ซึ่งจะเป็นการจอดรถแบบ Auto Parking 275 คัน
และแบบ Conventional Parking อีก 158 คัน
และมีที่จอดรถ 433 คัน ซึ่งจะเป็นการจอดรถแบบ Auto Parking 275 คัน
และแบบ Conventional Parking อีก 158 คัน
จุดที่น่าสนใจคือ การออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “อยู่กับธรรมชาติ ในใจกลางเมือง”
เพื่อเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และฤดูกาลทั้งสี่
ส่งผลให้การเลือกใช้วัสดุและสีเป็นไปอย่างละเอียดลออ และพิถีพิถัน
เพื่อเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และฤดูกาลทั้งสี่
ส่งผลให้การเลือกใช้วัสดุและสีเป็นไปอย่างละเอียดลออ และพิถีพิถัน
นอกจากนี้ โครงการ 125 Sathorn ยังจัดเต็มด้วยพื้นที่ส่วนกลาง 4,500 ตารางเมตร
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น
มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น
- สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก 50 เมตร และสระเด็ก
- ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่
- Co-working Space และห้องสมุด
- สนามบาสเกตบอล
- พื้นที่ปลูกพืชสวนครัว
- ห้องคาราโอเกะ และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก
- จุดชมวิวแบบพาโนรามา ที่เห็นวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา
- สวนลอยฟ้า Twilight Deck
- ห้องฟิตเนสขนาดใหญ่
- Co-working Space และห้องสมุด
- สนามบาสเกตบอล
- พื้นที่ปลูกพืชสวนครัว
- ห้องคาราโอเกะ และโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก
- จุดชมวิวแบบพาโนรามา ที่เห็นวิวกรุงเทพฯ แบบ 360 องศา
- สวนลอยฟ้า Twilight Deck
และยังได้แบ่งพื้นที่กว่า 450 ตารางเมตร
เพื่อสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านได้พักผ่อนหย่อนใจอย่างเต็มที่
เพื่อสร้างเป็นพื้นที่สีเขียวให้ลูกบ้านได้พักผ่อนหย่อนใจอย่างเต็มที่
เรียกได้ว่า เมื่อเข้ามาภายในโครงการแล้ว
เสมือนได้ความสะดวกสบายเทียบได้กับโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมให้ผู้อยู่อาศัย
ให้ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลารถติดออกไปใช้บริการที่อื่นเลยทีเดียว
เสมือนได้ความสะดวกสบายเทียบได้กับโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียบพร้อมให้ผู้อยู่อาศัย
ให้ลูกบ้านไม่ต้องเสียเวลารถติดออกไปใช้บริการที่อื่นเลยทีเดียว
อีกทั้งผู้พัฒนายังใส่ใจในรายละเอียดเรื่องการใช้พื้นที่ส่วนกลางอย่างมาก
เนื่องจากคำนึงถึงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา
เนื่องจากคำนึงถึงสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา
แล้วด้านราคา โครงการ 125 Sathorn เป็นอย่างไร ?
ต้องบอกว่า โครงการ 125 Sathorn มีราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท*
รองรับการพักอาศัยด้วยรูปแบบห้อง 6 ประเภท ดังนี้
รองรับการพักอาศัยด้วยรูปแบบห้อง 6 ประเภท ดังนี้
- 1 Bedroom ขนาด 28.55 - 43.70 ตร.ม. ราคา 6.5 - 12 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 59.70 - 103.85 ตร.ม. ราคา 14.9 - 30 ล้านบาท
- 3 Bedroom ขนาด 120.15 - 152.45 ตร.ม. ราคา 35 - 46 ล้านบาท
- 4 Bedroom ขนาด 178.35 - 178.90 ตร.ม. ราคา 53.5 - 57 ล้านบาท
- Duplex Penthouse ขนาด 163.60 - 330.60 ตร.ม. (ราคาจะเปิดเผยในอนาคต)
- Penthouse ขนาด 260.75 - 282.85 ตร.ม. (ราคาจะเปิดเผยในอนาคต)
- 2 Bedroom ขนาด 59.70 - 103.85 ตร.ม. ราคา 14.9 - 30 ล้านบาท
- 3 Bedroom ขนาด 120.15 - 152.45 ตร.ม. ราคา 35 - 46 ล้านบาท
- 4 Bedroom ขนาด 178.35 - 178.90 ตร.ม. ราคา 53.5 - 57 ล้านบาท
- Duplex Penthouse ขนาด 163.60 - 330.60 ตร.ม. (ราคาจะเปิดเผยในอนาคต)
- Penthouse ขนาด 260.75 - 282.85 ตร.ม. (ราคาจะเปิดเผยในอนาคต)
โครงการ 125 Sathorn พร้อมเปิด sales gallery ให้ผู้ที่สนใจนัดหมายเพื่อเข้าชมห้องตัวอย่างแล้วตอนนี้
โดยจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2565 และคาดว่าจะเสร็จภายในปี 2569
โดยจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2565 และคาดว่าจะเสร็จภายในปี 2569
มาถึงตรงนี้ คงพอสรุปได้ว่า 125 Sathorn เป็นอีกหนึ่งในอัญมณีของย่านสาทร
ด้วยความโดดเด่นของโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่หาได้ยากในย่านนี้ และในอนาคต
ด้วยความโดดเด่นของโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ที่หาได้ยากในย่านนี้ และในอนาคต
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าใคร ๆ ก็ย่อมต้องการที่อยู่อาศัยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ
สำหรับโครงการ 125 Sathorn ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ลูกบ้านด้านการอยู่อาศัย
แต่ยังตอบโจทย์การลงทุนในทำเลที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของไทย อย่าง “ย่านสาทร” อีกด้วย..
สำหรับโครงการ 125 Sathorn ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ลูกบ้านด้านการอยู่อาศัย
แต่ยังตอบโจทย์การลงทุนในทำเลที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของไทย อย่าง “ย่านสาทร” อีกด้วย..
ใครสนใจสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.125sathorn.com/
หรือโทรติดต่อเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ 091-125-8558
หรือโทรติดต่อเพื่อนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ 091-125-8558