TQM กำลัง Transform ตัวเอง ให้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ ธุรกิจขายประกัน
TQM X ลงทุนแมน

ใครจะคิดว่า จากธุรกิจนายหน้าขายประกันเล็ก ๆ ของครอบครัว เมื่อ 69 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ TQM กลายเป็นบริษัทมหาชน ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ 28,200 ล้านบาท
โดยในปี 2021 มีรายได้ 3,427 ล้านบาท กำไรสุทธิ 892 ล้านบาท
ปัจจุบันบริษัทมีพนักงานกว่า 4,000 คน และมีฐานลูกค้ากว่า 4 ล้านคน

ถ้าจะหาบทสรุปความสำเร็จของ TQM แบบสั้น ๆ
คือการเป็นบริษัทนายหน้าค้าประกันที่ไม่หยุดนิ่งในการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา
เช่น การเป็นบริษัทแรก ๆ ที่เริ่มการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ หรือจะเป็นการลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ในเรื่องเทคโนโลยีและดิจิทัล

จนมาถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดที่คงไม่มีใครคาดคิดว่า..
TQM จะประกาศว่าต่อไปนี้บริษัทจะหลุดจากกรอบเดิม ๆ ที่ไม่ได้จำกัดตัวเองแค่ ธุรกิจนายหน้าขายประกัน อย่างเดียวอีกต่อไป
แต่จะมีธุรกิจการเงินและธุรกิจแพลตฟอร์ม พร้อมเปลี่ยนชื่อจาก TQM Corporation มาเป็น “TQMalpha”

TQM มองเห็นโอกาสอะไรในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปัจจุบัน TQM มีฐานลูกค้าในระบบกว่า 4 ล้านราย แน่นอนว่า ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีฐานลูกค้ามหาศาล
เปรียบเสมือนบันไดที่ใช้ต่อยอดไปยังธุรกิจใหม่ ๆ

ที่ผ่านมา TQM ได้ Transform ตัวเองเป็นบริษัทนายหน้าขายประกันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
โดยเทคโนโลยีล้ำ ๆ เหล่านี้ก็ทำให้ TQM ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้นกว่าเดิม

ความแข็งแกร่งตรงนี้ ทำให้ TQM ไม่จำกัดตัวเองอยู่ที่ธุรกิจขายประกันเพียงอย่างเดียวเหมือนในอดีต
ด้วยการนำศักยภาพทั้งจากฐานลูกค้า 4 ล้านคน โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือ และความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มุ่งเข้าสู่ธุรกิจใหม่

โดยใช้ชื่อบริษัท TQMalpha ซึ่งมี 3 กลุ่มธุรกิจ
คือ ธุรกิจประกัน, ธุรกิจการเงิน และธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม

เริ่มต้นที่ธุรกิจเดิมคือ นายหน้าขายประกัน

ปัจจุบันบริษัทเป็นนายหน้าขายประกันให้บริษัทประกันในเมืองไทยเกือบ ๆ 40 บริษัท
โดยใช้ธุรกิจการเงินและเทคโนโลยีแพลตฟอร์มต่าง ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและการทำงานของพนักงาน
ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ธุรกิจประกันจะมีความหลากหลาย ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการ

ขณะเดียวกัน TQMalpha ก็ยังขยายการลงทุนในบริษัทโบรกเกอร์รับประกันภัยหลายแห่ง

อย่างล่าสุดคือ การลงทุนในบริษัท TQR โบรกเกอร์รับประกันภัย และยังมีอีกหลายแห่ง
จนถึงการเปิดตัว Surekrub บริการด้านประกันภัยหลายรูปแบบผ่าน Digital Platform โดยมุ่งทำการตลาดในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ธุรกิจต่อมาก็คือ ธุรกิจการเงิน
โดยตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า EASY Lending ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ก็มีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง

สุดท้ายคือ ธุรกิจเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
โดยเตรียมเข้าลงทุน 40% ใน Builk One Group ธุรกิจให้บริการ และพัฒนาซอฟต์แวร์บริหารธุรกิจสำเร็จรูป จนไปถึงบริการอีคอมเมิร์ซ สําหรับอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์หลายรูปแบบ
ทั้งยังพัฒนาซอฟต์แวร์ให้แก่ธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย

ทีนี้ คงพอจะนึกภาพออกว่า การลงทุนในธุรกิจนี้ ก็เพื่อให้ Builk One Group มาช่วยส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจด้านประกันและการเงินบนแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับตัวเอง

พูดง่าย ๆ ก็คือ ใน 3 ธุรกิจนี้ จะทำหน้าที่สอดรับและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
พอเป็นแบบนี้ ก็จะทำให้ TQM จากเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TQM
วาดฝันการเติบโตของบริษัทที่จะโตแบบก้าวกระโดด โดยภายใน 5 ปีต่อจากนี้ (ปี 2022-2026)
จะมีการเพิ่มฐานลูกค้าจากเดิม 4 ล้านรายเป็น 10 ล้านราย ผ่าน 3 ธุรกิจข้างต้น
พร้อมกับเตรียมวางแผนขยายธุรกิจไปยังประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน

การเปลี่ยนเกมธุรกิจครั้งนี้ของ TQM เปรียบเสมือนเป็นการจุดเทียน
แม้ในอดีต บริษัทอาจมีเทียนเพียงเล่มเดียว นั่นคือ ธุรกิจประกัน
แต่เมื่อปัจจุบันมีเทียนถึง 3 เล่ม และถูกจุดขึ้นพร้อม ๆ กัน เชื่อว่าย่อมทำให้ TQM สว่างไสวขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว..

Reference
-งานแถลงข่าว บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)