เฟซบุ๊ก รายได้ลดลง เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

เฟซบุ๊ก รายได้ลดลง เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท

เฟซบุ๊ก รายได้ลดลง เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท /โดย ลงทุนแมน
“834,000 ล้านบาท” คือมูลค่าบริษัทที่หายไปของ Meta เจ้าของเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเมื่อคืนนี้
หลังบริษัทได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวล
ผู้บริหารเฟซบุ๊ก บอกว่าเราเคยเจอ ความท้าทาย มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ผ่านมันไปได้
ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยน จาก Desktop มาเป็น Mobile
เปลี่ยนจาก Feed มาเป็น Stories
ในวันนี้ เฟซบุ๊กก็จะก้าวข้ามมันไปได้อีกครั้ง
ด้วย Reels.. (ที่เลียนแบบ TikTok)
ทำไมเฟซบุ๊กรายได้ลดลง
แล้ว Reels จะเป็นอนาคตของเฟซบุ๊กอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ผลประกอบการ ไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ของ Meta ชื่อใหม่ของบริษัทเฟซบุ๊ก
รายได้ 1,058,000 ล้านบาท ลดลง 1% (เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า)
กำไร 246,000 ล้านบาท ลดลง 36%
โดยในไตรมาสนี้ เป็นครั้งแรกที่ Meta มีรายได้ลดลงตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท
ในขณะที่บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ลดลง
ผลลัพธ์ก็คือทำให้ กำไรลดฮวบ
โดยผลประกอบการของเฟซบุ๊กนั้น เป็นทางเดียวกันกับ เพื่อนร่วมอุตสาหกรรมอย่าง Snapchat และ Twitter เหตุผลหลักก็เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ทำให้คนชะลอการใช้เงินโฆษณา
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บอกว่าไม่รู้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะกลับมาดีตอนไหน พูดได้แค่ ไตรมาสหน้ารายได้ จะยังคงลดลง และหนักกว่าไตรมาสที่แล้วอีก
ดังนั้นบริษัทต้องมาลำดับความสำคัญใหม่
เน้นลงทุนในสิ่งที่จะร้างรายได้ และ จะเลื่อนโครงการที่มีค่าใช้จ่ายหนัก ๆ ที่ไม่จำเป็นใน 2 ปีนี้ ออกไปก่อน รวมถึงชะลอการจ้างงานด้วย
หลายทีมจะถูกปรับโครงสร้าง ถูกลดคน ถูกย้ายไปทำในตำแหน่งที่มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น ทำงานได้มากขึ้นในทรัพยากรที่น้อยลง
ในด้านจำนวนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กยังคงเติบโตอยู่ ขัดกับความเชื่อหลายคน ที่บอกว่าเลิกเล่นเฟซบุ๊กแล้ว
-ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก 2,930 ล้านบัญชีต่อเดือน เพิ่มขึ้น 3%
-ผู้ใช้งานอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์มของบริษัท 3,650 ล้านบัญชีต่อเดือน เพิ่มขึ้น 4%
ถึงคนใช้งานจะเพิ่มขึ้น แต่อีกความท้าทายต่อธุรกิจโฆษณาของเฟซบุ๊ก
ก็คือ การเติบโตของ TikTok ซึ่งมาแย่งทั้งเวลาของผู้ใช้งาน และเม็ดเงินโฆษณาไป
โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ก็แก้เกมด้วยการพัฒนา Reels รูปแบบคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่คล้าย TikTok
มาร์กเล่าให้ฟังว่าตอนนี้โลกโซเชียลมีเดียมีระบบอยู่ 2 แบบ
1. ระบบ follow เห็นคอนเทนต์จากที่เราติดตาม
2. ระบบ AI ที่แนะนำโพสต์ที่ไม่ได้ติดตาม
ระบบ Follow จะได้เนื้อหาที่ดี ซึ่งเฟซบุ๊กมีอยู่และได้เปรียบ
แต่ตอนนี้เฟซบุ๊กคิดว่าระบบ AI ที่แนะนำคอนเทนต์ก็ดี และอยากจะทำให้มีบทบาทมากขึ้นในอนาคต
ระบบ AI แนะนำโพสต์ที่ไม่ได้ติดตาม ตอนนี้มี 15% ของเนื้อหาทั้งหมดในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม
แต่มาร์กบอกว่า ในสิ้นปีหน้า ตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเกิน 2 เท่า..
ก็หมายความว่า ในปีหน้า คนใช้งานเฟซบุ๊กและในอินสตาแกรม จะเจอโพสต์ของคนที่ไม่ได้ติดตาม มากกว่า 30% ของเนื้อหาทั้งหมด
มาร์กเชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยเพิ่ม engagement (การมีส่วนร่วม) ของผู้ใช้งาน และเป็นโอกาสทางธุรกิจของเฟซบุ๊กที่จะสร้างรายได้มากขึ้น
มาร์กเล่าว่า engagement ใน Reels เพิ่มขึ้นมากจริง ๆ
ที่เคยบอกว่าไตรมาสที่แล้ว คนในอินสตาแกรมดู Reels เป็นสัดส่วนมากถึง 20%
ในไตรมาสล่าสุด สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 26%
ที่สำคัญ Reels ยังไม่มีการ monetize (สร้างรายได้) ในอัตราที่เท่ากับ Feed กับ Stories ทำ
ดังนั้นแปลว่า ยิ่ง Reels มีสัดส่วนในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมมากขึ้นเท่าไร มันก็แปลว่าจะเกิดรายได้ที่ยังไม่ถูก monetize มากขึ้นเท่านั้น
บริษัทอื่นอาจจะเลือกรายได้ระยะสั้น คือกดให้ Reels เติบโตน้อย เพื่อให้มีโอกาสสร้างรายได้ในส่วนอื่นมากขึ้น
แต่เฟซบุ๊กบอกว่าจะไม่ทำอย่างนั้น เพราะมันจะส่งผลเสียในระยะยาว
เฟซบุ๊กมั่นใจมากว่า Reels จะเติบโตดี ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะสร้างรายได้ ได้ใกล้เคียงกับ Feed เช่นกัน
ผลลัพธ์ก็คือ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ยัดคอนเทนต์ Reels ให้เข้าไปอยู่ของหน้าจอทุกคนเต็มไปหมด..
ต่อมาก็เป็นเรื่องของธุรกิจ Metaverse
เฟซบุ๊กจะยังยังเดินหน้าพัฒนาต่อไป เพราะเชื่อว่าจะสร้างรายได้มหาศาลจากธุรกิจนี้
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บอกว่าธุรกิจนี้อาจมีมูลค่าถึง Trillion Dollars หรือ 37 ล้านล้านบาทเลย และเฟซบุ๊กไม่อยากทำช้ากว่าคนอื่น ไม่อยากตกขบวน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นบทสรุปทั้งหมดของเฟซบุ๊กไตรมาสที่ผ่านมา
ซึ่งหากเราดูจากผลประกอบการแล้ว
ก็ต้องบอกว่าเฟซบุ๊ก มีรายได้ลดลงจากอุตสาหกรรมที่แย่ลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่บริษัทก็กำลังลำดับความสำคัญ เลื่อนการลงทุนหนัก ชะลอการจ้างงาน
เน้นทำ 4 เรื่องคือ
1. Reels
2. ระบบโฆษณาใหม่ สำหรับ Reels
3. AI แนะนำคอนเทนต์ ที่เรียกว่า Discovery Engine
4. Metaverse
ถึงตรงนี้ เราก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เฟซบุ๊กกำลังทำ จะสำเร็จเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่
แต่ดูจากราคาปิดตลาดแล้ว ตลาดก็น่าจะยังคงกังวล
และเทขายหุ้นของ Meta จนปรับตัวลดลง 4.7% คิดเป็นมูลค่าที่หายไป 834,000 ล้านบาท
และหากนับตั้งแต่ต้นปี มูลค่า Meta หายไปแล้วเกินกว่าครึ่งหนึ่ง คิดเป็นมูลค่ามากถึง 8,400,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://s21.q4cdn.com/399680738/files/doc_news/Meta-Reports-Second-Quarter-2022-Results-2022
-https://www.cnbc.com/2022/07/27/facebook-parent-meta-earnings-q2-2022.html
-https://s21.q4cdn.com/399680738/files/doc_financials/2022/q2/META-Q2-2022-Prepared-Remarks

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon