MG x ลงทุนแมน

รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก่อนจะมาจอดขายในโชว์รูมทั่วประเทศ
เคยสงสัยไหมว่า ต้องผ่านกระบวนการทดสอบอะไรบ้าง

เรื่องนี้ MG มีคำตอบ
โดย MG ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดเรื่องราวการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขาในรูปแบบเรียลลิตี้ ซึ่งค่อนข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียว

โดยเป็นการบอกเล่าถึงกระบวนการทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง
ว่าในแต่ละขั้นตอนทำอย่างไรบ้าง
เพื่อพิสูจน์ Performance การขับขี่ ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีความปลอดภัย
รวมถึงอุปกรณ์ ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่มีอยู่ในรถอย่างละเอียด

สิ่งที่รถไฟฟ้าทุกรุ่นต้องผ่านการทดสอบคือ การเข้าห้อง Lab เพื่อเช็กอัตราสิ้นเปลืองของกระแสไฟ
และระยะทางการวิ่งต่อการชาร์จไฟฟ้า 1ครั้ง

จนมาถึงบททดสอบของ MG ที่ทำให้รู้สึก Wow ก็คือการนำรถไฟฟ้าทดสอบบนถนนจริง
โดยจะใช้รถไฟฟ้าคันเดียวตลอดทาง เสมือนเราใช้รถตัวเองขับไปเที่ยวต่างจังหวัด
เพื่อเก็บข้อมูล และอาการของรถที่เกิดขึ้น

จึงต้องขอเล่าความโชว์เหนือของ MG กับบททดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ชื่อว่า “EV Marathon”
ด้วยการทดสอบขับขี่รถไฟฟ้าโดยใช้รถรุ่น NEW MG ZS EV วิ่งในระยะทาง 4,880 กิโลเมตร
ผ่านทุกภาคของเมืองไทยโดยใช้เวลา 7 วัน ก่อนที่ทาง MG จะเปิดตัวรถรุ่นนี้อย่างเป็นทางการ

คำถามก็คือ ทำไมถึงต้องเพิ่มคอร์สพิเศษในการทดสอบรถที่โหดและสุดแสนจะท้าทาย ?
แล้วบทสรุปของผลการทดสอบนี้ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันสถานะของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จากในช่วงแรก ๆ นั้น ลูกค้ามักจะซื้อเป็นรถคันที่สองสำรองไว้ที่บ้าน
แต่เวลานี้ลูกค้าหลายคนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ นั่นแปลว่า ลูกค้าต้องเชื่อมั่นกับรถไฟฟ้าในระดับหนึ่ง
และการจะควักเงินซื้อรถราคาหลักแสนสำหรับใครหลายคน คงไม่สามารถตัดสินใจได้ภายในวัน
หรือสองวัน

การทดสอบขับขี่รถไฟฟ้าแบบมาราธอน ทำให้ได้เห็นแง่มุมใหม่ ๆ ของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
ที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนวางแผนก่อนออกเดินทางกันซะหน่อย

อย่างแรกสุดที่หลายคนอยากรู้ก็คือ NEW MG ZS EV
สามารถวิ่งได้ถึง 4,880 กิโลเมตร ได้จริงหรือไม่ ?

เพราะหากทำได้จริง นั่นหมายถึง ความเชื่อที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าเหมาะแค่ใช้ในตัวเมืองจะถูกลบไปในทันที
และดูเหมือนการทดสอบ EV Marathon ครั้งนี้ จะทำลายความเชื่อดังกล่าวได้จริง

NEW MG ZS EV มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ความจุ 50.3 kWh
วิ่งได้ไกลสูงสุด 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

คงพอจะเดากันออกว่า การขับขี่มาราธอนครั้งนี้ ที่วิ่งครบทุกภูมิภาคระยะทาง รวม 4,880 กิโลเมตร ทำได้จริง เพราะในทุก ๆ พื้นที่ก็จะมีสถานี MG Super Charge กระจายอยู่ครอบคลุมทั่วแล้ว
และแผนงานของ MG ในอนาคตก็ตั้งใจที่จะให้ทุก 150 กม.
มีสถานี MG Super Charge อย่างน้อย 1 แห่ง ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ MG

โดยในทริปนี้ที่ทำการทดสอบ มีการใช้สถานี MG Super Charge ซึ่งเป็นสถานีอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรงหรือ DC Charge สามารถชาร์จไฟฟ้าได้เร็วขึ้น จำนวน 11 สถานี
ส่วนที่เหลืออีก 29 สถานี เป็นสถานีชาร์จทั่วไป
นั่นแปลว่า NEW MG ZS EV รองรับการชาร์จไฟฟ้าได้ครบทุกรูปแบบ นั่นเอง

บททดสอบนี้ ทำให้คนที่คิดจะซื้อ NEW MG ZS EV
มั่นใจได้ว่ารถคันนี้ไม่ใช่แค่รถไฟฟ้าที่ใช้งานได้เฉพาะในตัวเมืองแต่สามารถวิ่งไปได้ทั่วประเทศ

แต่คำว่า เดินทางได้ทุกพื้นที่ ก็ต้องวิ่งได้ทุกสภาพถนนเช่นกัน

เรื่องนี้น่าสนใจไม่น้อย เพราะ NEW MG ZS EV เป็นรถ Compact SUV
หากต้องเผชิญกับถนนที่ต้องใช้กำลังการขับเคลื่อนสูง ๆ ในการเดินทาง เช่น ทางขึ้นเขา
หลายคนอาจยังสงสัยว่า การขับเคลื่อนนั้นจะทำได้ดีแค่ไหน..

บททดสอบ EV Marathon จึงมีคำตอบ
ในวิดีโอเราได้เห็น NEW MG ZS EV วิ่งขึ้นภูชี้ฟ้า ที่ว่ากันว่าเป็นเส้นทางที่โหดไม่ใช่เล่น ๆ
เพราะนอกจากจะเป็นทางขึ้นเขาที่สูงชันแล้วนั้น บางเส้นทางถนนก็ขรุขระ แต่ก็ยังสามารถขับขี่ได้อย่างราบรื่น

และแม้จะขึ้นไปถึงภูชี้ฟ้า
แต่เชื่อหรือไม่ว่ามอเตอร์ไฟฟ้า ยังทำงานได้ปกติ ไม่ได้มีอาการที่น่ากังวลใจแต่อย่างใด

เพราะ NEW MG ZS EV มีระบบ Liquid Cooling System
ที่มี 2 ชุดแยกทั้งฝั่งแบตเตอรี่ และมอเตอร์ช่วยระบายความร้อน

ข้อดีก็คือ แบตเตอรี่สามารถจ่ายไฟฟ้าไปถึงมอเตอร์ได้อย่างเสถียร จากนั้นมอเตอร์ที่ไม่ร้อนก็สามารถส่งพลังขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ก็คือ ทำให้รถไม่ต้องหยุดพักในการวิ่ง แม้ต้องเจอเส้นทางที่ยากลำบาก
และที่สำคัญ ระบบการทำงานนี้ ยังช่วยให้ตัวรถมีอายุการใช้งานยืนยาวมากขึ้นกว่าเดิม

ถึงตรงนี้ อีกหนึ่งเรื่องที่ใคร ๆ น่าจะอยากรู้ที่สุด
นั่นคือ เมื่อการเดินทางทดสอบสิ้นสุดลง NEW MG ZS EV จะใช้กำลังไฟฟ้าทั้งหมดเท่าไร
แล้วหากเทียบกับรถ SUV เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ใช้น้ำมันค่าใช้จ่ายจะต่างกันอยู่ที่เท่าไร
โดยเทียบในระยะทาง 4,880 กิโลเมตร เท่า ๆ กัน

ผลปรากฏว่า NEW MG ZS EV มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 5.40 กิโลเมตรต่อกิโลวัตต์/ชั่วโมง
หรือคิดเป็นค่าใช้จ่าย 1.29 บาทต่อกิโลเมตร เมื่อจบทริปการเดินทางคิดเป็นค่าใช้จ่าย 6,295 บาท

ขณะที่รถ SUV เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร อัตราสิ้นเปลืองการเดินทางเฉลี่ย 16 กิโลเมตรต่อลิตร
หรือคิดเป็นค่าใช้จ่าย 2.41 บาทต่อกิโลเมตร และเมื่อจบทริปการเดินทางจะเสียค่าใช้จ่าย 11,760 บาท
(คิดคำนวณจากราคาแก๊สโซฮอล์ E20 ในวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 38.64 บาทต่อลิตร)

ถ้าจะสรุปให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ในระยะทางที่เท่ากัน
NEW MG ZS EV จะมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางถูกกว่า 53.5% เมื่อเทียบกับรถ SUV เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร

แล้วถ้าถามว่าทำไม NEW MG ZS EV ถึงต้องพิสูจน์ตัวเองโดยการวิ่งมาราธอนด้วยระยะทางไกลขนาดนี้ ?

นอกจากเรื่องการแสดงให้ลูกค้าได้เห็นถึงมาตรฐานและคุณภาพรถแล้วนั้น

เหตุผลอีกข้อคือ การทำลายความเชื่อเดิม ๆ ที่ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานในตัวเมืองเท่านั้น ขับขี่ได้แค่ระยะทางสั้น ๆ

ทั้งที่จริงแล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นรถที่เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ขับได้ทุกสภาพถนน
และพร้อมเป็นเพื่อนเดินทางไปได้ทุกที่ ด้วยสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ที่ทาง MG เค้าพิสูจน์ให้เห็นกันแล้ว