เหตุผลที่นาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม กำลังเติบโตในหัวใจนักสะสม

เหตุผลที่นาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม กำลังเติบโตในหัวใจนักสะสม

เหตุผลที่นาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม กำลังเติบโตในหัวใจนักสะสม
G-Shock X ลงทุนแมน
นาฬิกา G-Shock ของ Casio คงเป็น นาฬิกาข้อมือเรือนแรกในชีวิต ของใครหลายคน
และมีหลายรุ่นเลยทีเดียวที่เวลานี้ กลายเป็น Rare item ให้บรรดาเซียนนาฬิกาและนักสะสมต้องแย่งชิง
ตัวอย่างเช่น รุ่น MRG-G2000HA-1A ที่เปิดตัวในปี 2018 ผลิต 350 เรือนทั่วโลก
ส่วนในประเทศไทย นำเข้ามาขายแค่ 5 เรือน ผ่านตัวแทนจำหน่าย Central Marketing Group หรือ CMG โดยมีราคาขาย 320,000 บาท ปัจจุบันก็ได้กลายเป็น Rare item เป็นที่เรียบร้อย
นั่นแปลว่า กลไกของกาลเวลา กำลังช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ G-Shock รุ่นพรีเมียม
ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ ได้เกิดนักสะสมหน้าใหม่ ๆ เข้ามา ทั้งซื้อเพื่อความสุขทางใจที่ได้ครอบครอง
จนถึง การซื้อเพื่อการลงทุน
ต้องบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมาย
เพราะเมื่อเอ่ยถึงนาฬิกา G-Shock หลายคนจะนึกภาพว่าเป็นนาฬิกาแฟชั่น
ไม่ค่อยมีใครคิดว่าเป็นนาฬิกาพรีเมียมสำหรับนักสะสม
และเมื่อ G-Shock รุ่นพรีเมียม ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่นักสะสมและนักลงทุน
ทำให้ CMG ผู้นำเข้า G-Shock อย่างเป็นทางการในเมืองไทยมีแผนรุกตลาดนี้เข้มข้นขึ้น
โดยล่าสุดมีการเปิดตัวนาฬิการุ่นพรีเมียม ตั้งแต่ราคา 20,000 บาทจนถึงรุ่น 300,000 บาท
ความเคลื่อนไหวของ CMG ครั้งนี้ในตลาดนาฬิกาพรีเมียมน่าสนใจ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าถามว่า สินค้าที่จะมีมูลค่าชนะกาลเวลาได้นั้น ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
คำตอบก็น่าจะมีอยู่ 3 ข้อหลัก ๆ
1. สินค้าแบรนด์นั้น ต้องมี Story ที่สร้างแรงบันดาลใจระดับตำนาน
2. กระบวนการผลิตต้องพิถีพิถัน มีความเป็นงานศิลปะ และใช้วัสดุพรีเมียม
3. มีการผลิตจำนวนจำกัด มีน้อยชิ้น เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดการอยากครอบครอง
โดย G-Shock รุ่น พรีเมียม ก็มีครบทุกข้อที่กล่าวมา..
ข้อแรกสุดก็คือ Story ระดับตำนาน
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่านาฬิกา G-Shock มาจากการตั้งใจของ คุณ Kikuo Ibe วิศวกรหนุ่มของบริษัท Casio เมื่อ 39 ปีที่แล้ว
เขาทุ่มเทเวลาไปกว่า 2 ปีเต็ม ๆ ตั้งใจที่จะผลิต “นาฬิกาที่ไม่มีวันพัง”
เหตุผลเพราะ นาฬิกาข้อมือที่คุณพ่อมอบให้เขาไว้เป็นของดูต่างหน้านั้นพัง จนซ่อมแซมไม่ได้
แรงบันดาลใจ และความพยายามครั้งนั้น ทำให้เขาได้สร้างนาฬิกาที่แม้ตกตึก 3 ชั้นก็ไม่เป็นไร
ใช้งาน 10 ปีไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่, ทนแรงดันน้ำที่ 10 บาร์
พร้อมตั้งชื่อนาฬิกาว่า G-Shock
ข้อต่อมาคือ กระบวนการผลิต
อย่างที่รู้ G-Shock เป็นแบรนด์ของบริษัท Casio บริษัทญี่ปุ่นที่มีอายุ 76 ปี
โดยหนึ่งนโยบายหลักของบริษัทคือ “ไม่ยอมอ่อนข้อต่อกระบวนการผลิต เพื่อให้สินค้ามีคุณภาพ”
ทีนี้ เมื่อต้องมาผลิตนาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม กระบวนการผลิตที่มีคุณภาพดีอยู่แล้ว ก็ยิ่งถูกใส่ใจเพิ่มขึ้นอีก
โดยมีการคัดช่างนาฬิกาที่มีฝีมือดี ๆ และมีประสบการณ์มาผลิตและออกแบบ
ทำให้ได้นาฬิกาที่มีงานดีไซน์ระดับงานศิลป์ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีทันสมัย
ข้อสุดท้ายก็คือ การผลิตสินค้าน้อยกว่าความต้องการของตลาด
รู้หรือไม่ว่า นาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม ที่วางขายในอดีตจนถึงรุ่นล่าสุด
มีจำนวนการผลิตต่อรุ่นที่ 50-350 เรือน โดยจำนวนการผลิตแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับนโยบายการตลาด
มาถึงตรงนี้ คงน่าจะพอรู้คำตอบแล้วว่า ทำไม G-Shock รุ่นพรีเมียม ถึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
แล้วมีรุ่นไหนบ้างที่ในปีนี้ CMG จะนำเข้ามาขายในบ้านเรา

G-Shock MR-G หรือฉายาที่นักสะสมเรียกว่า “เรือนเวลาแห่งจักรพรรดิ”
ซึ่งเป็นรุ่นที่พรีเมียมสุดของ G-Shock โดยมีราคาเริ่มต้น 100,000 - 300,000 บาท
โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ นอกจากตัวเรือนที่ทำจากไทเทเนียมคุณภาพสูง น้ำหนักเบาแล้วนั้น
แรงบันดาลใจในการออกแบบยังมาจากชุดซามูไรญี่ปุ่น ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากันอย่างลงตัว
โดยจะเป็นงานประกอบมือ จากช่างนาฬิกาชาวญี่ปุ่น และใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยนาโนของ Yamagata ที่เป็นเทคนิคเฉพาะของ Casio เท่านั้น
G-Shock MT-G รุ่นนี้ที่โดดเด่นจะเป็นเรื่องศิลปะด้านโลหะที่บิดเกลียว
โดยมีราคาขาย 40,000 - 70,000 บาท
อีกทั้งโครงสร้างป้องกันของตัวเรือน จะทำมาจากสเตนเลสสตีลที่มีความทนทาน ผ่านการตกแต่งอย่างสวยงาม และมีการใช้เรซินเสริมคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ได้นาฬิกาที่น้ำหนักเบาแต่มีความทนทานสูง
จนถึงงานดีไซน์ จะสวย หรูหรา น้ำหนักเบา มีเทคโนโลยีล้ำ ๆ มาตอบโจทย์
เช่น สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์, ปรับเวลาอัตโนมัติได้รวดเร็วและแม่นยำ
G-Shock Full Metal รุ่นนี้ จะเป็นการต่อยอดจาก G-Shock รุ่นแรก DW5000C
ที่มีการอัปเกรดโครงสร้างสเตนเลสสตีลให้แวววาวทั่วทั้งเรือนทรงสี่เหลี่ยม
แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็จะอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำเหมือนรุ่นอื่น ๆ ในกลุ่มนาฬิกาพรีเมียม
โดยมีราคาขาย 20,000 - 70,000 บาท
จะสังเกตได้ว่า ทุกรุ่นก็จะมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันออกไป
อีกทั้ง นาฬิกาทุกรุ่นที่กล่าวมานั้น ก็จะมีทั้งที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย
เหตุผลเพราะฐานลูกค้าของนาฬิกา G-Shock สัดส่วนผู้หญิงและชายอยู่ที่ 50% เท่า ๆ กัน
ทีนี้ หาก CMG ต้องการขายนาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียมให้มากขึ้น
ก็ต้องศึกษาว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการอะไร ซึ่งเป็นอะไรที่เข้าทาง CMG
เพราะยิ่งขายนาฬิกาพรีเมียมมากเท่าไร CMG ก็ยิ่งรู้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการอะไร
โดยล่าสุดได้มีการประกาศแผนการตลาด 4 Ps เพื่อให้ G-Shock เติบโตในหัวใจนักสะสม
1. Premium Products โดยในอนาคตจะมีการนำเข้า G-Shock Premium รุ่น Limited Editions
เข้ามาทำตลาดมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา
2. Private มีบริการ Remote Personal Shopper ที่ให้นักสะสมสามารถเลือกชมสินค้า
แบบหนึ่งต่อหนึ่ง สร้างความรู้สึกว่าตัวผู้ซื้อคือลูกค้าคนสำคัญ
3. Privilege มีการมอบสิทธิพิเศษมากมาย
เช่น เข้าชมและจองสินค้ารอบ Exclusive Preview และ Pre-order, สิทธิประโยชน์วันเกิด และ กิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็น Exclusive
4. Peace of mind มีศูนย์บริการลูกค้ามาตรฐานสูง เพื่อบริการหลังการขายแบบครบวงจร
และตลอดอายุการใช้งานของนาฬิกา
หากใครสนใจ และอยากสัมผัสให้เห็นกับตาว่า นาฬิกา G-Shock รุ่นพรีเมียม สวยและหรูหราแบบคูล ๆ ไม่เหมือนใครนั้น
ก็ต้องลองไปงาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2022 at Fashion Island ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 มีนาคม – 3 เมษายน 2565
โดยมีสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในงานมากมาย
และหากถาม ลงทุนแมน ว่าสมมติวันนี้คิดจะซื้อนาฬิกา G-Shock พรีเมียมสักเรือน
จะซื้อด้วยเหตุผลอะไร
คำตอบของทุกคนคงแตกต่างกันออกไป
แต่เหตุผลของ ลงทุนแมน คือการครอบครอง Rare item ไว้ที่ตัวเอง
กำไรสูงสุดก็คือความสุขทางใจ
ส่วนกำไรที่มาจากกาลเวลา มาช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่เราครอบครอง
มันเป็นผลพลอยได้ ที่นักสะสมก็คงอยากได้กันทั้งหมดทุกคน..
Reference
- งานแถลงข่าว Central Marketing Group
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon