เหนื่อยหน่อยนะ LAZADA
เหนื่อยหน่อยนะ LAZADA / โดย ลงทุนแมน
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ หนึ่งในโฆษณาที่มาให้เราเห็นกันบ่อยๆ ทั้งทางทีวีและตามป้ายโฆษณาในที่ต่างๆ โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้า คงจะหนีไม่พ้น เวบไซต์ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, 11street หรือ Lazada
ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ หนึ่งในโฆษณาที่มาให้เราเห็นกันบ่อยๆ ทั้งทางทีวีและตามป้ายโฆษณาในที่ต่างๆ โดยเฉพาะบนรถไฟฟ้า คงจะหนีไม่พ้น เวบไซต์ขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, 11street หรือ Lazada
โดยแต่ละเจ้า ก็จะมีเหล่าดารานักแสดงชื่อดังเป็นพรีเซ็นเตอร์เรียกลูกค้าให้แทบทุกราย ไม่ว่าจะเป็นดาราไทยหรือ แม้แต่ดาราดังจากเกาหลี
ซึ่งจากที่ดูและได้ยินมา ก็คงถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย ยิ่งในยุคที่คนชอบสั่งซื้อของทางออนไลน์ เพราะสะดวกสบายส่งถึงบ้าน แถมยังมีโปรโมชั่นลดราคาที่น่าดึงดูดใจไม่เว้นแต่ละวัน
แต่รู้หรือไม่ว่า เหล่าบริษัทที่กำลังสู้รบกันในตลาดเวบไซต์ e-commerce ของไทย ที่มีการแข่งขันกันดุเดือดขนาดนี้ มีแต่คนบาดเจ็บสาหัส..
ลองมาดูกันว่า แต่ละเจ้าบาดเจ็บกันแค่ไหนบ้าง
เริ่มที่ Shopee น้องใหม่ที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ แรงจน Lazada ต้องปาดเหงื่อ เท่าที่ถามเด็กรุ่นใหม่ปรากฎว่าเขาชอบซื้อของใน Shopee มากกว่า Lazada กันแล้ว..
Shopee เปิดตัวไปเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเป็นบริษัทย่อยของหนึ่งในยูนิคอร์นสตาร์ทอัพ (มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ) ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอย่าง Sea Group หรือที่ในบ้านเรารู้จักกันในนาม Garena ที่เป็นเจ้าของเกม ROV ที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง
บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2558 ขาดทุน 211 ล้านบาท
ปี 2559 ขาดทุน 529 ล้านบาท
ปี 2558 ขาดทุน 211 ล้านบาท
ปี 2559 ขาดทุน 529 ล้านบาท
ต่อมาก็ 11street เวบไซต์ e-commerce ยอดนิยมจากเกาหลีใต้ ที่เคยจองพื้นที่บนสถานีรถไฟฟ้าแบบน่าจะเรียกได้ว่า แทบจะทุกที่ที่สามารถโฆษณาได้ เพิ่งจะเปิดตัวอย่างฮือฮาไปเมื่อต้นปีนี้ แต่ดูเหมือนรายนี้มาเร็ว เคลมเร็ว ช่วงนี้ก็ดูจะเริ่มเงียบหายไปแล้ว..
บริษัท อีเลฟเว่น สตรีท (ประเทศไทย) จำกัด
ปี 2559 ขาดทุน 185 ล้านบาท
ปี 2559 ขาดทุน 185 ล้านบาท
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ รุ่นพี่ที่อยู่ในไทยมานานกว่า 5 ปีแล้วอย่าง Lazada อีกหนึ่งยูนิคอร์นสตาร์ทอัพจากเยอรมัน ที่เพิ่งถูกซื้อไปเมื่อปีที่แล้วโดย Alibaba หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่รู้หรือไม่ว่าบริษัท Lazada ไม่เคยได้กำไร และ ถ้าการแข่งขันยังเป็นแบบนี้อยู่น่าจะไม่ได้กำไรไปอีกนาน
บริษัท ลาซาด้า จำกัด
ปี 2557 ขาดทุน 863 ล้านบาท
ปี 2558 ขาดทุน 1,959 ล้านบาท
ปี 2557 ขาดทุน 863 ล้านบาท
ปี 2558 ขาดทุน 1,959 ล้านบาท
ยังมีคู่แข่งที่จ่อคิวจะเข้ามาเผาเงินกันอีกไหม?
คำตอบคือ มีอีก และเป็นรายใหญ่เสียด้วย
หลายคนคงทราบกันว่า บริษัท COL ในเครือเซ็นทรัลขายคืนเวปไซต์ e-commerce ที่เป็น B2C (Business to Customer) ให้บริษัทแม่ไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อรองรับการก้าวเข้ามาของ partner ระดับโลกอย่าง JD.com ในเครือบริษัท Tencent ซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ Lazada ของ Alibaba มากที่สุด
ในโลกนี้ แจ๊คหม่าอยู่ที่ไหน โพนี่ หม่า ก็คงจะไปที่นั่น..
ถ้าใครได้ไปเดินออฟฟิศของเซ็นทรัลตอนนี้ ไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเจอพนักงานชาวจีนเดินกันเต็มออฟฟิศ เพราะเขาเตรียมการที่จะยึดตลาด e-commerce ไทยให้ได้
สรุปสงครามครั้งนี้ก็คงเป็นมหากาพย์ยาวนาน และ คงต้องเผาเงินกันเป็นหมื่นล้าน
เห็นแบบนี้แล้ว สำหรับวงการที่ในช่วงแรกจำเป็นต้องแข่งกัน “เผาเงิน” สร้างลูกค้าและการรับรู้แบบนี้ ถ้าบริษัทไม่ได้ใหญ่หรือมีเงินทุนสนับสนุนมากมาย ก็คงจะอยู่ได้ยาก
คงต้องรอดูต่อไปว่า ใครจะอยู่รอดไปถึงจุดที่ได้กำไรก่อนกัน
สิ่งที่จะโดนกระทบแน่ๆ ก็คงเป็นผู้ค้าปลีกรายเดิมที่มีเงินทุนไม่หนาพอ ในหมวดสินค้าที่ sensitive เรื่องราคา
ตัวอย่างเช่นโทรศัพท์มือถือ ร้านขายโทรศัพท์มือถือแบบดั้งเดิมก็คงยากที่จะทำให้ราคาเท่ากับร้านค้าออนไลน์ที่มีเงินทุนหนาคอย subsidize
ก็ไม่รู้ว่าใครจะชนะในสงครามนี้
แต่ในฐานะของ “ผู้บริโภค” แล้ว เราคงจะได้ประโยชน์มากที่สุด บนกองซากปรักหักพังของสงคราม..
----------------------
<ad> อยากมี “กิจการ” แต่เงินทุนไม่หนาพอ แค่มีบ้าน หรือ คอนโด ปลอดหนี้ มาแลกเป็นเงินทุนได้ ดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3 ปีแรก 5.55% สินเชื่อมอร์เกจพาวเวอร์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย http://bit.ly/2iold6Q
----------------------
----------------------
<ad> อยากมี “กิจการ” แต่เงินทุนไม่หนาพอ แค่มีบ้าน หรือ คอนโด ปลอดหนี้ มาแลกเป็นเงินทุนได้ ดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3 ปีแรก 5.55% สินเชื่อมอร์เกจพาวเวอร์ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย http://bit.ly/2iold6Q
----------------------