ใครเป็นเจ้าของ กาวตราช้าง

ใครเป็นเจ้าของ กาวตราช้าง

ใครเป็นเจ้าของ กาวตราช้าง / โดย ลงทุนแมน
กาวตราช้างติดมือแกะไม่ออก
ทุกคนคงเคยเจอปัญหานี้
ทุกคนเคยใช้กาวตราช้าง
แต่เคยสงสัยไหมว่าใครเป็นเจ้าของกาวตราช้าง
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มีนวัตกรรมทางเคมีอยู่ชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนต่างก็เคยใช้มาแล้วทั้งนั้น
นวัตกรรมตัวนี้ ก็คือ กาว
แล้วใครเป็นคนคิดกาวตราช้าง?
กาว ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษราวปี ค.ศ. 1750 โดยในครั้งนั้นได้ใช้ปลามาเป็นวัตถุดิบในการผลิตกาวขึ้นและต่อมาจึงได้มีการพัฒนาโดยการนำเอายางจาก ธรรมชาติ,กระดูกสัตว์, แป้ง, และโปรตีนจากนม มาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกาวชนิดต่างๆ
เวลาผ่านไป ด้วยวิวัฒนาการที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในปี ค.ศ. 1942 Dr. Harry Coover นักประดิษฐ์สหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนั้นได้ปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องทดลองของ Kodak Research Laboratories ได้ค้นพบสารเคมีที่มีชื่อว่า “ไซยาโนอะคริเลต” ที่มีคุณสมบัติเหนียวและติดแน่น
ด้วยความดีใจ Dr. Harry Coover จึงได้ทำการเสนอให้กับทางบริษัท Kodak (บริษัทผลิตฟิล์ม) แต่ทางบริษัทได้ปฏิเสธสารชนิดนี้ เนื่องมาจากสารชนิดนี้มีคุณสมบัติที่เหนียวและติดแน่นมากเกินไป
ต่อมาในปี ค.ศ.1951 Dr. Harry Coover ได้ร่วมมือกับ Dr. Fred Joyner นำเอาสารไซยาโนอะคริเลตกลับมาทำการวิจัยใหม่
โดยในตอนนั้น Dr. Harry Coover ได้ย้ายจากบริษัทโกดัก มาอยู่ที่ The Eastman Company (บริษัทด้านเคมี) ในรัฐเทนเนสซี่สหรัฐอเมริกา
จนกระทั่งความฝันของ Dr. Harry Coover ก็เป็นจริง เมื่อเขานำเอาสารอะคริเลตโพลิเมอร์ผลิตออกมาเป็นสินค้าในปี ค.ศ.1958 ในชื่อของ “The Eastman Compound #910” และเรียกกันจนติดปากว่า ซูปเปอร์กลู (Super Glue)
กาวตราช้างเป็นที่รู้จักในไทยได้อย่างไร?
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2526 มีบริษัทแห่งหนึ่ง ชื่อว่า บริษัท พี.เกรท มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้น โดยนายพร พัฒนวรวงศ์ และนายสมศักดิ์ ปัญญาลิมปนันท์ ทั้งสองเป็นหุ้นส่วนกัน เพื่อทำธุรกิจกาวในเมืองไทยโดยเฉพาะ
ช่วงแรกของการทำธุรกิจ ได้นำเครื่องบรรจุกาวอัตโนมัติจากอิตาลีสำหรับการบรรจุกาววิทยาศาสตร์ ซึ่งบริษัท พี.เกรท ได้นำ Knowhow ของ Dr. Harry Coover มาใช้ (ในช่วงนั้นประเทศฝั่งตะวันตกใช้กาวชนิดนี้กันอย่างแพร่หลายแล้ว)
สินค้าตัวแรกและก็เป็นตัวที่ขายดีมากๆ ของบริษัท คือ กาวตราช้าง เคนจิ หรือ ที่เราคนไทยเรียกกันสั้นๆ ว่า กาวตราช้าง
กาวตราช้าง ก็คือ กาวซูปเปอร์กลู (Super Glue) นั้นเอง
ตลอดหลายปีที่ผ่านมากาวตราช้างเป็นกาวยอดนิยมของคนไทยมาก จนกลายเป็นคำติดปาก ถึงขนาดเป็นคำแทนสินค้าเลยทีเดียว หมายความว่า ในบางครั้งที่เราจะซื้อกาวซูปเปอร์กลู(Super Glue) ตราช้าง เคนจิ แต่ร้านค้าเอายี่ห้ออื่นมาให้ หนักไปกว่านั้นคือสินค้าโดนเลียนแบบ บางยี่ห้อเอาแค่รูปช้างมาอยู่ในแพคเกจ แต่ไม่ใช่กาวตราช้าง เคนจิ
มาดูรายได้ของบริษัท พี.เกรท กันบ้าง
ปี 2557 รายได้ 159 ล้านบาท กำไร 12 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 153 ล้านบาท กำไร 9 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 158 ล้านบาท กำไร 11 ล้านบาท
บริษัท พี.เกรท ไม่ได้มีเพียงกาวตราช้าง เคนจิ อย่างเดียว ปัจจุบัน บริษัท พี.เกรท มีสินค้าหลากหลายมาก เช่น กาวตราช้าง คาโต้, กาวตราช้าง Daico, กาวร้อน ไดโก้ DAICO 105 , เทปกาว ตรา TOV, มีดโกนหนวด Glittor
มาจนถึงตอนนี้เราคงได้หายสงสัยกันแล้ว ว่ากาวตราช้างมาจากไหน และใครเป็นเจ้าของ
แต่ไม่รู้ใครเป็นเหมือนลงทุนแมนบ้าง ใช้กาวตราช้างทีไรไม่เคยหมดหลอด เพราะกว่าจะใช้อีกทีกาวที่ใช้เหลือก็แข็งไปก่อนแล้ว..
----------------------
<ad> กาวตราช้างติดแน่น แต่ดมกาวติดแน่ ซื้อหุ้นแบบไม่เมากาว ต้องมีเรดาร์นำทิศทาง APP StockRadars ทำเรื่องหุ้นให้เป็นเรื่องง่าย โหลดฟรีที่ www.stockradars.co/getradars
----------------------
Reference
-http://www.inventor.in.th/home/กาว-ชนิดต่างๆ/
-https://th.wikipedia.org/wiki/ไซยาโนอะคริเลต
-http://pgreat.com/profile/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon