วันที่ 9 มกราคม 2007 สตีฟ จอบส์ ได้เปิดตัว iphone ครั้งแรก ปัจจุบันบริษัท Apple มีมูลค่า 21.7 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และใหญ่กว่า GDP ไทยทั้งประเทศที่ 14 ล้านล้านบาท และตอนนี้บริษัท Apple ยังเป็นบริษัทที่มีเงินสดมากที่สุดในโลก

จากบริษัทที่มีเงินสดน้อยมาก Apple ใช้เวลาเพียง 10 ปีในการผลิตเงินสดเก็บไว้ในบริษัท 8.4 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าทุนสำรองเงินระหว่างประเทศของไทยที่ 6.1 ล้านล้านบาทที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ก่อตั้งประเทศ โดย Apple มีพนักงานประมาณ 1 แสนคน เทียบกับ ประชากรไทย ที่มี 67 ล้านคน

แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Apple ทำให้พฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไปนับตั้งแต่ iphone ได้เกิดขึ้น

Apple ยังทำให้หลายบริษัทเกิดขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่ เช่น Facebook ที่ได้ประโยชน์จากคนเล่นมือถือตลอดเวลา หรือแม้แต่ Google ที่เป็นเจ้าของระบบ Android คู่แข่ง Apple

ปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีคนเข้าอินเตอร์เน็ตผ่านมือถือมากกว่า PC และจะเป็นปีแรกที่คนใช้ระบบ Android เข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากกว่า ระบบ Windows ของ Microsoft เรื่องนี้ทำให้ผู้ผลิตมือถือให้ระบบ Android ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน

ลีแจยอง เจ้าของซัมซุงรุ่นที่ 3 กำลังต้องย้ายที่นอนจากบ้านหรู ไปอยู่ในคุก 6 ตารางเมตร ที่มีส้วมอยู่ข้างๆที่นอน เพราะคดีการให้สินบนประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แต่เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นซัมซุงกำลังทำจุดสูงสุดใหม่ เนื่องจากความต้องการ ชิพในมือถือของซัมซุงกำลังเพิ่มสูงอย่างมาก

ด้านบริษัทจีน ตอนนี้ Oppo กำลังเป็นแบรนด์มือถืออันดับ 1 ประเทศจีน และกำลังรุกตลาดประเทศไทยอย่างหนัก เราจะเห็นโฆษณาของแบรนด์นี้เป็นตัวแรกในทุกวันที่ละครทีวีพักโฆษณา รายการ The mask singer รายการยอดนิยม แบรนด์ Oppo ก็เข้าไปสนับสนุนหลักของรายการนี้ ดูจากงบการตลาดแล้ว Oppo น่าจะเข้ามาแทนที่ซัมซุงในตลาดระดับล่างในไม่ช้า

Smartphone ตอนนี้เป็นปัจจัยที่ 5 ของคน ถ้าคนลืมมือถือก่อนออกจากบ้าน ผมเชื่อว่าทุกคนต้องย้อนกลับไปที่บ้านอีกครั้ง เพราะตอนนี้ทุกคนขาดมือถือไม่ได้ ประชากรโลก 7,500 ล้านคน มีคนใช้มือถือ 5,000 ล้านคน และในอนาคตมือถือกำลังเชื่อมกับอุปกรณ์ภายในบ้านมากขึ้น

พฤติกรรมการดูทีวีในอนาคตจะเป็นการส่งเรื่องที่อยากดูจากมือถือขึ้นจอใหญ่ ต่างจากปัจจุบันที่ใช้รีโมทเปลี่ยนช่อง คนที่จะได้ประโยชน์คือ Youtube และ Facebook ตอนนี้ 2 บริษัทนี้กินส่วนแบ่งตลาดโฆษณาดิจิตอลมากถึงครึ่งหนึ่งของโลก

เราโชคดีที่อยู่ในยุคนี้ ไม่ต่างจากยุคที่พึ่งค้นพบการใช้กระแสไฟฟ้า โลกจะใช้ Smartphone ไปอีกนานและมากขึ้นเรื่อยๆเป็นเมกะเทรนด์หลักของโลกจนกว่าจะมีคนคิดค้น การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับสมองคนโดยตรง ได้สำเร็จ