โฮมโปร รายได้เท่าไร
โฮมโปร รายได้เท่าไร / โดย ลงทุนแมน
โฮมโปร ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2538 หรือเมื่อ 22 ปีที่แล้ว จากการร่วมทุนกันของ 2 ยักษ์ใหญ่วงการอสังหาริมทรัพย์อย่าง แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ ควอลิตี้เฮ้าส์ (Q House) โดยเปิดให้บริการที่สาขารังสิตเป็นที่แรก และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2544 มีชื่อย่อหุ้นว่า HMPRO
มีธุรกิจหลักคือ การค้าปลีกสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ไล่ตั้งแต่ วัสดุก่อสร้าง สีทาบ้าน เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า (Hard Line) ไปจนถึงพวกเครื่องนอน ผ้าม่าน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ (Soft Line)
ปี 2555 เปิดบริษัทใหม่ขึ้นอีก 1 บริษัทคือ เมกา โฮม เซ็นเตอร์ เพื่อเน้นธุรกิจค้าส่งและปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้านและวัสดุก่อสร้าง โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็น ผู้รับเหมาก่อสร้าง และ 1 ปีต่อมา ก็เปิดบริษัท ดีซี เซอร์วิส เซ็นเตอร์ ขึ้นเพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการระบบคลังสินค้าและการขนส่งของบริษัทในเครือ
ปี 2557 ได้ขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยไปเปิดสาขาโฮมโปรขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ภายใต้บริษัท Home Product Center (Malaysia)
สถิติที่น่าสนใจคือ
ปี 2538
โฮมโปรก่อตั้ง
ปี 2553
โฮมโปรใช้เวลาถึง 15 ปี ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 40 สาขา โดยอยู่ในกรุงเทพ 19 สาขา ต่างจังหวัดอีก 21 สาขา
ปี 2560
โฮมโปรใช้เวลาอีกเพียง 7 ปี ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 84 สาขา สาขาในมาเลเซียอีก 5 สาขา และที่เป็นเมกา โฮม อีก 12 สาขา
ปี 2538
โฮมโปรก่อตั้ง
ปี 2553
โฮมโปรใช้เวลาถึง 15 ปี ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 40 สาขา โดยอยู่ในกรุงเทพ 19 สาขา ต่างจังหวัดอีก 21 สาขา
ปี 2560
โฮมโปรใช้เวลาอีกเพียง 7 ปี ทำให้มีสาขารวมทั้งหมด 84 สาขา สาขาในมาเลเซียอีก 5 สาขา และที่เป็นเมกา โฮม อีก 12 สาขา
เรียกได้ว่าเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะบริษัทขยายสาขาเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยใช้ระยะเวลาเพียงครึ่งเดียวของที่ทำได้ในช่วง 15 ปีแรก
และทำให้โฮมโปรในปัจจุบัน มีจำนวนสาขามากที่สุดในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจ โฮมเซ็นเตอร์ ได้แก่ โฮมเวิร์ค (เครือเซ็นทรัล) มี 4 สาขา, ไทวัสดุ (เครือเซ็นทรัล) มี 42 สาขา, โกลบอลเฮ้าส์ มี 46 สาขา, และดูโฮม มี 8 สาขา
บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าตลาด 177,540 ล้านบาท
ปี 2557
รายได้ 51,209 ล้านบาท
กำไร 3,313 ล้านบาท
ปี 2557
รายได้ 51,209 ล้านบาท
กำไร 3,313 ล้านบาท
ปี 2558
รายได้ 56,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8%
กำไร 3,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6%
รายได้ 56,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8%
กำไร 3,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6%
ปี 2559
รายได้ 61,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7%
กำไร 4,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9%
รายได้ 61,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7%
กำไร 4,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.9%
ไตรมาสที่ 3 ปี 2560
งวด 9 เดือนปีนี้ เทียบกับงวด 9 เดือนปีที่แล้ว
รายได้ 47,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%
กำไร 3,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.8%
งวด 9 เดือนปีนี้ เทียบกับงวด 9 เดือนปีที่แล้ว
รายได้ 47,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%
กำไร 3,360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.8%
สรุปแล้วกำไรเพิ่มเร็วกว่ารายได้
ตอนนี้ทุกๆ ยอดขาย 100 บาท จะเป็นต้นทุนประมาณ 69 บาท ค่าใช้จ่ายต่างๆ อีก 24 บาท เหลือเป็นกำไรให้โฮมโปร 7 บาท
ส่วนรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG)
และยอดขายที่เพิ่มเข้ามาจากการเปิดสาขาใหม่
และยอดขายที่เพิ่มเข้ามาจากการเปิดสาขาใหม่
บวกกับการปรับเปลี่ยนส่วนผสมสินค้ามีไว้เพื่อขาย การวางแผนการจัดซื้อสินค้า และการเปิดสาขาเพิ่มในมาเลเซียเป็น 5 สาขาทำให้ได้รับประโผชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) จึงทำให้อัตราการทำกำไรของธุรกิจในมาเลเซียดีขึ้นจากเดิม
ดูจากข้อมูลต่างๆ สรุปแล้วโฮมโปร น่าจะโปรสมชื่อ.. แต่คงต้องมาดูราคาหุ้นกันอีกทีว่าตอนนี้แพงไปหรือยัง
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
----------------------
<ad> เป็นเจ้าของสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ รถยนต์เมอร์ซิเดส-เบนซ์คันงาม สภาพป้ายแดง ราคามือสอง ถูกกว่ารถใหม่ 10-70% จากศูนย์รวมเบนซ์มือสอง มาตรฐาน ISO 9001 Benz Motor Mall
----------------------
----------------------
<ad> เป็นเจ้าของสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ รถยนต์เมอร์ซิเดส-เบนซ์คันงาม สภาพป้ายแดง ราคามือสอง ถูกกว่ารถใหม่ 10-70% จากศูนย์รวมเบนซ์มือสอง มาตรฐาน ISO 9001 Benz Motor Mall
----------------------