<advertorial>

กรุงไทย-แอกซ่า / โดย เพจลงทุนแมน
เคยถามตัวเองมั้ย ว่าเรามีเงินพอที่จะเกษียณหรือยัง?
พอเกษียณจากการทำงาน ก็ไม่มีรายได้...
ต้องใช้เงินเก็บจากที่ทำงานมาทั้งชีวิต ซึ่งไม่ได้มีมาก และใช้หมดไปเรื่อยๆ
วันหนึ่งเมื่อเงินเก็บหมดลง ก็คงจะต้องขายรถขายบ้านกิน
ถ้ามีลูก ก็คงได้แต่รอหรือหวังว่า พอลูกเรียกจบ ทำงานมีรายได้ แล้วจะมาเลี้ยงดูเรา
แต่ถ้าไม่...
สุดท้ายก็อาจจะต้องไปอยู่บ้านสงเคราะห์คนชรา

นี่คือ “เรื่องจริง” ของคนหลายคน

แล้วเราควรมีเงินออม ณ ตอนเกษียณเท่าไร?

เราลองยกตัวอย่างด้วยตัวเลขง่ายๆ

สมมติว่า เราจะต้องการเงิน 7,000 บาทเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนตอนเกษียณ
หรือ 84,000 บาทต่อปี และ คิดว่าจะมีชีวิตหลังจากเกษียณไปอีกซัก 25 ปี
เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีเงินเก็บ ณ วันที่เราจะเกษียณ 2,100,000 บาท
นี่ยังไม่รวมเงินเฟ้อจนถึงตอนนั้น..

แล้วถ้าตอนนี้เรายังไม่ได้เกษียณ มีทางที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้มั้ย?
จะดีมั้ย ถ้าเราจะมีรายได้ในระหว่างที่เราเกษียณด้วย?

จริงๆ แล้วเดี๋ยวนี้มีประกันชีวิตแบบที่จะให้เราเสียสละรายได้นิดหน่อยในช่วงที่เรายังทำงานอยู่ แต่เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราจะได้ในอนาคตตอนเกษียณ ก็อาจจะถือว่าคุ้มค่า

โดยกรุงไทย-แอกซ่า ถือเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่น่าสนใจ มีแบบประกันประเภทบำนาญอย่าง iRetire ที่น่าจะตอบโจทย์ในข้างต้นได้อย่างลงตัว

iRetire จะมีให้เราเลือก 2 แบบ คือ iRetire 1 และ iRetire 5 โดยที่ความแตกต่างระหว่าง 2 กรมธรรม์นี้ ก็คือการจ่ายเบี้ยประกัน และจำนวนเงินบำนาญ

iRetire 1 คือเราจะชำระเบี้ยประกันให้กับบริษัทเพียงครั้งเดียว สำหรับคนที่มีอายุ 25-55 ปี
จะได้รับเงินบำนาญ 5% ต่อปี หรือ 0.42% ต่อเดือน ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ส่วน iRetire 5 จะต้องชำระเบี้ยประกัน 5 ปี สำหรับคนที่มีอายุ 25-50 ปี
จะได้รับเงินบำนาญ 20% ต่อปี หรือ 1.68% ต่อเดือน ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

และทั้ง 2 กรมธรรม์ จะเริ่มจ่ายเงินบำนาญให้เราตั้งแต่อายุ 60 ปี ไปจนถึง 85 ปี และคุ้มครองกรณีที่เสียชีวิตตั้งแต่ปีที่ทำ ไปจนถึงอายุ 74 ปี

แบบไหนดีกว่ากัน?

ก็คงต้องเลือกดูตามความเหมาะสม และความต้องการของแต่ละคนที่คงจะไม่เหมือนกัน

แต่ที่แน่ๆ สิ้นปี เบี้ยประกันที่จ่ายไปสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 200,000 บาท*..
*เงื่อนไขเป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด
https://goo.gl/Azg9kd
#KrungthaiAXA #อยากขอก็รีบขอ #ขอคืน