BREAKING : หุ้น Evergrande ถูกระงับซื้อขาย หลังมีข่าว ธุรกิจในเครือถูกเสนอเข้าซื้อกิจการ
BREAKING : หุ้น Evergrande ถูกระงับซื้อขาย หลังมีข่าว ธุรกิจในเครือถูกเสนอเข้าซื้อกิจการ
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้มีรายงานว่า “Hopson Development” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง ได้มีการยื่นข้อเสนอเข้าซื้อกิจการ Evergrande Property Services Group ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Evergrande บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนชื่อดัง ที่มีหนี้สิน 10 ล้านล้านบาท และมีความยากลำบากในการจ่ายคืนหนี้
โดยการเข้าซื้อกิจการ ถูกประเมินว่าจะมีมูลค่าราว 1.7 แสนล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 51% ของบริษัท
เรื่องดังกล่าวจึงทำให้ หุ้นของทั้ง 3 บริษัท (จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทั้งหมด) ได้ถูกระงับการซื้อขาย ได้แก่
- Hopson Development
- Evergrande
- Evergrande Property Services Group
- Hopson Development
- Evergrande
- Evergrande Property Services Group
แต่ก็ดูเหมือนว่านักลงทุนไม่ได้มองข่าวการเข้าซื้อกิจการในเครือ Evergrande เป็นเรื่องที่ดี เพราะวันนี้หลายธุรกิจในตลาดหุ้นฮ่องกง ยังคงถูกกระหน่ำขายจากความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ของ Evergrande
ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นฮ่องกง ปรับตัวลดลงอีกราว -2% ภายในวันเดียว
หรือถ้าเทียบกับจุดสูงสุดปีนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงมาแล้ว มากถึง -23%
หรือถ้าเทียบกับจุดสูงสุดปีนี้ ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลงมาแล้ว มากถึง -23%
ในขณะที่ หุ้นบริษัทรถยนต์ของ Evergrande ที่ยังคงเปิดให้ซื้อขาย ร่วงลงประมาณ 6% ในช่วงเปิดตลาด
ตั้งแต่มีการรายงานเรื่องวิกฤติสภาพคล่องของบริษัท Evergrande
บริษัทแห่งนี้ก็เปรียบได้กับสัญญาณเตือน ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ
เพราะด้วยปริมาณหนี้ 10 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นบริษัทที่มีหนี้ มากที่สุดในโลก
หากล้มละลายลงไป บริษัทแห่งนี้ก็มีแนวโน้มจะสร้างผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีน
และถ้าเศรษฐกิจจีนเป็นอะไรไป ก็อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกได้
บริษัทแห่งนี้ก็เปรียบได้กับสัญญาณเตือน ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ
เพราะด้วยปริมาณหนี้ 10 ล้านล้านบาท ซึ่งนับเป็นบริษัทที่มีหนี้ มากที่สุดในโลก
หากล้มละลายลงไป บริษัทแห่งนี้ก็มีแนวโน้มจะสร้างผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีน
และถ้าเศรษฐกิจจีนเป็นอะไรไป ก็อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลกได้
ในขณะเดียวกัน Evergrande ก็ยังคงพยายามหาเงินมาจ่ายหนี้ แข่งกับเวลา เพื่อประคองไม่ให้บริษัทล้มละลาย
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางบริษัทได้ขายหุ้นบางส่วนให้กับ Shengjing Bank ในราคาประมาณ 50,475 ล้านบาท หลังจากที่ไม่สามารถชำระหนี้สินคืน ให้กับซัปพลายเออร์ ผู้รับเหมาและเหล่านักลงทุน ได้ทันกำหนด
ทั้งนี้ ทางบริษัทก็ยังมีความพยายามที่จะรับประกันคุณภาพและการส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ของทางบริษัทที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยกล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นภาระและความรับผิดชอบของทางบริษัท ที่ต้องส่งมอบโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ให้เสร็จสิ้น
เป็นที่น่าติดตามกันต่อไปว่าวิกฤติสภาพคล่องของ Evergrande จะจบอย่างไร
และเรื่องนี้คงเป็น อุทาหรณ์สอนใจกับคนทำธุรกิจ
การก่อหนี้เกินตัว เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกอย่างมันก็จะดูสวยงามไปหมด จนกว่าวันที่มันจะเจ๊ง เหมือนอย่าง Evergrande นั่นเอง..
การก่อหนี้เกินตัว เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกอย่างมันก็จะดูสวยงามไปหมด จนกว่าวันที่มันจะเจ๊ง เหมือนอย่าง Evergrande นั่นเอง..