สบู่นกแก้ว คิดโดยฝรั่ง

สบู่นกแก้ว คิดโดยฝรั่ง

สบู่นกแก้ว คิดโดยฝรั่ง / โดย เพจลงทุนแมน
ใครจะไปรู้ว่าสบู่ชื่อไทยๆ แต่จริงๆแล้วฝรั่งเป็นคนคิด
รู้ไหมว่า เมื่อก่อนเราไม่ได้อาบน้ำในห้องน้ำ
และ สบู่นกแก้วก็เกิดขึ้นในยุคเริ่มต้นของห้องน้ำ
จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลา 70 ปีแล้ว
วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าเรื่องสบู่นกแก้วให้ฟัง
คนในสังคมไทยยุคนั้นบางครอบครัวยังอาบน้ำในแม่น้ำลำคลองกันอยู่เลย โดยใช้พืชพรรณสมุนไพรในการขัดตัวอาบน้ำ แต่ในบางครอบครัวที่พอมีเงิน มีบ้านและมีห้องน้ำดีๆแล้ว ก็เริ่มที่จะใช้สบู่กัน
แรกเริ่มเดิมทีสบู่ในเมืองไทยที่ใช้กันอยู่นั้น จะเป็นสบู่แบบกรด ที่ไม่ได้มีความหอมอะไร ซึ่งเป็นสบู่ที่ทำความสะอาดผิวได้ แต่ก็ทำลายผิวได้เช่นกัน
จริงๆ แล้วนั้นสบู่กรดเป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการอาบน้ำตอนนั้น ถึงแม้ไม่เหมาะแก่การทำความสะอาดผิวสักเท่าไรนัก แต่ก็ต้องใช้ เพราะไม่มีอะไรจะใช้ได้ดีกว่านี้
ในเวลานั้น...ประเทศไทยมีห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง คือ ห้างเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ แอนด์ โก ซึ่งห้างนี้ทำธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ วิธีการทำธุรกิจ คือ สั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในเมืองไทย ซึ่งได้รับความนิยมมาก โดยผู้คนในยุคนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี
วันหนึ่ง...มีชาวเยอรมัน ชื่อคุณไฮบริด ได้เข้ามาดูงานที่เมืองไทยและได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับผู้จัดการของห้างเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ แอนด์ โก มีชื่อว่า คุณวอเตอร์ แอล ไมเยอร์
ในวันนั้นเป็นการคุยในเชิงธุรกิจ คุยกันไปจนถึงว่า.. ในเมืองไทยยังไม่มีสบู่แบบหอมเลย การพูดคุยกันวันนั้น เป็นเหตุทำให้ปิ้งไอเดียและเห็นโอกาส ว่าต้องทำสบู่หอมในเมืองไทย
แนวคิดการทำ สบู่นกแก้ว ก็ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้น
ใครเป็นผู้ผลิตสบู่นกแก้ว?
สบู่นกแก้วผลิตโดย บริษัท รูเบียอุตสาหกรรม จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ. ศ. 2494 ก็มาจากแนวคิดชาวเยอรมันนั้นแหล่ะ
โดยในช่วงแรกที่จะผลิตสบู่นกแก้ว ยากลำบากมาก โดยเริ่มจากการไปสั่งหัวน้ำหอมจากประเทศฝรั่งเศสที่มีราคาค่อนข้างสูง แล้วตั้งโรงงานแห่งแรกเล็กๆ มีคนงานไม่ถึง 20 คนที่สุขุมวิท 42 ปัจจุบันเรียกว่าซอยรูเบีย ทำสบู่ ก็ทำด้วยมือ ยังไม่มีเครื่องจักร
มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่าเวลาโรงงานสบู่นกแก้วทำการผลิต จะส่งกลิ่นหอมไปทั่วละแวกนั้นจนคนมามุงดูกันใหญ่ ว่าโรงงานนี้ทำอะไรกันแน่ เป็นที่ติดอกติดใจของคนในชุมชนย่านนั้น
สบู่นกแก้วขายดีมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆที่เริ่มทำ และขายดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่งต้องขยายโรงงานมาที่สมุทรปราการเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต
จากวันแรกที่คนงานเพียงไม่ถึง 20 คน ในปัจจุบันมีคนงานมากกว่า 700 คนแล้ว
ต่อมาสบู่นกแก้วก็เริ่มมีโฆษณา ซึ่งโฆษณาตัวแรกคือทำให้ยอดขายพุ่งแบบถล่มถลาย กลายเป็นการสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ เพราะ กลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปใช้ นอกจากที่จะทำความสะอาดผิวแล้ว ยังนำไปล้างหน้าและเป็นยาสระผมด้วย ใช้กันทั่วทั้งร่างกายเลยทีเดียว
มาดูรายได้ในปัจจุบันของบริษัทรูเบียกัน ว่าจะมียอดขายและกำไรเท่าไร?
ปี 2555 ยอดขาย 1,908 ล้านบาท กำไร 114 ล้านบาท
ปี 2556 ยอดขาย 1,850 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
ปี 2557 ยอดขาย 2,012 ล้านบาท กำไร 178 ล้านบาท
ปี 2558 ยอดขาย 1,968 ล้านบาท กำไร 120 ล้านบาท
จุดที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ ทำไมยอดขายบริษัทที่ผลิตสบู่นกแก้วถึงได้มากมายเป็นพันล้าน?
ในปัจจุบันบริษัทรูเบีย อุตสาหกรรม เป็นบริษัทในเครือของบริษัท เบอร์รี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) แล้ว พูดง่ายๆ อยู่ภายใต้ร่มเงาของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี และปัจจุบันนำทัพโดย ผู้บริหารมากความสามารถอย่าง คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ดำรงตำแหน่ง CEO และเป็นลูกเขย
ซึ่งทำให้บริษัทรูเบียแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้น โดยตอนนี้มี Brand ดังๆมากมายอาทิ เช่น สบู่นกแก้ว (พฤษานกแก้ว), สบู่ Dettol, แป้ง Natriv, ยาสีฟัน Sparkle, ลูกอม Sugus เป็นต้น ทำให้บริษัทรูเบียมียอดขายที่เติบใหญ่มาก โดยทุก Brand ทำหน้าที่สร้างรายได้ให้บริษัทเป็นอย่างดี
ไม่น่าเชื่อว่าจากความคิดเล็กๆ คิดแค่เพียงในเมืองไทยไม่มีสบู่หอม ก็ทำให้เกิดธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ ถือว่าเป็นกรณีศึกษาที่ยอดเยี่ยม
ช่วงจังหวะเวลานั้นสำคัญมาก สำคัญพอๆกับการที่ลุกขึ้นมาเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง
แล้วตอนนี้เมืองไทยยังไม่มีสินค้าอะไรที่เมืองนอกมี ทำไมเราไม่ลองนำมาเสนอขายให้คนไทย เรื่องราวของเราอาจจะเป็นเหมือนสบู่นกแก้ว ก็เป็นได้..
----------------------
<ad> ถ้าเราอยากขายครีมให้ปัง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากไหน มาปรึกษาได้ที่ "Prema Care" โรงงานรับผลิต สร้างแบรนด์ ครีม อาหารเสริม เครื่องสำอางครบวงจร fb.com/PremaCare หรือ premacare.co.th
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon