เคาน์เตอร์เซอร์วิส กำไรดีแค่ไหน
เคาน์เตอร์เซอร์วิส กำไรดีแค่ไหน / โดย เพจลงทุนแมน
เวลาเราเดินเข้าไปใน 7-11 นอกเหนือจากซื้อของแล้ว
เชื่อว่าบางคนน่าจะเคยไปใช้บริการชำระค่าสินค้าและบริการ
ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือแม้แต่ซื้อตั๋วและประกันต่างๆ ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่คิดค่าธรรมเนียมเราเพียงไม่กี่สิบบาทนั้น มีรายได้เท่าไร
เวลาเราเดินเข้าไปใน 7-11 นอกเหนือจากซื้อของแล้ว
เชื่อว่าบางคนน่าจะเคยไปใช้บริการชำระค่าสินค้าและบริการ
ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ หรือแม้แต่ซื้อตั๋วและประกันต่างๆ ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า เคาน์เตอร์เซอร์วิสที่คิดค่าธรรมเนียมเราเพียงไม่กี่สิบบาทนั้น มีรายได้เท่าไร
วันนี้ลงทุนแมนจะพาไปทำความรู้จักธุรกิจนี้กัน
เคาน์เตอร์เซอร์วิสก่อตั้งเมื่อปี 2537 หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในช่วงแรกนั้นจะรับชำระค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งจำหน่ายบัตรผ่านเข้าชมการแสดงต่าง ๆ เป็นหลัก ต่อมาหลังจากได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการมากขึ้น ทำให้ในปี 2552 จึงได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนธุรกิจให้บริการ e-payment จากธนาคารแห่งประเทศไทย
โดยเคาน์เตอร์เซอร์วิสถือเป็นผู้ให้บริการ e-payment ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-bank) เป็นเจ้าแรก
ถ้าเทียบการให้บริการรับชำระเงิน ระหว่างผ่านสถาบันการเงิน (Bank) กับไม่ผ่านสถาบันการเงิน (Non-bank) นั้น ข้อมูลจากแบงค์ชาติพบว่า
ปี 2559 ปริมาณการรับชำระเงิน
ผ่าน Bank จำนวน 100 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2555 ที่ 80 ล้านรายการ
ผ่าน Non-Bank จำนวน 365 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2555 ที่ 235 ล้านรายการ
ผ่าน Bank จำนวน 100 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2555 ที่ 80 ล้านรายการ
ผ่าน Non-Bank จำนวน 365 ล้านรายการ เพิ่มขึ้น 55% จากปี 2555 ที่ 235 ล้านรายการ
ปี 2559 มูลค่าการรับชำระเงิน
ผ่าน Bank จำนวน 6.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2555 ที่ 5.7 ล้านล้านบาท
ผ่าน Non-Bank จำนวน 852,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2555 ที่ 606,140 ล้านบาท
ผ่าน Bank จำนวน 6.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2555 ที่ 5.7 ล้านล้านบาท
ผ่าน Non-Bank จำนวน 852,850 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากปี 2555 ที่ 606,140 ล้านบาท
ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าทั้งปริมาณและมูลค่าธุรกรรมที่ทำผ่าน Non-bank มีการเติบโตสูงกว่า Bank อย่างชัดเจน
เคาน์เตอร์เซอร์วิสมีจุดแข็งสำคัญอยู่ที่ มีจำนวนจุดให้บริการที่ครอบคลุม โดยปัจจุบันมีมากกว่า 1 หมื่นแห่ง รวมไปถึงระยะเวลาการเปิดให้บริการที่ยืดหยุ่นสูงถึง 24 ชั่วโมง 7 วัน
จากที่ช่วงแรก เคาน์เตอร์เซอร์วิสมีจำนวนเพียงไม่กี่ร้อยสาขา ทำให้มียอดรับชำระบริการเฉลี่ยเพียงเดือนละ 3,600 บิล/เดือน ขณะที่ปัจจุบัน มียอดรับชำระบริการเฉลี่ยมากกว่า 10 ล้านบิล/เดือน โดยเคาน์เตอร์เซอร์วิสคิดค่าบริการเฉลี่ยประมาณ 10-30 บาทต่อบิล
ปัจจุบัน เคาน์เตอร์เซอร์วิส ถือหุ้น โดย CPALL 100 %
รายได้และกำไรของ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด
ปี 2557 รายได้ 2,613 ล้านบาท กำไร 658 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 2,833 ล้านบาท กำไร 715 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 3,205 ล้านบาท กำไร 869 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 2,613 ล้านบาท กำไร 658 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 2,833 ล้านบาท กำไร 715 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 3,205 ล้านบาท กำไร 869 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า รายได้และกำไร เติบโตอย่างชัดเจน ถ้าบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็คงถือว่าเป็นหุ้นชั้นดีของประเทศไทยอีกหนึ่งบริษัท
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตสำหรับเคาน์เตอร์เซอร์วิส นอกเหนือจากคู่แข่ง Non-bank หลายแห่งที่เป็นรูปแบบเคาน์เตอร์หรือ ตู้เติมเงิน ที่อยู่ในตลาดแล้วนั้น ยังมีคู่แข่งที่เป็นลักษณะ Online ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น e-payment, Internet Banking, หรือ Mobile Banking ที่ค่อยๆ เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเคาน์เตอร์เซอร์วิสจะได้รับผลกระทบจากคู่แข่งหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เคาน์เตอร์เซอร์วิสจะยังคงเติบโตต่อไปเรื่อยๆได้อยู่..
----------------------
<ad> สินค้าอะไรไม่มีในเซเว่น? คำตอบคือ รถมือสอง ถ้าอยากหารถมือสองให้ไปที่ “Admire” โดย บางอ้อ รถยนต์มือสองคุณภาพเหนือมาตรฐาน ให้บริการมาแล้วกว่า 50 ปี หนึ่งเดียวในย่านจรัญสนิทวงศ์ ใส่ใจเลือกรถที่ดีที่สุด ในราคาที่คุณประทับใจ
.
สอบถาม รถที่คุณมองหาได้ที่ fb.com/AdmireByBangor
----------------------
----------------------
<ad> สินค้าอะไรไม่มีในเซเว่น? คำตอบคือ รถมือสอง ถ้าอยากหารถมือสองให้ไปที่ “Admire” โดย บางอ้อ รถยนต์มือสองคุณภาพเหนือมาตรฐาน ให้บริการมาแล้วกว่า 50 ปี หนึ่งเดียวในย่านจรัญสนิทวงศ์ ใส่ใจเลือกรถที่ดีที่สุด ในราคาที่คุณประทับใจ
.
สอบถาม รถที่คุณมองหาได้ที่ fb.com/AdmireByBangor
----------------------
