SMOOTH E รายได้เท่าไร
SMOOTH E รายได้เท่าไร / โดย เพจลงทุนแมน
“SMOOTH E โฟมไม่มีฟอง”
คำๆ นี้ หลายคนน่าจะคุ้นหู
SMOOTH E นั้นมีอายุกว่า 20 ปีแล้ว
แล้ว SMOOTH E มีที่มาที่ไปยังไง วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
“SMOOTH E โฟมไม่มีฟอง”
คำๆ นี้ หลายคนน่าจะคุ้นหู
SMOOTH E นั้นมีอายุกว่า 20 ปีแล้ว
แล้ว SMOOTH E มีที่มาที่ไปยังไง วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
SMOOTH E ก่อตั้งโดยคุณแสงสุข พิทยานุกุล เขาเล่าว่า ในช่วงแรกที่จบเภสัชมา ก็เดินสายขายยาให้หมอตามโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆ จากนั้นตัดสินใจไปเรียนต่อบริหารธุรกิจ กลับมาทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนได้สักพัก จึงลาออกมาเปิดร้านขายยาขนาดเล็กที่ศูนย์การค้าสยาม ซึ่งเขาบอกว่า เหนื่อยมากเพราะทำงานไม่มีวันหยุด มาตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนห้างปิด แต่ก็ถือว่ามีกำไรดีพอสมควร
แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง ศูนย์การค้ามาขอพื้นที่คืน ทำให้เขาเครียดมาก เพราะลูกก็ยังเล็ก ทั้งรถ ทั้งบ้าน ก็ยังผ่อน แต่ภรรยาของคุณแสงสุขกลับมองโลกในแง่ดี และบอกเขาว่า “ไม่ต้องเครียด เขาแค่อยากให้เราไปรวยที่อื่นมากกว่า”
จากนั้น ทำให้เขาตัดสินใจมาเป็นผู้ประกอบการเอง โดยทำสินค้าเวชภัณฑ์ออกมาขายหลายตัว แต่เวลาผ่านไปสินค้าแต่ละตัวไม่ค่อยประสบความสำเร็จ จนมาถึง SMOOTH E ซึ่งเขาบอกกับภรรยาว่า ถ้า SMOOTH E ไม่สำเร็จอีก จะเลิกทำแล้วไปสมัครงานบริษัทเหมือนเดิม
แต่เหมือนดวงชะตาจะไม่อยากให้เขากลับไปสมัครงานบริษัท
SMOOTH E เริ่มมีกำไร ทำให้เขามีกำลังใจสู้ต่อ หลังจากนั้น เขาจึงเพิ่มสินค้าของ SMOOTH E จากครีมลดริ้วรอยแผลเป็น ขยับมาเป็นโฟมไม่มีฟอง รวมไปถึง Product อื่นๆ อีกมากอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งเป็นช่วงที่หลายๆ ธุรกิจถดถอยแต่คุณแสงสุขกลับตัดสินใจทุ่มงบโฆษณาและการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์อย่างเต็มที่ เพราะต้นทุนเหล่านี้ถูกมาก ทำให้แบรนด์ของ SMOOTH E แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว นับแต่วันนั้น
รายได้และกำไรของ บริษัท สมูท อี จำกัด
ปี 2557 รายได้ 1,092 ล้านบาท กำไร 48 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,057 ล้านบาท กำไร 30 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 1,205 ล้านบาท กำไร 52 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 1,092 ล้านบาท กำไร 48 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,057 ล้านบาท กำไร 30 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 1,205 ล้านบาท กำไร 52 ล้านบาท
จาก SMOOTH E สู่ DENTISTE’
หลายๆ คนอาจจะนึกว่ายาสีฟัน DENTISTE' เป็นแบรนด์มาจากเมืองนอก แต่จริงๆ แล้วเป็นแบรนด์ของคนไทยและผู้ก่อตั้งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ คุณแสงสุข ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่ก่อตั้ง SMOOTH E นั่นเอง
ในช่วงปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงแรกที่ยาสีฟัน DENTISTE' เริ่มทำการตลาด คุณแสงสุขเชื่อว่าสินค้าตัวนี้ของเขาดี แต่จะมีวิธียังไง ในการยืนยันความเชื่อตรงนี้ ซึ่งเขามองว่า คนที่จะยืนยันสิ่งนี้ได้ดีที่สุดก็คือ ทันตแพทย์ นั่นเอง
เขาจึงเริ่มทำการวิจัย ซึ่งปกติเวลาทำวิจัยการใช้กลุ่มตัวอย่าง 1% ของ Population ทั้งหมดก็พอแล้ว แต่เขาทำวิจัยกับกลุ่มตัวอย่างคือ ทันตแพทย์กว่า 80% ของจำนวนทั้งหมด โดยผลตอบรับจากทันตแพยท์ส่วนใหญ่ถือว่าน่าพอใจ
และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อ DENTISTE' ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “ทันตแพทย์” นั่นเอง
ท่ามกลางตลาดยาสีฟันที่แข่งขันอย่างรุนแรง DENTISTE' พยายามเสนอความแตกต่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนใช้มาก่อนคือ ใช้จุดขายเรื่องการระงับกลิ่นปากเพื่อช่วยลดแบคทีเรียในระหว่างนอนหลับและลดกลิ่นปากในตอนเช้า ผ่านการสร้างตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ขึ้นมาและมุ่งเป้าไปยังคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน
ท่ามกลางตลาดยาสีฟันที่แข่งขันอย่างรุนแรง DENTISTE' พยายามเสนอความแตกต่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนใช้มาก่อนคือ ใช้จุดขายเรื่องการระงับกลิ่นปากเพื่อช่วยลดแบคทีเรียในระหว่างนอนหลับและลดกลิ่นปากในตอนเช้า ผ่านการสร้างตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche) ขึ้นมาและมุ่งเป้าไปยังคู่รักที่เพิ่งแต่งงานกัน
เขามองว่าข้อดีของ Niche Market คือ บริษัทใหญ่ๆ นั้นใหญ่เกินกว่าที่จะทำงานเล็ก ๆ และจะทิ้งตรงส่วนนี้ให้เราเข้าไปเก็บเกี่ยวได้อีกนาน แต่แม้จะอยู่ใน Niche Market เขาก็ชอบที่จะมีคู่แข่ง เพราะเขาเชื่อว่า โลกของธุรกิจก็เหมือน กับการวิ่งแข่ง ถ้าไม่มีคนมาวิ่งแข่งกับเรา เราก็จะไม่มีทางวิ่งได้เร็ว
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ DENTISTE' ส่งออกไปยัง 25 ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นที่ DENTISTE' ขายดีมาก
รายได้และกำไรของ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ของ DENTISTE'
ปี 2557 รายได้ 1,685 ล้านบาท กำไร 69 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,796 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 2,350 ล้านบาท กำไร 94 ล้านบาท
ปี 2557 รายได้ 1,685 ล้านบาท กำไร 69 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 1,796 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 2,350 ล้านบาท กำไร 94 ล้านบาท
แต่สิ่งที่คุณแสงสุข ให้ความสำคัญนอกเหนือจากการทำธุรกิจก็คือ การมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ ให้ประสบความสำเร็จ โดยการเปิด The Business Incubation School ให้แก่ผู้ทำธุรกิจได้มาเรียน โดยถ้ากำไรจากธุรกิจไม่ถึงเป้า ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเรียน
เขาเชื่อว่า การนำประสบการณ์ที่ทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ซึ่งใช้เวลาเป็นสิบๆ ปีมาบอกแก่คนรุ่นหลังจะทำให้คนเหล่านั้นใช้เวลาน้อยลงในการประสบความสำเร็จ
ซึ่งคุณแสงสุขเชื่อว่าการสร้างกุศลด้านการศึกษาก็เสมือนการเผยแพร่อริยทรัพย์ซึ่งถือเป็นทรัพย์ภายในที่จะติดตัวกับคนเรียน จะมีความจีรังยั่งยืนกว่าทรัพย์ภายนอก เช่น ทรัพย์สิน เงินทอง ลาภ ยศ นั่นเอง..
----------------------
<ad> ถ้าเราอยากขายครีมให้ปัง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากไหน มาปรึกษาได้ที่ "Prema Care" โรงงานรับผลิต สร้างแบรนด์ ครีม อาหารเสริม เครื่องสำอางครบวงจร fb.com/PremaCare หรือ premacare.co.th
----------------------
Source
-https://www.youtube.com/watch?v=DaMPmfdBBp0&t=819s
-http://www.ayothaya.ac.th/2014/th/images/forContent/certi/Resume-president.pdf
-http://www.sanook.com/men/13969/
-http://www.brandage.com/article/2053/
-http://www.smooth-e.com/
----------------------
<ad> ถ้าเราอยากขายครีมให้ปัง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากไหน มาปรึกษาได้ที่ "Prema Care" โรงงานรับผลิต สร้างแบรนด์ ครีม อาหารเสริม เครื่องสำอางครบวงจร fb.com/PremaCare หรือ premacare.co.th
----------------------
Source
-https://www.youtube.com/watch?v=DaMPmfdBBp0&t=819s
-http://www.ayothaya.ac.th/2014/th/images/forContent/certi/Resume-president.pdf
-http://www.sanook.com/men/13969/
-http://www.brandage.com/article/2053/
-http://www.smooth-e.com/