วิกฤติประชากรจีน ทำให้เกิด นโยบาย "คลายกำเนิด"
วิกฤติประชากรจีน ทำให้เกิด นโยบาย "คลายกำเนิด" /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ในโลกเรานั้น ประชากรทุก ๆ 100 คน จะเป็นชาวจีน 18 คน
จึงทำให้จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
จนทำให้ครั้งหนึ่งรัฐบาลจีนเคยอนุญาตให้ชาวจีนส่วนใหญ่ มีลูกได้เพียงคนเดียว
จึงทำให้จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก
จนทำให้ครั้งหนึ่งรัฐบาลจีนเคยอนุญาตให้ชาวจีนส่วนใหญ่ มีลูกได้เพียงคนเดียว
แต่แล้วในปี 2016 รัฐบาลจีนก็จำเป็นต้องใช้นโยบาย “คลายกำเนิด”
เพื่อรณรงค์ให้ชาวจีนกลับมามีลูกกันอีกครั้ง
เพราะประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรเกิดใหม่ที่ลดลง
เพื่อรณรงค์ให้ชาวจีนกลับมามีลูกกันอีกครั้ง
เพราะประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาประชากรเกิดใหม่ที่ลดลง
แล้วที่ผ่านมานโยบายนี้ได้ผลหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,440 ล้านคน สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งถ้าถามว่า อะไรคือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรจีนมีจำนวนสูงขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะหลายปัจจัย ด้วยเหตุผลที่ประเทศจีนมีดินแดนกว้างใหญ่ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงนโยบายในบางช่วงของประเทศ
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ปัจจุบัน จีนเป็นประเทศที่มีประชากรมากกว่า 1,440 ล้านคน สูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งถ้าถามว่า อะไรคือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้จำนวนประชากรจีนมีจำนวนสูงขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นเพราะหลายปัจจัย ด้วยเหตุผลที่ประเทศจีนมีดินแดนกว้างใหญ่ มีพื้นที่เพาะปลูกอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงนโยบายในบางช่วงของประเทศ
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1960s
ในสมัยนั้น เหมา เจ๋อตง อดีตประธานาธิบดี และผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน ได้สนับสนุนให้ชาวจีนมีลูกมาก ๆ เพราะเขาเชื่อว่า ประเทศไหนที่มีประชากรมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต
ในสมัยนั้น เหมา เจ๋อตง อดีตประธานาธิบดี และผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศจีน ได้สนับสนุนให้ชาวจีนมีลูกมาก ๆ เพราะเขาเชื่อว่า ประเทศไหนที่มีประชากรมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จำนวนประชากรของจีนจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 667 ล้านคน ในปี 1960
กลายเป็น 818 ล้านคน ในปี 1970 หรือเพิ่มขึ้น 151 ล้านคน ในระยะเวลาแค่ 10 ปี
กลายเป็น 818 ล้านคน ในปี 1970 หรือเพิ่มขึ้น 151 ล้านคน ในระยะเวลาแค่ 10 ปี
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประชากรจีน เริ่มนำมาซึ่งความกังวลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติประชากรล้น จนอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ต่อไปในวันข้างหน้า นั่นก็คือ การขาดแคลนและแย่งชิงทรัพยากร
ขณะเดียวกันหนังสือที่มีชื่อว่า “The Limits to Growth” ที่ออกมาในปี 1972 ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับการกล่าวถึงกันมากในสมัยนั้น ได้ตอกย้ำปัญหาเรื่องวิกฤติประชากรล้น
ใจความสำคัญในหนังสือนั้นสรุปได้ว่า “ด้วยทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่บนโลกจะไม่สามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรได้ จนอาจทำให้ประชากรโลกประสบกับภาวะความอดอยากอย่างน่ากลัว”..
และสำหรับชาวจีนนั้น บาดแผลและฝันร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศ อันเกิดจากภาวะอดอยากครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน หรือ “Great Chinese Famine” ในช่วงปี 1959-1961 ยังคงไม่จางหายไป เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ชาวจีนจำนวนมากต้องอดอยากถึงขนาดมีการประเมินกันว่า จำนวนชาวจีนที่ต้องอดตายอาจสูงถึง 55 ล้านคน
รัฐบาลจีนในขณะนั้นที่นำโดยเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงโด่งดังของประเทศ จำเป็นต้องออกนโยบายลูกคนเดียว (One-Child Policy) ที่เริ่มถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1978
แม้ว่านโยบายดังกล่าวมีการผ่อนปรนให้แก่ชาวจีนได้ในบางกรณี เช่น ถ้าพ่อเป็นคนพิการ หรือลูกคนแรกเป็นผู้หญิง ครอบครัวนั้นก็สามารถมีลูก 2 คนได้
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่มากเกินไป ยังถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญ จึงทำให้มีการบังคับใช้นโยบายนี้อย่างจริงจังและเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น
- มาตรการคุมกำเนิด ทั้งให้มีการทำแท้ง และการบังคับให้ทำหมัน
- พ่อและแม่คนไหนที่มีลูกมากกว่า 1 คน จะถูกไล่ออกจากงาน ตัดสวัสดิการต่าง ๆ ที่ควรได้
- ปรับเงินกับครอบครัวที่มีลูกมากกว่า 1 คน
- รวมไปถึงการให้เงินรางวัลแก่ครอบครัวที่มีลูกคนเดียว
- พ่อและแม่คนไหนที่มีลูกมากกว่า 1 คน จะถูกไล่ออกจากงาน ตัดสวัสดิการต่าง ๆ ที่ควรได้
- ปรับเงินกับครอบครัวที่มีลูกมากกว่า 1 คน
- รวมไปถึงการให้เงินรางวัลแก่ครอบครัวที่มีลูกคนเดียว
ผลของการดำเนินนโยบายดังกล่าว ทำให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนค่อย ๆ ลดลง
ปี 1980-2000 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 21.2 ล้านคน
ปี 2001-2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 16.0 ล้านคน
ปี 1980-2000 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 21.2 ล้านคน
ปี 2001-2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่เฉลี่ยปีละ 16.0 ล้านคน
ถึงแม้จะได้ผลเป็นอย่างดีในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เมื่อผ่านไป นโยบายนี้กลับเริ่มเป็นที่ถกเถียงกันมากขึ้น..
เนื่องจากสังคมจีนไม่เพียงแต่เริ่มมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุต่อประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่จำนวนแรงงานในวัยทำงานก็เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณ ทำให้สังคมจีนจะกลายเป็นสังคมที่แก่ก่อนรวย
ทั้งยังมีการประเมินกันว่า ภายในปี 2050 สัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 65 ปี จะเท่ากับ 39% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของจีน
ยังไม่รวมถึง ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ที่จะส่งผลเสียหายต่อเศรษฐกิจของจีนเอง และอาจกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญที่ไม่อาจทำให้จีนก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด
ในโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ในอนาคตอันใกล้
ในโลกแซงหน้าสหรัฐอเมริกา ในอนาคตอันใกล้
ในที่สุด ปี 2016 รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงได้ตัดสินใจยกเลิกนโยบายดังกล่าว โดยอนุญาตให้ชาวจีนสามารถมีลูกได้ 2 คน ด้วยความหวังที่จะให้จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามาดูจำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน ในช่วง 4 ปีย้อนหลัง จะพบว่า
ตัวเลขดังกล่าวยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การยกเลิกนโยบายนี้
ตัวเลขดังกล่าวยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การยกเลิกนโยบายนี้
ปี 2017 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 17.2 ล้านคน
ปี 2018 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 15.2 ล้านคน
ปี 2019 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 14.7 ล้านคน
ปี 2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 10.0 ล้านคน
ปี 2018 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 15.2 ล้านคน
ปี 2019 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 14.7 ล้านคน
ปี 2020 จำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีน 10.0 ล้านคน
ทำให้ล่าสุดเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2021 รัฐบาลจีนอนุญาตให้ชาวจีนมีลูกได้ 3 คน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้
การลดลงของจำนวนเด็กเกิดใหม่ทำให้ในวันนี้ จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่ประสบปัญหาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่รวดเร็ว
และรุนแรงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ถึงขนาดทำให้ทางการของจีนนั้นบอกว่า
“The biggest crisis the Chinese nation is facing” หรือวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดที่จีนกำลังเผชิญอยู่
และรุนแรงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ถึงขนาดทำให้ทางการของจีนนั้นบอกว่า
“The biggest crisis the Chinese nation is facing” หรือวิกฤติที่ใหญ่ที่สุดที่จีนกำลังเผชิญอยู่
และเรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวอาจไม่ใช่ทางออกที่ใช่สำหรับความท้าทายที่จีนกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
แล้วทำไมชาวจีนถึงมีลูกน้อยลง แม้นโยบายลูกคนเดียวจะถูกยกเลิกไปแล้ว ?
ที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากชาวจีนมองว่า ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกนั้นสูงขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับอดีต หรือพูดอีกอย่างก็คือ การมีลูกจะทำให้พ่อแม่ยุคใหม่มีภาระทางการเงินมากขึ้น
อีกประเด็นก็คือ การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีนโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ ซึ่งเกิดขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากวิกฤติสินเชื่อซับไพรม์ตั้งแต่ปี 2008 เมื่อรัฐบาลจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลเพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ จนทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่นักเศรษฐศาสตร์ของจีนระบุว่า คือ สาเหตุสำคัญที่ทำให้ สังคมจีนต้องการที่จะมีลูกน้อยลง เพราะชาวจีนรุ่นใหม่ ๆ มองว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่แพงจะเป็นอุปสรรคในการสร้างครอบครัว เมื่อตัวเองต้องมีลูก
ดังนั้น พวกเขาจึงนิยมเลือกที่จะเช่าอะพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมแล้วอยู่ตามลำพังดีกว่า
ดังนั้น พวกเขาจึงนิยมเลือกที่จะเช่าอะพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมแล้วอยู่ตามลำพังดีกว่า
ดูเหมือนว่านโยบาย “คลายกำเนิด” ของจีนที่ถูกนำมาใช้เพื่อมาช่วยเพิ่มจำนวนประชากร อันจะเป็นกำลังหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนให้สามารถเติบโตไปได้อย่างต่อเนื่อง ยังไม่ใช่คำตอบที่ใช่เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาจำนวนเด็กเกิดใหม่ของจีนที่ยังลดลง อย่างน้อยก็ในตอนนี้..
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า แนวทางในการแก้ปัญหานี้ของจีน ไม่ว่าจะเป็น นโยบายการเปิดรับแรงงานต่างชาติ การใช้เครื่องจักรเข้ามาทดแทนแรงงาน รวมไปถึงพึ่งพาปัญญาประดิษฐ์ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากขึ้น จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหน ?
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ สถาบันสังคมศาสตร์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
คาดว่า จำนวนประชากรของจีนจะมีจำนวนสูงสุดในปี 2029 ที่ 1,464 ล้านคน และจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น และเหลือเพียง 1,295 ล้านคน ในปี 2065
คาดว่า จำนวนประชากรของจีนจะมีจำนวนสูงสุดในปี 2029 ที่ 1,464 ล้านคน และจะลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น และเหลือเพียง 1,295 ล้านคน ในปี 2065
เท่ากับว่าจำนวนชาวจีนจะลดลงเกือบ 170 ล้านคนในระยะเวลา 36 ปี..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.worldometers.info/world-population/china-population/
-https://www.statista.com/statistics/250650/number-of-births-in-china/
-https://www.reuters.com/world/china/chinas-births-may-fall-below-10-million-annually-next-five-years-expert-quoted-2021-04-19/
-https://en.wikipedia.org/wiki/One-child_policy
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Limits_to_Growth
-https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Chinese_Famine
-https://en.wikipedia.org/wiki/Aging_of_China
-https://www.the101.world/chinese-new-gen-no-child/?fbclid=IwAR3gPDegG9HuMMmGap2G2cyzFSmchQV9tMXUU7Rdo8HZEM1NJHQELZQG8lI
-http://www.realinstitutoelcano.org/wps/portal/rielcano_en/contenido?WCM_GLOBAL_CONTEXT=/elcano/elcano_in/zonas_in/cooperation+developpment/ari62-2009
-https://www.populationpyramid.net/china/2019/
-https://www.reuters.com/world/china/china-says-each-couple-can-have-three-children-change-policy-2021-05-31/
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.worldometers.info/world-population/china-population/
-https://www.statista.com/statistics/250650/number-of-births-in-china/
-https://www.reuters.com/world/china/chinas-births-may-fall-below-10-million-annually-next-five-years-expert-quoted-2021-04-19/
-https://en.wikipedia.org/wiki/One-child_policy
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Limits_to_Growth
-https://en.wikipedia.org/wiki/Great_Chinese_Famine
-https://en.wikipedia.org/wiki/Aging_of_China
-https://www.the101.world/chinese-new-gen-no-child/?fbclid=IwAR3gPDegG9HuMMmGap2G2cyzFSmchQV9tMXUU7Rdo8HZEM1NJHQELZQG8lI
-http://www.realinstitutoelcano.org/wps/portal/rielcano_en/contenido?WCM_GLOBAL_CONTEXT=/elcano/elcano_in/zonas_in/cooperation+developpment/ari62-2009
-https://www.populationpyramid.net/china/2019/
-https://www.reuters.com/world/china/china-says-each-couple-can-have-three-children-change-policy-2021-05-31/