ปราสาททองโอสถ
ปราสาททองโอสถ / โดย เพจลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงคำว่าบริษัทที่มีคำว่า “กรุงเทพ”
ทุกคนคงนึกถึงธุรกิจของตระกูลโสภณพนิช
ที่มีธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพประกันภัย และ กรุงเทพประกันชีวิต
ถ้าจะให้นึกชื่อที่เหลือ ก็คงหนีไม่พ้น โรงพยาบาลกรุงเทพ
ซึ่งเป็นของตระกูล ปราสาททองโอสถ
ตระกูลนี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรอีกบ้าง
ถ้าพูดถึงคำว่าบริษัทที่มีคำว่า “กรุงเทพ”
ทุกคนคงนึกถึงธุรกิจของตระกูลโสภณพนิช
ที่มีธนาคารกรุงเทพ กรุงเทพประกันภัย และ กรุงเทพประกันชีวิต
ถ้าจะให้นึกชื่อที่เหลือ ก็คงหนีไม่พ้น โรงพยาบาลกรุงเทพ
ซึ่งเป็นของตระกูล ปราสาททองโอสถ
ตระกูลนี้ยังเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรอีกบ้าง
Bangkok Airways
น้อยคนนักที่จะรู้ว่า สายการบินนี้มีผู้ก่อตั้งเป็นอดีตศัลยแพทย์ เจ้าของเดียวกันกับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเปาโล พญาไท สมิติเวช BNH
แต่วันนี้จะไม่ขอพูดถึงเรื่องเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ แต่จะพาไปรู้จักจุดกำเนิดของสายการบินที่ได้ชื่อว่า เป็นเบอร์ต้นๆของไทยกัน
นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หมอเสริฐ” เกิดในตระกูล “ช้างบุญชู” ซึ่งได้เปลี่ยนเป็นสกุล ปราสาททองโอสถในภายหลัง โดยครอบครัวของหมอเสริฐนั้นประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเวชกรรมโอสถ โดยมีโรงงานผลิต และจัดจำหน่าย “ยาหอมปราสาททอง” “ยาหอมอินแท่งทอง” ในบริเวณสี่แยกพลับพลาไชย
ตัวของหมอเสริฐเองนั้นจบการศึกษาด้านศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันผลิตแพทย์อันดับต้นๆของเมืองไทย
อย่างไรก็ตาม หมอเสริฐที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นคนกล้าตัดสินใจ กล้าได้กล้าเสียได้ได้ตัดสินใจหันมายังเส้นทางธุรกิจหลังจากทำงานเป็นแพทย์ได้ 5 ปี โดยตั้งบริษัทกรุงเทพสหกล จำกัดซึ่งเน้นรับงานก่อสร้างโดยเฉพาะสนามบินอู่ตะเภาในยุคที่อเมริกามาตั้งฐานทัพในเมืองไทย
จากลู่ทางในการทำธุรกิจที่เพิ่มขึ้น หมอเสริฐได้จัดตั้งธุรกิจเกี่ยวกับการบินขึ้นครั้งแรกภายใต้ชื่อ “สหกลแอร์”
สหกลแอร์นั้นยังไม้ได้ให้บริการในรูปแบบสายการบินเชิงพาณิชย์แบบในปัจจุบัน โดยเน้นให้บริการในรูปแบบเช่าเหมาลำกับหน่วยงานของทหารสหรัฐ และจ้างเหมาบินสำรวจอ่าวไทย จากบริษัทขุดเจาะน้ำมันต่างชาติเป็นหลัก
และแล้วจุดเปลี่ยนที่สำคัญก็มาถึง
ในปี 2529 หลังจากกระทรวงคมนาคมได้มีแนวคิดที่จะให้เอกชนที่ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาสามารถดำเนินการในลักษณะเที่ยวบินพาณิชย์ได้ บริษัทก็ได้รับอนุญาตจากภาครัฐและกลายเป็น “สายการบินเอกชนแห่งแรกของไทย”
บริษัทได้ทำการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด” และให้บริการในชื่อ “Bangkok Airways” โดยเริ่มให้บริการในเส้นทาง กรุงเทพ-โคราช กรุงเทพ-สุรินทร์ ในราคาเริ่มต้นที่เที่ยวบินละ 400 บาท (ในปี2529)
ต่อมาบริษัทได้เปิดเส้นทาง กรุงเทพ-สมุย ในปี 2532 ซึ่งคงไม่มีใครคาดถึงว่า เส้นทางการบินนี้จะกลายมาเป็นเส้นทางทำเงินมหาศาลให้กับ Bangkok Airways
การลงทุนสร้างและบริหารสนามบินเอง นับว่าเสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากการสร้างสนามบินนั้นต้องใช้เงินลงทุนอย่างมหาศาล และต้องไม่ลืมว่าเกาะสมุยในเวลานั้นยังไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวที่โด่งดังเช่นทุกวันนี้
หมอเสริฐเคยกล่าวถึงเหตุผลของการลงทุนนี้ไว้ว่า “การเปิดเส้นทางบินของผมนั้นผมมองไปที่เมืองท่องเที่ยวเป็นแนวหลัก มากกว่าที่จะมองไปยังเมืองเศรษฐกิจเพราะผมเชื่อว่าอนาคตเราจะต้องไปเที่ยวกันมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ผมจึงเปิดบินไปยังระนอง กระบี่ สมุย ที่จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในอนาคต"
อย่างที่ทุกคนรู้กัน การเสี่ยงของหมอเสริฐนั้นได้ผล..
ปี 2557 บริษัทมีรายได้ 22,561 ล้านบาท กำไร 351 ล้านบาท
ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 25,407 ล้านบาท กำไร 1,797 ล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 27,451 ล้านบาท กำไร 1,768 ล้านบาท
ปี 2558 บริษัทมีรายได้ 25,407 ล้านบาท กำไร 1,797 ล้านบาท
ปี 2559 บริษัทมีรายได้ 27,451 ล้านบาท กำไร 1,768 ล้านบาท
ปัจจุบันสายการบินได้ให้บริการทั้งเส้นทางทั้งในและต่างประเทศ โดยมีสนามบินสุวรรณภูมิเป็นฐานการบินหลัก และท่าอากาศยานสมุยเป็นฐานการบินรอง
ตอนนี้สายการบิน Bangkok Airways เป็นเจ้าของสิทธิ์ของสนามบินสมุยผ่าน “กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สนามบินสมุย” ซึ่งเป็นกองทุนที่เป็นผู้รับผลประโยชน์จากการใช้พื้นที่สนามบินและร้านค้าในพื้นที่โดย ณ ปี 2560 เป็นเจ้าของกองทุนในสัดส่วน 33%
และสิ่งที่เป็นมูลค่ามากที่สุดที่หลายคนมองข้ามไปก็คือ Bangkok Airways เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ หรือ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ (BDMS) 6.51 % และผ่านบริษัท บางกอกแอร์เวย์สโฮลดิ้ง จำกัด (บ.ร่วม) อีก 1.32% รวมเป็น 7.8%
เฉพาะมูลค่าหุ้น BDMS ที่ Bangkok Airways ถืออยู่ก็มีมากถึง 25,700 ล้านบาท
ปัจจุบัน Bangkok Airways มีมูลค่าบริษัทประมาณ 38,640 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่าจริงๆ แล้วมูลค่า BDMS ใน Bangkok Airways มากกว่าธุรกิจการบินของตัวบริษัทเองเสียอีก
ตระกูลปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Bangkok Airways ประมาณ 60% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 23,000 ล้านบาท
ตระกูลปราสาททองโอสถ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BDMS อีกประมาณ 23.25% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 77,000 ล้านบาท
รวมแล้วทรัพย์สินของตระกูลปราสาททองโอสถก็มีมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาทถ้วน
ย้อนกลับไปตอนคุณหมอเสริฐยังเป็นเด็ก
คุณหมอเสริฐเคยเล่าถึงที่มาของความฝันในการมีเครื่องบินเป็นของตัวเองว่าสมัยสงครามโลกมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดที่อยุธยาบ้านเกิด จึงตั้งใจไว้ว่า
“สักวันหนึ่งจะต้องเป็นเจ้าของเครื่องบินให้ได้”
----------------------
<ad> ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------
----------------------
<ad> ถ้าเรามีบ้าน หรือ คอนโด ที่ผ่อนกับธนาคารอยู่ แต่อยากลดดอกเบี้ย หรือ ยืดเวลาผ่อน มารีไฟแนนซ์ กับ REFINN ฟรีได้ที่ https://goo.gl/2KgGWa
----------------------