สรุปแบรนด์ Johnson & Johnson
สรุปแบรนด์ Johnson & Johnson /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Johnson & Johnson
เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
นอกจากสินค้าที่เราคุ้นเคย เช่น แป้งเด็ก ครีมอาบน้ำ และแชมพูแล้ว
Johnson & Johnson ก็ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อื่นอีก เช่น Neutrogena, Listerine, Tylenol, Acuvue
Johnson & Johnson ก็ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อื่นอีก เช่น Neutrogena, Listerine, Tylenol, Acuvue
แต่เราอาจจะยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว
สินค้าเหล่านี้กลับไม่ใช่รายได้หลักของบริษัท
เพราะ Johnson & Johnson เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของยา
สินค้าเหล่านี้กลับไม่ใช่รายได้หลักของบริษัท
เพราะ Johnson & Johnson เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในเรื่องของยา
Johnson & Johnson ถือเป็นบริษัทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แล้วกว่าจะเป็นวันนี้
Johnson & Johnson มีที่มาอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1867
ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทย ยุคนั้นก็คือสมัยรัชกาลที่ 4
Johnson & Johnson มีที่มาอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปปี ค.ศ. 1867
ซึ่งถ้าเทียบกับประเทศไทย ยุคนั้นก็คือสมัยรัชกาลที่ 4
สมัยนั้น วิวัฒนาการทางการแพทย์ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเท่าในยุคนี้
จนกระทั่ง Joseph Lister ริเริ่มแนวคิดการผ่าตัดด้วยวิธีการฆ่าเชื้อได้สำเร็จ
จนกระทั่ง Joseph Lister ริเริ่มแนวคิดการผ่าตัดด้วยวิธีการฆ่าเชื้อได้สำเร็จ
เขาค้นพบว่าหากอุปกรณ์ทางการแพทย์
ได้รับการทำความสะอาด และผ่านวิธีการฆ่าเชื้อ
อัตราการรักษาผู้ป่วยสำเร็จ จะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ได้รับการทำความสะอาด และผ่านวิธีการฆ่าเชื้อ
อัตราการรักษาผู้ป่วยสำเร็จ จะเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
เรื่องนี้จึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ
ทำให้ในปี ค.ศ. 1886 Robert Wood Johnson
ร่วมกับน้องชายอีก 2 คน ก่อตั้งบริษัท Johnson & Johnson ขึ้น
และเริ่มต้นทำธุรกิจอุปกรณ์ผ่าตัดที่ได้รับการฆ่าเชื้อ เช่น อุปกรณ์เย็บแผล ผ้าก๊อซ และสำลี
ทำให้ในปี ค.ศ. 1886 Robert Wood Johnson
ร่วมกับน้องชายอีก 2 คน ก่อตั้งบริษัท Johnson & Johnson ขึ้น
และเริ่มต้นทำธุรกิจอุปกรณ์ผ่าตัดที่ได้รับการฆ่าเชื้อ เช่น อุปกรณ์เย็บแผล ผ้าก๊อซ และสำลี
เมื่อปัญหาการผ่าตัดสมัยก่อนคือ ความสะอาด
Johnson & Johnson ที่เริ่มต้นธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหานี้
จึงกลายเป็นแบรนด์ด้านสุขภาพที่เป็นที่นิยม และสามารถเติบโตได้ดี
Johnson & Johnson ที่เริ่มต้นธุรกิจเพื่อแก้ไขปัญหานี้
จึงกลายเป็นแบรนด์ด้านสุขภาพที่เป็นที่นิยม และสามารถเติบโตได้ดี
ซึ่งนอกจากอุปกรณ์ฆ่าเชื้อแล้ว
Johnson & Johnson ก็ได้มุ่งเข้าสู่ธุรกิจยา
จากการซื้อมาขายไป จนกลายมาเป็นผู้ผลิต
และยังรวมไปถึงการคิดค้น ยากันยุง ยากันแมลง ที่เป็นพาหะของโรค
เพราะสมัยนั้น โลกของเรายังไม่รู้จักกับคำว่าภูมิต้านทาน และวัคซีน
Johnson & Johnson ก็ได้มุ่งเข้าสู่ธุรกิจยา
จากการซื้อมาขายไป จนกลายมาเป็นผู้ผลิต
และยังรวมไปถึงการคิดค้น ยากันยุง ยากันแมลง ที่เป็นพาหะของโรค
เพราะสมัยนั้น โลกของเรายังไม่รู้จักกับคำว่าภูมิต้านทาน และวัคซีน
สินค้าเหล่านี้ทำให้ Johnson & Johnson ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
จนบริษัทได้เริ่มต่อยอดทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
จนบริษัทได้เริ่มต่อยอดทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ
หนึ่งในนวัตกรรมที่ Johnson & Johnson คิดค้นขึ้นมา และกลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวันก็คือ การผลิตยาสีฟันบรรจุหลอดบีบ แทนที่บรรจุภัณฑ์สมัยก่อนที่เราจะใช้ยาสีฟันจากกระปุก
นอกจากการวิจัย พัฒนาด้วยตัวเองแล้ว
Johnson & Johnson ก็ได้เข้าซื้อกิจการผู้ผลิตยาหลายแห่ง
รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสุขภาพ เช่น
Johnson & Johnson ก็ได้เข้าซื้อกิจการผู้ผลิตยาหลายแห่ง
รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาสุขภาพ เช่น
Tylenol แบรนด์ยาแก้ปวด ลดไข้
Acuvue แบรนด์คอนแทคเลนส์
Neutrogena แบรนด์สกินแคร์
รวมไปถึง Listerine แบรนด์รักษาความสะอาดในช่องปาก
Acuvue แบรนด์คอนแทคเลนส์
Neutrogena แบรนด์สกินแคร์
รวมไปถึง Listerine แบรนด์รักษาความสะอาดในช่องปาก
โดยบริษัท Johnson & Johnson ได้จัดประเภทของรายได้แบ่งออกเป็น
ยาที่ต้องการใบรับรองแพทย์ 51% เช่น Darzalex และ Symtuza
อุปกรณ์ทางการแพทย์ 32% เช่น Acuvue และ DePuy Synthes
สินค้าอุปโภคบริโภค 17% เช่น Tylenol, Neutrogena และ Listerine
อุปกรณ์ทางการแพทย์ 32% เช่น Acuvue และ DePuy Synthes
สินค้าอุปโภคบริโภค 17% เช่น Tylenol, Neutrogena และ Listerine
สะท้อนให้เห็นว่าที่เรารู้จัก Johnson & Johnson ในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตแป้งเด็ก ครีมอาบน้ำ แชมพู เป็นเพียงสัดส่วนรายได้ที่เล็กที่สุด เพราะที่จริงแล้ว Johnson & Johnson มีรายได้จากธุรกิจยามากที่สุด
ทีนี้เรามาดูสัดส่วนรายได้ตามแต่ละภูมิภาค จะแบ่งออกเป็น
สหรัฐอเมริกา 51%
ยุโรป 23%
เอเชีย แปซิฟิก แอฟริกา 19%
อื่นๆ อีก 7%
ยุโรป 23%
เอเชีย แปซิฟิก แอฟริกา 19%
อื่นๆ อีก 7%
Johnson & Johnson มีพนักงานในบริษัท 132,200 คน
มีฐานการผลิตอยู่ใน 60 ประเทศ และขายสินค้าให้กับคนใน 175 ประเทศทั่วโลก
มีฐานการผลิตอยู่ใน 60 ประเทศ และขายสินค้าให้กับคนใน 175 ประเทศทั่วโลก
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ก็น่าจะทำให้เราสรุปได้ว่า Johnson & Johnson เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง เพราะผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อผู้บริโภค มีแบรนด์ที่จดจำได้ และมีการกระจายธุรกิจไปทั่วโลก ซึ่งก็น่าจะทำให้เราได้พบเห็นสินค้าของ Johnson & Johnson ในชีวิตประจำวัน ไปอีกยาวนาน..
----------------------
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://ourstory.jnj.com/timeline
-JNJ Investor Relations
-https://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do
----------------------
อัปเดตสถานการณ์และภาวะเศรษฐกิจกับ Blockdit มีพอดแคสต์ให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://ourstory.jnj.com/timeline
-JNJ Investor Relations
-https://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do