ระเบิดปรมาณู กองทุนดัชนี
ระเบิดปรมาณู กองทุนดัชนี /โดย ลงทุนแมน
หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ตลาดทุนหลายแห่งทั่วโลก
ก็ฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา
หลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ตลาดทุนหลายแห่งทั่วโลก
ก็ฟื้นตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่สิ่งที่ได้รับความนิยมควบคู่กับการฟื้นตัวของตลาดทุนก็คือ กองทุนดัชนี..
กองทุนดัชนี (Index Funds) เป็นกองทุนในลักษณะเชิงรับ (Passive Fund) ที่เมื่อผู้ซื้อกองทุน ผู้จัดการกองทุนก็จะเข้าไปซื้อหุ้นที่อยู่ในดัชนีนั้น
โดยปกติแล้ว กองทุนดัชนี จะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่ากองทุนประเภทอื่น เพราะผู้จัดการกองทุนไม่ต้องใช้เวลาในการคิดวิเคราะห์ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหาร
กองทุนดัชนีจึงกลายมาเป็นเครื่องมือการลงทุนยอดนิยม สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับผลตอบแทนระดับเดียวกันกับตลาด
ปี 2009 ดัชนีดาวโจนส์ 7,955 จุด
ปี 2020 ดัชนีดาวโจนส์ 28,508 จุด
ปี 2020 ดัชนีดาวโจนส์ 28,508 จุด
จะเห็นได้ว่าตลอด 11 ปี ไม่ว่าเราจะลงทุนกองทุนดัชนีประเทศสหรัฐอเมริกาตอนไหน
เราก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งนั้น
เราก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม กองทุนอิงดัชนีก็ได้สร้างความเสี่ยง
ประเภทหนึ่งที่เราอาจคาดไม่ถึงขึ้นมา
แล้วความเสี่ยงนั้นคืออะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความเสี่ยงของกองทุนดัชนีนั่นก็คือ “สภาพคล่อง”
ประเภทหนึ่งที่เราอาจคาดไม่ถึงขึ้นมา
แล้วความเสี่ยงนั้นคืออะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความเสี่ยงของกองทุนดัชนีนั่นก็คือ “สภาพคล่อง”
กองทุนดัชนี คือ กองทุนที่มัดรวมหลายๆธุรกิจรวมกันไว้
ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กองทุนดัชนีประเทศไทยส่วนใหญ่
ก็จะประกอบไปด้วยเงินลงทุนในหุ้น เช่น PTT, AOT และ CPALL
ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กองทุนดัชนีประเทศไทยส่วนใหญ่
ก็จะประกอบไปด้วยเงินลงทุนในหุ้น เช่น PTT, AOT และ CPALL
ในสภาวะปกติ เราจะไม่เห็นความสำคัญของเรื่องนี้มากเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้กลับแสดงออกมาชัดเจนที่สุด
ตอนตลาดหุ้นมีความเคลื่อนไหวรุนแรง
ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดนั่นก็คือ ตอนนี้..
ตอนตลาดหุ้นมีความเคลื่อนไหวรุนแรง
ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดนั่นก็คือ ตอนนี้..
สถานการณ์โรคระบาด
สงครามราคาน้ำมัน
สหรัฐฯ แบนไม่ให้เดินทางไปยุโรป
สงครามราคาน้ำมัน
สหรัฐฯ แบนไม่ให้เดินทางไปยุโรป
ทั้งหมดนี้ส่งผลให้ตลาดหุ้น ถูกแรงเทขายกระหน่ำทั่วโลก
นั่นก็รวมไปถึงผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนดัชนีที่ต่างพร้อมใจกันเทหน่วยลงทุนทิ้งพร้อมกัน
นั่นก็รวมไปถึงผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนดัชนีที่ต่างพร้อมใจกันเทหน่วยลงทุนทิ้งพร้อมกัน
และเมื่อคนที่ถือกองทุนดัชนี ส่วนใหญ่จะถือหุ้นคล้ายๆกัน
นั่นก็เหมือนว่ามีแต่คนอยากออก ทั้งที่ทางออกมีประตูเล็กๆอยู่บานเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การแย่งขายทุกราคา..
นั่นก็เหมือนว่ามีแต่คนอยากออก ทั้งที่ทางออกมีประตูเล็กๆอยู่บานเดียว
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ การแย่งขายทุกราคา..
ทีนี้ เราลองมาดูตัวอย่างเหตุการณ์ที่กองทุนดัชนีถูกเทขายที่ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ปี 2018 ดอนัลด์ ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับประเทศจีน
มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 7.6 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์
มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 7.6 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์
ปี 2020 โรคระบาด COVID-19 เริ่มระบาดหนักในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 6.3 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์
มูลค่าเทขายกองทุนดัชนี SPDR S&P 500 ETF คือ 6.3 แสนล้านบาทใน 1 สัปดาห์
ในขณะที่ หุ้นในดัชนี S&P กว่า 266 บริษัทมีมูลค่าซื้อขายต่ำกว่า 4.6 พันล้านบาท ต่อหุ้นในแต่ละวัน
หมายความว่า หากกองทุนเกิด Panic ขายสินทรัพย์พร้อมๆกัน
สภาพคล่องของหุ้นในแต่ละบริษัทจะไม่พอต่อการซื้อขาย..
สภาพคล่องของหุ้นในแต่ละบริษัทจะไม่พอต่อการซื้อขาย..
เรื่องนี้ Michael Burry ผู้ทำนายวิกฤตซับไพรม์ปี 2008
ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกองทุนดัชนีปลายปีที่ผ่านมา
ก็ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกองทุนดัชนีปลายปีที่ผ่านมา
เขาให้ความเห็นว่ากองทุนดัชนีมีลักษณะคล้ายหลักทรัพย์ CDOs (Collateralized Debt Obligations) ที่นำสินเชื่อที่อยู่อาศัยคุณภาพดีมามัดรวมกับสินเชื่อด้อยคุณภาพ
ซึ่งหลักทรัพย์ CDOs ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วทุกมุมโลก
Michael Burry เปรียบเทียบสภาพคล่องกับโรงหนังที่มีแต่คนแห่เข้าไปดูมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
แต่ทางออกก็ยังมีทางเดียวเหมือนเดิม..
แต่ทางออกก็ยังมีทางเดียวเหมือนเดิม..
จริงอยู่ว่ากองทุนดัชนีประกอบด้วยหุ้นหลายบริษัทที่มั่นคง
ต่างจากสินเชื่อด้อยคุณภาพเมื่อ 12 ปีก่อน
ซึ่งยากที่จะกลายไปเป็นฟองสบู่
ต่างจากสินเชื่อด้อยคุณภาพเมื่อ 12 ปีก่อน
ซึ่งยากที่จะกลายไปเป็นฟองสบู่
อย่างไรก็ตาม การถูกถล่มเทขายพร้อมๆกัน
มันก็เหมือนระเบิดปรมาณูถล่มเข้าใส่ตลาดหุ้นรุนแรง
รุนแรงในระดับที่ดัชนี ลบระดับ 10% วันเว้นวัน..
มันก็เหมือนระเบิดปรมาณูถล่มเข้าใส่ตลาดหุ้นรุนแรง
รุนแรงในระดับที่ดัชนี ลบระดับ 10% วันเว้นวัน..
ปิดท้ายด้วยคำตอบของ Michael Burry
กับคำถามที่ว่ากองทุนดัชนีจะกลายไปเป็นฟองสบู่เมื่อไหร่?
กับคำถามที่ว่ากองทุนดัชนีจะกลายไปเป็นฟองสบู่เมื่อไหร่?
“มันก็เหมือนวิกฤตฟองสบู่ทุกครั้ง
ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน
แต่ที่แน่ๆ ยิ่งปล่อยไปนานเท่าไร
หายนะของมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น..”
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Reference
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-04/michael-burry-explains-why-index-funds-are-like-subprime-cdos
ผมไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน
แต่ที่แน่ๆ ยิ่งปล่อยไปนานเท่าไร
หายนะของมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น..”
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Reference
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-04/michael-burry-explains-why-index-funds-are-like-subprime-cdos