
หุ้นเทคโนโลยี กำลังครอบครองดัชนี S&P500
หุ้นเทคโนโลยี กำลังครอบครองดัชนี S&P500 /โดย ลงทุนแมน
ดัชนี S&P500 ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จำนวน 500 บริษัท
เนื่องจากเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จำนวน 500 บริษัท
แต่ดัชนีนี้ยังเป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมาก
ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมาลงทุนในกองทุนดัชนี
ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมาลงทุนในกองทุนดัชนี
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าวันนี้ดัชนี S&P500 กำลังถูกถ่วงน้ำหนัก
โดยหุ้นของบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ดัชนี S&P500 ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 หรือเมื่อ 63 ปีก่อน
ปัจจุบัน มูลค่าของบริษัทใน S&P500 นั้นอยู่ที่ 918 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่กว่าตลาดหุ้นไทยประมาณ 57 เท่า
โดยหุ้นของบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ดัชนี S&P500 ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 หรือเมื่อ 63 ปีก่อน
ปัจจุบัน มูลค่าของบริษัทใน S&P500 นั้นอยู่ที่ 918 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่กว่าตลาดหุ้นไทยประมาณ 57 เท่า
ดัชนี S&P500 คำนวณมาจากหุ้นขนาดใหญ่จำนวน 500 ตัว
จากทั้งตลาดหุ้น NYSE และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็น 2 ตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา
จากทั้งตลาดหุ้น NYSE และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็น 2 ตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา
โดยหุ้นที่ถูกนำมาคำนวณในดัชนีต้องเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง และมีสภาพคล่องที่ดี
และด้วยความที่รวบรวมบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทำให้นักลงทุนมองดัชนี S&P500 ว่าสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้
หลายบริษัทที่พอเอ่ยชื่อ
จะเป็นบริษัทที่ทุกคนคุ้นเคย เช่น
จะเป็นบริษัทที่ทุกคนคุ้นเคย เช่น
Alphabet บริษัทแม่ของ Google
Amazon บริษัทเทคโนโลยีด้าน E-commerce รายใหญ่ของโลก
Apple บริษัทเทคโนโลยีจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ของโลก
Exxon Mobil บริษัทพลังงานรายใหญ่ของโลก
Microsoft ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก
หรือแม้แต่ Starbucks เชนร้านกาแฟรายใหญ่ของโลก
ครั้งหนึ่ง แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไร ให้ลงทุนในกองทุนดัชนีที่คิดค่าธรรมเนียมต่ำ เพราะในระยะยาวมันจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้คุณได้”
คำพูดนี้ก็คงจะไม่ผิดอะไร เพราะการซื้อดัชนี S&P500 ก็เหมือนเราได้ร่วมเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่กล่าวมาทั้งหมด ซึ่งนับวันก็มีแต่ขยายกิจการ ขยายรายได้ ขยายกำไร ให้เติบโตขึ้นทุกปี
นับตั้งแต่ปี 1970-2019
ผลตอบแทนรวมของดัชนี S&P500 เฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 10.6%
ผลตอบแทนรวมของดัชนี S&P500 เฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 10.6%
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท
มาวันนี้เราจะมีเงินทั้งหมด 139 ล้านบาท จากระยะเวลาการลงทุนประมาณ 50 ปี
มาวันนี้เราจะมีเงินทั้งหมด 139 ล้านบาท จากระยะเวลาการลงทุนประมาณ 50 ปี
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 นั้นถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด (Capitalization-Weighted Index)
อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ หุ้นที่มีขนาดใหญ่ หรือ Market Cap สูง จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสูงกว่าหุ้นที่มีขนาดเล็ก หรือมี Market Cap ต่ำกว่า
หมายความว่า ต่อให้มีหุ้นจำนวน 500 ตัวประกอบอยู่ในดัชนี แต่ถ้าหุ้นเพียงแค่ 5 ตัวมีน้ำหนักต่อดัชนีมาก
การเคลื่อนไหวของหุ้น 5 ตัวนั้นก็จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีมาก ไม่ว่าหุ้นจำนวนที่เหลือราคาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
และนั่นคือ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับดัชนี S&P500 ในเวลานี้
นั่นก็เพราะว่า ณ วันนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 5 บริษัทกำลังมีอิทธิพลสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี
Apple มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 44 ล้านล้านบาท
Microsoft มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 44 ล้านล้านบาท
Amazon มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 34 ล้านล้านบาท
Alphabet มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 33 ล้านล้านบาท
Facebook มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 19 ล้านล้านบาท
Microsoft มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 44 ล้านล้านบาท
Amazon มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 34 ล้านล้านบาท
Alphabet มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 33 ล้านล้านบาท
Facebook มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 19 ล้านล้านบาท
เพียงแค่มูลค่าหลักทรัพย์ของ 5 บริษัทเทคโนโลยีนี้ ก็มีสัดส่วนกว่า 19% ของมูลค่าทั้งหมดของบริษัทในดัชนี S&P500
ที่น่าสนใจก็คือ
ถ้านับเฉพาะมูลค่าหุ้น Apple และ Microsoft รวมกัน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 88 ล้านล้านบาทนั้น กลับมีมูลค่ามากกว่ามูลค่ารวมของหุ้นทุกตัวในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมพลังงาน สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ หรือเหมืองแร่เสียอีก
ถ้านับเฉพาะมูลค่าหุ้น Apple และ Microsoft รวมกัน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 88 ล้านล้านบาทนั้น กลับมีมูลค่ามากกว่ามูลค่ารวมของหุ้นทุกตัวในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมพลังงาน สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ หรือเหมืองแร่เสียอีก
ในปี 2019
ดัชนี S&P500 นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 28.8% เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013
ดัชนี S&P500 นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 28.8% เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013
แน่นอนว่าทำให้คนที่ลงทุนในดัชนีดังกล่าวได้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนหนึ่งก็มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองลึกลงไป
คนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
ณ ตอนนี้ อาจกำลังพบกับความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี
เพราะหุ้นเทคโนโลยีกำลังครองสัดส่วนหลักในดัชนี S&P500
คนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
ณ ตอนนี้ อาจกำลังพบกับความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี
เพราะหุ้นเทคโนโลยีกำลังครองสัดส่วนหลักในดัชนี S&P500
แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง ดัชนีนี้ก็คงไม่ผิดอะไร
ถ้าเราคิดว่า ชีวิตมนุษย์กำลังดำเนินเข้าสู่โลกใหม่
โลกที่ถูกครอบงำโดยเทคโนโลยี..
----------------------
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://edition.cnn.com/2020/02/10/investing/sp-500-tech-stocks/index.html
-https://ycharts.com/stocks
ถ้าเราคิดว่า ชีวิตมนุษย์กำลังดำเนินเข้าสู่โลกใหม่
โลกที่ถูกครอบงำโดยเทคโนโลยี..
----------------------
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://edition.cnn.com/2020/02/10/investing/sp-500-tech-stocks/index.html
-https://ycharts.com/stocks