ถ้าจะถามว่าคนไทยซื้อสินค้าอะไร ใช้บริการอะไร บ่อยที่สุด หลายคนคงนึกถึงธุรกิจธนาคารที่ต้องโอนเงินเกือบทุกวัน Taxi ที่ต้องเรียกทุกเช้า กาแฟที่กินทุกวัน หรือ ห้างสรรพสินค้าที่เราไปเดินทุกวันหยุด

แต่จริงๆ แล้วธุรกิจที่ตอนนี้คนไทยใช้บริการบ่อยที่สุดคือ LINE จากสถิติที่น่าสนใจบอกว่าตอนนี้มีคนไทยถึง 83% ใช้โปรแกรม LINE ซึ่งตัวนี้เลขนี้มีอัตราสูงว่า urbanization rate ของประเทศไทยที่ 50% เสียอีก เรียกได้ว่า LINE แทรกซึมไปอยู่ในชีวิตประจำวันของคนทุกเพศทุกวัยทุกอาชีพ ทั้งตัวเมือง และต่างจังหวัด

จำนวนคนไทยที่ใช้ LINE ถือว่าใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากญี่ปุ่น ทุกๆ วันคนไทยจะใช้เวลาเล่น LINE ประมาณ 78 นาที กินเวลาเป็น 1 ใน 3 ของเวลาที่ใช้มือถือในแต่ละวัน

ในแต่ละเดือน LINE มีผู้ใช้งาน 217 ล้านคนทั่วโลก โดยมีแค่ 4 ประเทศหลักที่ใช้มาก คือ ญี่ปุ่น ไทย ไต้หวัน และ อินโดนีเซีย ปัจจุบัน LINE มี Naver บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา และญี่ปุ่น มีมูลค่าบริษัทประมาณ 2 แสนล้านบาท ถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับพี่ใหญ่อย่างบริษัท Facebook ที่เป็นเจ้าของ Whatsapp และ Facebook Messenger หรือ บริษัท Tencent ที่เป็นเจ้าของ WeChat ในประเทศจีน

แล้วรายได้ LINE มาจากไหนบ้าง?

ถ้าถามเมื่อ 2 ปีที่แล้ว รายได้ LINE ส่วนใหญ่จะมาจากเกมส์ และ สติกเกอร์เป็นหลัก แต่ปัญหาของ LINE ตอนนี้คือรายได้จากเกมส์ และ สติกเกอร์ถดถอยลงจนต้องหารายได้อื่นมาเสริม อาจจะเป็นเพราะตลาดอิ่มตัวแล้ว และปีที่แล้วมีเกมส์โปเกมอนมาแย่งเวลาเล่นเกมส์ของ LINE ไป

รายได้อื่นที่มาเสริมคือ LINE NEWS หรือ LINE Today และหน้า Timeline ซึ่งยอดผู้ชมข่าวของ LINE นั้นเพิ่มขึ้นสูงอย่างน่าประทับใจจนตอนนี้มียอดคนที่ดูข่าวเป็น 50% ของผู้ใช้งาน LINE แล้ว พอมี traffic เข้าไปในหน้า Timeline ก็จะสามารถขายโฆษณาให้กับ sponsor ได้ ซึ่ง LINE เริ่มรับรู้รายได้โฆษณาใน Timeline ที่ประเทศญี่ปุ่นในกลางปีที่แล้ว และน่าจะเริ่มมีในไทยเร็วๆ นี้ ทำให้ในปัจจุบันรายได้โฆษณาของ LINE แซงหน้ารายได้จาก เกมส์ และ สติกเกอร์ ไปเรียบร้อยแล้ว

ปัญหาของ LINE อีกเรื่องคือจำนวนผู้ใช้งานอิ่มตัวแล้ว เพราะมีแค่ 4 ประเทศในทั่วโลกที่ใช้ ประเทศอื่นส่วนใหญ่ในโลกจะใช้ Whatsapp และ Facebook Messenger ในการสนทนาเป็นหลัก แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว LINE น่าจะอยู่คู่คนไทยไปอีกนาน เพราะแม้แต่คนขายของออนไลน์ถึงจะขายของใน Facebook หรือ Website ตัวเองแต่สุดท้ายก็จะมาคุยรายละเอียดและปิดการขายที่ LINE เสมอ

ต่อไปนี้จะบอกว่าคนไทยอ่านหนังสือวันละไม่กี่บรรทัดไม่ได้แล้ว เพราะคนไทยใช้เวลาไปกับ LINE ถึงชั่วโมงกว่าต่อวัน น่าจะอ่านได้หลายหน้าอยู่เหมือนกัน