สรุปประเด็น แผนฟื้นฟู ขสมก. ทั้งหมด
สรุปประเด็น แผนฟื้นฟู ขสมก. ทั้งหมด / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนรู้ว่า ขสมก.ขาดทุนมหาศาล
ปี 2561 ขาดทุน 6,175 ล้านบาท
มีหนี้ทั้งหมด 120,000 ล้านบาท
และไม่มีวี่แววที่จะได้กำไร
ปี 2561 ขาดทุน 6,175 ล้านบาท
มีหนี้ทั้งหมด 120,000 ล้านบาท
และไม่มีวี่แววที่จะได้กำไร
สาเหตุขาดทุนหลัก ก็คือ การบริหารต้นทุนเดินรถ และปริมาณหนี้ที่สะสมพอกพูนมาเรื่อยๆ..
ขสมก.ต้องจ่ายดอกเบี้ยของหนี้ที่ก่อไว้ สูงถึง 2,877 ล้านบาทในแต่ละปี คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการขาดทุน
และที่น่าสนใจก็คือ ต้นทุนการเดินรถของ ขสมก.อันดับ 1 คือ เงินเดือนและผลประโยชน์พนักงาน 4,402 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ ขสมก.ต้องการจะแก้ไข
ขสมก.จึงจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมีมติเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีชุดที่แล้ว
โดยมีประเด็นหลักคือ
โดยมีประเด็นหลักคือ
1. จัดหารถใหม่ 3,000 คัน พร้อมติดตั้งระบบ E-Ticket และ GPS ซึ่งตอนนี้ ขสมก.มีรถที่เก่าแก่อายุเกือบ 30 ปี มากถึง 1,520 คัน แต่การซื้อรถใหม่ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินอีกมากถึง 21,210 ล้านบาท และการที่จะซื้อได้ ขสมก.ก็ต้องกู้เงินมาเพิ่มอีก ทั้งที่มีหนี้อยู่แล้ว 120,000 ล้านบาท
2. การให้พนักงานเก็บค่าโดยสารทั้งหมดเกษียณอายุก่อนกำหนด (Early Retirement) ซึ่งจะทำให้จำนวนพนักงานลดลงครึ่งหนึ่งจาก 13,599 คน เป็น 7,959 คน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ระบบ E-Ticket ในข้อแรกต้องใช้งานได้จริงและทันเวลาก่อนที่ ขสมก.จะให้พนักงานเกษียณก่อนกำหนด
3. การขอให้รัฐบาลรับภาระหนี้ของ ขสมก.ทั้งหมด เนื่องจากหนี้สินที่มีอยู่ 120,000 ล้านบาท ทำให้เกิดภาระดอกเบี้ย 2,877 ล้านบาทต่อปี ซึ่ง ขสมก.ให้เหตุผลว่าสภาพคล่องของ ขสมก.จะไม่มีวันเป็นบวก ถ้ารัฐไม่ยกหนี้ก้อนนี้ให้
4. นำที่ดินของ ขสมก.มาพัฒนาเชิงธุรกิจ โดยพัฒนาพื้นที่อู่บางเขนให้เป็นโครงการ Mixed-Use ระหว่างศูนย์การค้า และโรงแรมระดับบน สำหรับพื้นที่อู่มีนบุรีจะจัดทำเป็นโครงการตลาด
ถ้าทำ 4 ข้อนี้ได้ ขสมก.มีความมั่นใจว่าจะไม่ขาดทุน และสิ่งที่ขสมก.จะทำเพื่อให้สอดคล้องกับการซื้อรถเข้ามาใหม่ก็คือ การเพิ่มราคาค่าโดยสาร..
ที่น่าสนใจคือ ค่าโดยสารไป-กลับ เฉลี่ยของคนที่ใช้รถเมล์ (ปรับอากาศ) จากปัจจุบัน 30 บาท จะเพิ่มเป็น 40 บาท ซึ่งหมายความว่าค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30%
ดูแล้วแผนฟื้นฟูอาจทำให้ ขสมก.รอด แต่ไม่สามารถทำให้ผู้โดยสารได้ประโยชน์
เรื่องนี้จึงทำให้ นายศักดิ์สยาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนปัจจุบัน ได้หยิบแผนฟื้นฟูขสมก.ขึ้นมาแก้ใหม่ เพราะเห็นว่าค่าโดยสารราคานี้ อย่างไรก็ไม่เหมาะสมกับประชาชนที่ใช้รถเมล์ในกรุงเทพมหานคร
แล้วจะทำอย่างไรให้ค่าโดยสารไม่แพง ในขณะที่ ขสมก.ก็อยู่รอดได้?
ทุกวันนี้ ขสมก.ขายตั๋วได้ประมาณ 1 ล้านใบ และรถร่วมอีก 1 ล้านใบ
ถ้าคิดว่าโดยเฉลี่ยผู้โดยสารนั่ง 2 เที่ยวต่อวัน แสดงว่าจะมีคนใช้บริการเฉพาะ ขสมก.มากถึง 5 แสนคนต่อวัน
แสดงให้เห็นว่าขสมก.มีผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการเป็นจำนวนมาก และถ้าค่าโดยสารเพิ่มมากถึง 30% ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์เรื่องค่าครองชีพของประชาชน
ถ้าคิดว่าโดยเฉลี่ยผู้โดยสารนั่ง 2 เที่ยวต่อวัน แสดงว่าจะมีคนใช้บริการเฉพาะ ขสมก.มากถึง 5 แสนคนต่อวัน
แสดงให้เห็นว่าขสมก.มีผู้โดยสารที่ต้องใช้บริการเป็นจำนวนมาก และถ้าค่าโดยสารเพิ่มมากถึง 30% ก็ไม่น่าจะตอบโจทย์เรื่องค่าครองชีพของประชาชน
โมเดลใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นอีกทางออกหนึ่งก็คือ
การให้ขสมก.ผันตัวมาเป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) โดยควบคุมอัตราค่าโดยสารแทน และจ้างให้เอกชนมาบริหารการเดินรถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นโมเดลที่ใช้กันในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อังกฤษ
การให้ขสมก.ผันตัวมาเป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) โดยควบคุมอัตราค่าโดยสารแทน และจ้างให้เอกชนมาบริหารการเดินรถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นโมเดลที่ใช้กันในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อังกฤษ
ที่สำคัญ การผันตัวมาเป็นผู้กำกับดูแลน่าจะทำให้การควบคุมการเดินรถของเอกชนได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต่างจากการใช้รถร่วมมาให้บริการแบบเดิม ซึ่งเห็นตัวอย่างได้จากกรณีรถเมล์สาย 8 ที่เป็นรถร่วมที่มีปัญหาอยู่บ่อยครั้ง เพราะขาดการกำกับดูแล
และถ้าเอกชนสามารถจัดการบริหารต้นทุนได้ดีกว่า ขสมก.
การใช้โมเดลจ้างบริหารการเดินรถ ขสมก.จะไม่ต้องซื้อรถใหม่ 3,000 คัน วงเงิน 21,210 ล้านบาท
เอกชนจะเป็นคนลงทุนค่าซื้อรถ จ่ายค่าซ่อมบำรุงเองทั้งหมด
การใช้โมเดลจ้างบริหารการเดินรถ ขสมก.จะไม่ต้องซื้อรถใหม่ 3,000 คัน วงเงิน 21,210 ล้านบาท
เอกชนจะเป็นคนลงทุนค่าซื้อรถ จ่ายค่าซ่อมบำรุงเองทั้งหมด
ส่วน ขสมก.จะมีค่าใช้จ่ายที่ควบคุมได้แน่นอน ส่วนรายได้ก็จะมาจากเงินที่ได้จากการประมูล เมื่อทุกอย่างคาดการณ์ได้ผลออกมา กำไรจะเป็นบวกได้
สิ่งที่น่าสนใจต่อไปคือ กระทรวงคมนาคมเสนอให้ลดค่าโดยสารสำหรับคนที่นั่งรถเมล์หลายเที่ยวให้เป็นแบบเหมาจ่าย 30 บาท ขึ้นรถเมล์กี่รอบกี่ครั้งก็ได้ใน 1 วัน
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร?
การขึ้นรถได้ไม่จำกัดจำนวนรอบต่อวัน จะสามารถแก้ปัญหาเส้นทางซ้ำซ้อนของ ขสมก.ได้
ซึ่งทุกคนต่างรู้ดีว่าปัญหาของ ขสมก.ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ การมีเส้นทางเดินรถที่ทับซ้อนกัน และทำให้ไม่คุ้มทุนที่จะเดินรถ แต่ปัญหาคือ เส้นทางเดินรถที่ไม่ทับซ้อน ผู้โดยสารจะต้องนั่งหลายต่อ ซึ่งทำให้เสียค่าโดยสารหลายครั้ง
ดังนั้น ค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย จะทำให้ผู้โดยสารจะเต็มใจที่จะต่อรถมากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าโดยสารที่จะต้องเสียหลายครั้งในการเดินทางไปถึงจุดหมาย
ในอดีตการเสียค่าโดยสารต่อเที่ยว ทำให้เส้นทางรถของ ขสมก.ถูกออกแบบมาให้ไปจุดหมายต่างๆ ที่ทับเส้นกัน
การออกแบบเส้นทางรถเมล์ที่มีประสิทธิภาพ ควรมีรถเมล์แค่สายเดียววิ่งบนถนนเดียว หลังจากนั้นจึงไปต่อรถอีกสายเพื่อเข้าอีกบริเวณหนึ่ง และควรเป็นระบบฟีดเดอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งการออกแบบเส้นทางรถใหม่ที่ถูกต้องจะช่วยลดต้นทุนการเดินรถได้มาก
ข้อดีทางอ้อมอีกข้อก็คือ จะลดจำนวนรถเมล์บนท้องถนนลง
ขสมก.มีรถเมล์อยู่ 3,000 คัน
ถ้าสามารถลดรถเมล์ที่วิ่งทับซ้อนกันไปได้ 30% หรือประมาณ 1,000 คัน
จะเป็นการลดจำนวนรถเมล์บนท้องถนนได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
ถ้าสามารถลดรถเมล์ที่วิ่งทับซ้อนกันไปได้ 30% หรือประมาณ 1,000 คัน
จะเป็นการลดจำนวนรถเมล์บนท้องถนนได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
รถเมล์ 1 คัน ยาว 12 เมตร ถ้าให้รถเมล์ 1,000 คันมาวางต่อกัน จะมีความยาว 12 กิโลเมตร..
อย่างไรก็ตาม มีคนได้ประโยชน์ ก็มีคนที่เสียประโยชน์
ข่าวล่าสุด วันที่ 7 ต.ค. 62 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก.ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการปรับปรุงแผนฟื้นฟู ขสมก. ของกระทรวงคมนาคม
- คัดค้านการยกเลิกแผนจัดซื้อรถ 3,000 คัน
- คัดค้านการปรับลดพนักงาน
- คัดค้านระบบ E-Ticket เพราะบอกว่าองค์การยังไม่พร้อม
- คัดค้านการลดค่าโดยสาร เพราะถ้าลด รายได้ ขสมก.จะหายไป
- คัดค้านการยกเลิกแผนจัดซื้อรถ 3,000 คัน
- คัดค้านการปรับลดพนักงาน
- คัดค้านระบบ E-Ticket เพราะบอกว่าองค์การยังไม่พร้อม
- คัดค้านการลดค่าโดยสาร เพราะถ้าลด รายได้ ขสมก.จะหายไป
ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร และคำตอบที่ได้จะเป็นโมเดลไหน
ขสมก.ควรจ่ายเงินอีก 2 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อรถเอง 3,000 คัน หรือควรเปิดประมูลว่าจ้างให้เอกชนมาลงทุนซื้อรถบริหารเอง แล้ว ขสมก.ผันตัวมาเป็นผู้กำกับดูแล
ขสมก.ควรจ่ายเงินอีก 2 หมื่นล้านบาทเพื่อซื้อรถเอง 3,000 คัน หรือควรเปิดประมูลว่าจ้างให้เอกชนมาลงทุนซื้อรถบริหารเอง แล้ว ขสมก.ผันตัวมาเป็นผู้กำกับดูแล
ถ้าสุดท้ายเรื่องนี้เราแก้ไขได้จริง
ไม่แน่ว่าเราก็อาจจะเห็น คุณภาพรถเมล์บ้านเรา ไม่แพ้รถเมล์ในต่างประเทศ
ซึ่งเราทุกคนก็น่าจะอยากเห็นสักครั้งหนึ่ง ในชีวิตนี้..
----------------------
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
----------------------
References
-http://www.bmta.co.th/th/strategy
-https://www.thebangkokinsight.com/205716/
-https://mgronline.com/business/detail/9620000093021
-https://mgronline.com/business/detail/9620000086820
-https://www.posttoday.com/economy/news/602855
ไม่แน่ว่าเราก็อาจจะเห็น คุณภาพรถเมล์บ้านเรา ไม่แพ้รถเมล์ในต่างประเทศ
ซึ่งเราทุกคนก็น่าจะอยากเห็นสักครั้งหนึ่ง ในชีวิตนี้..
----------------------
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
----------------------
References
-http://www.bmta.co.th/th/strategy
-https://www.thebangkokinsight.com/205716/
-https://mgronline.com/business/detail/9620000093021
-https://mgronline.com/business/detail/9620000086820
-https://www.posttoday.com/economy/news/602855