ดัชนีความ BULLSHIT ของบริษัทสตาร์ตอัป / โดย ลงทุนแมน

“ยิ่งเป้าหมายของบริษัทมีความเพ้อเจ้อ (BULLSHIT) มากเท่าไร..
ผลตอบแทนของบริษัทหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ ก็จะแย่ตามไปด้วย”

เรื่องนี้เป็นบทสรุปจากการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง
เป้าหมายของบริษัทสตาร์ตอัป และ ผลตอบแทนของบริษัทแก่นักลงทุน

ความสัมพันธ์ดังกล่าวเรียกว่า Yogababble Index
จัดทำขึ้นโดยคุณ Scott Galloway ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

บริษัทสตาร์ตอัป ที่เราคุ้นเคย เช่น Tesla, Google, Facebook, Spotify, Dropbox, Uber, Peloton และอีกหลายบริษัทถูกนำมาวัดระดับ BULLSHIT

แล้วผลลัพธ์ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะมาสรุปให้ฟัง

ก่อนอื่นเรามาเข้าใจคอนเซ็ปต์ของศาสตราจารย์ Scott Galloway

ศาสตราจารย์ Scott Galloway ให้ความเห็นว่า..
เรากำลังมีมุมมองกับบริษัทสตาร์ตอัป ที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน

เสน่ห์ ความน่าเชื่อถือ และวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งบริษัท กำลังจะกลายมาเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าตัวธุรกิจหลักของบริษัท

ยกตัวอย่างเช่น กรณีล่าสุดจากแพลตฟอร์ม WeWork ที่ได้รับการระดมทุนมหาศาล จนมีมูลค่าประเมินสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าทุกบริษัทในประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทได้ยื่นเอกสารเพื่อระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เราจึงได้รับรู้ว่าจริงๆ แล้ว โมเดลธุรกิจ WeWork แทบจะไม่มีโอกาสทำกำไร..

เรามาดูผลประกอบการ The We Company
ปี 2016 รายได้ 13,455 ล้านบาท ขาดทุน 13,149 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 27,216 ล้านบาท ขาดทุน 28,439 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 55,656 ล้านบาท ขาดทุน 59,019 ล้านบาท

แสดงให้เห็นว่า ยิ่งบริษัทโตมากเท่าไร บริษัทก็ยิ่งขาดทุนเพิ่มแบบทวีคูณ และเงินที่ผลาญไปก็ไม่ใช่ของใครที่ไหน ทั้งหมดก็มาจากเงินระดมทุนจากนักลงทุนทั้งนั้น..

แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น ก็คือ “Mission” หรือ “พันธกิจ” ของบริษัทที่มาจาก Adam Neumann อดีตผู้ก่อตั้ง ที่เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักที่ศาสตราจารย์ Scott Galloway ให้ความสำคัญ

รู้ไหมว่า..
WeWork ได้ร่าง “พันธกิจ” บริษัทไว้ว่า “Our mission is to elevate the world's consciousness”
หรือ “ภารกิจของเราคือการยกระดับจิตสำนึกของโลก”

ถ้าคนฟังครั้งแรก ก็อาจจะนึกถึงสถานปฏิบัติธรรม หรือ โรงเรียนอะไรสักอย่าง
แต่จริงๆ แล้ว WeWork ทำธุรกิจเพียงแค่ให้เช่า Co-working Space..

ผลลัพธ์ในวันนี้ WeWork เจออุปสรรคมากมายจนบริษัทต้องเลื่อนการ IPO ออกไป และมูลค่าการประเมินหายไปแล้วกว่า 70%..

จะเห็นได้ว่าพันธกิจของ WeWork น่าจะมีระดับความ BULLSHIT ที่สูงมาก ก็ทำให้ผลตอบแทนติดลบมาก

แล้วบริษัทสตาร์ตอัปอะไรอีกที่มีพันธกิจที่ BULLSHIT แบบนี้ เรามาดูตัวอย่างของ ศาสตราจารย์ Scott Galloway กัน

ระดับความ BULLSHIT มี 10 ระดับ
1 คือ BULLSHIT น้อยที่สุด
10 คือ BULLSHIT มากที่สุด

มาเริ่มกันที่บริษัท Spotify

พันธกิจบริษัท: “to unlock the potential of human creativity by giving a million creative artists the opportunity to live off their art and billions of fans the opportunity to enjoy and be inspired by these creators.”

หรือ “เพื่อปลดล็อกศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ศิลปินนับพันล้านคนจะสามารถสร้างรายได้จากผลงานของตน และแฟนเพลงนับพันล้านคนจะได้รับแรงบันดาลใจ”.. อ่านดูแล้วก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง แต่ก็อาจจะเวิ่นเว้อไปหน่อย เพราะบริษัทเป็นแค่แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง
ระดับความ BULLSHIT: 5/10
ผลตอบแทนนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: -12%

บริษัท Uber
พันธกิจบริษัท: “Transportation as reliable as running water, everywhere for everyone”
หรือ “การขนส่งที่เชื่อถือได้เหมือนน้ำไหลในทุกๆ ที่ สำหรับทุกคน”
ระดับความ BULLSHIT: 8/10
ผลตอบแทนนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: -34%

บริษัท Peloton
พันธกิจบริษัท: “On the most basic level, Peloton sells happiness.”
หรือ “บริษัทเราขายความสุข”.. แต่จริงๆ แล้วบริษัทนี้ขายแค่เครื่องออกกำลังกาย
ระดับความ BULLSHIT: 9/10
ผลตอบแทนนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: -11%

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทที่ถูกนำมาจัดอันดับความ BULLSHIT เช่น

บริษัท Tesla
พันธกิจบริษัท: “To accelerate the world’s transition to sustainable energy.”
หรือ “เร่งให้โลกเข้าสู่พลังงานที่ยั่งยืน”.. ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม
ระดับความ BULLSHIT: 1/10
ผลตอบนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: 1,261%

บริษัท Google
พันธกิจบริษัท: “To organize the world's information and make it universally accessible and useful.”
หรือ “จัดระเบียบข้อมูลของโลกเพื่อทำให้ทุกคนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้”
ระดับความ BULLSHIT: 2/10
ผลตอบนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: 1,324%

บริษัท Facebook
พันธกิจบริษัท: “To give people the power to build community and bring the world closer together”
หรือ “สร้างชุมชนและทำให้โลกใกล้ชิดกัน”
ระดับความ BULLSHIT: 3/10
ผลตอบนับตั้งแต่วันที่เข้าตลาดหลักทรัพย์: 375%

จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ เราสามารถสรุปได้ว่า
ระดับความ BULLSHIT จะแปรผกผันกับผลตอบแทนของราคาหุ้นบริษัท..

ดังนั้นต่อไป ผู้ให้ทุนแก่บริษัทสตาร์ตอัปเหล่านี้ อาจจะเอาดัชนีความ BULLSHIT ของพันธกิจบริษัท มาประเมินด้วยก็เป็นได้

พึงระวังไว้ว่า ถ้าเรามีโอกาสตั้งบริษัทสตาร์ตอัป และอยากมีพันธกิจของบริษัท
อย่ามีพันธกิจที่เวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อ..
ไม่เช่นนั้น เราอาจมีผลตอบแทนที่ติดลบก็เป็นได้..
----------------------
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
----------------------
References
-https://www.profgalloway.com/yogababble
-https://www.businessinsider.com/with-wework-theranos-line-between-charm-and-fraud-doesnt-exist-2019-9?IR=T%3Futm_source%3Dfacebook&utm_medium=referral&utm_content=topbar&utm_term=mobile&referrer=facebook&fbclid=IwAR1vnLPVD2n0R4udQIa2wu-STbX6DB9Q0733rynwWyY_S2eKUMguvGEmKQY
-การคำนวณผลตอบแทนอ้างอิง ณ วันที่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในวันแรก ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2562