เมื่อพูดถึงสายการบิน Low Cost
ชื่อแรกของทุกคนคงเป็น ไทยแอร์เอเชีย
แต่ตอนนี้มีอีกสายการบินหนึ่งนี่กำลังเป็นน้องใหม่มาแรงมากๆ
นั่นก็คือ ไทยไลอ้อนแอร์

เรามาดูกันว่า น้องใหม่อย่างไทยไลอ้อนแอร์ จะมีโอกาสขึ้นไปเทียบรัศมีรุ่นใหญ่อย่างไทยแอร์เอเชียได้ไหม

ปีที่แล้ว ไทยไลอ้อนแอร์มีรายได้ 8,523 ล้านบาท ไทยแอร์เอเชียมีรายได้ 32,400 ล้านบาท

แต่จุดที่น่าสนใจคือ การเติบโตของรายได้ เพราะ ไทยไลอ้อนแอร์มีรายได้เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนถึง 84 % ส่วนแอร์เอเชียรายได้เติบโตเพียง 9.8%

ด้านส่วนแบ่งทางการตลาดเจ้าตลาดอย่างไทยแอร์เอเชียยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ถึง 29.5 % แต่ไทยไลอ้อนแอร์ก็เติบโตเร็วจนน่ากลัวเพราะล่าสุดครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้แล้วถึง 18.7% แซงหน้านกแอร์ไปแล้วแม้ว่าเพิ่งจะเข้าสู่ตลาดมาไม่กี่ปี

ด้านเส้นทางการบินนับว่าไทยแอร์เอเชียยังได้เปรียบอยู่ ณ ตอนนี้เพราะ มีเส้นทางการบินและขนาดฝูงบินที่มากกว่า

ไทยแอร์เอเชียมีเส้นทางการบิน 20 จังหวัดในไทย รวมถึงบินออกนอกอีก 12 ประเทศ ขนาดฝูงบินปัจจุบัน 51 ลำ

ส่วนไทยไลอ้อนแอร์ มีเส้นทางการบินไปเพียง 13 จังหวัดในประเทศไทย และบินออกนอก 5 ประเทศ ขนาดฝูงบินปัจจุบัน 30 ลำ

ส่วนกลยุทธ์หลักที่ไทยไลอ้อนแอร์ใช้อยู่และได้ผลมากๆในตอนนี้คือ กลยุทธ์ด้านราคา พ่วงด้วยเสริมบริการที่ดึงดูดใจอย่างการโหลดกระเป๋าฟรี 15 กิโล ไม่บวกภาษีน้ำมัน แถมไม่เก็บค่าธรรมเนียมการจอง ส่วนไทยแอร์เอเชียถ้าต้องการบริการเสริมอื่นๆแบบนี้ต้องจ่ายเพิ่มเองเท่านั้น

ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียถือหุ้นใหญ่โดยบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัท AAV ถือหุ้นใหญ่โดย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของ KING Power โดยถือหุ้นทั้งหมด 14% แต่ถ้าหากนับรวมตระกูล ศรีวัฒนประภาทั้งหมดจะถือหุ้นใน AAV 39.82%

ไทยแอร์เอเชียบริหารโดย คุณธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งได้ขายหุ้นให้กลุ่ม King Power ไปเมื่อปีก่อนโดยขายไปทั้งสิ้น 1.89 พันล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.2 บาท ได้เงินเข้ากระเป๋าไปเกือบ 8 พันล้านบาท แต่คุณธรรศพลฐ์ยังนั่งบริหารให้ไทยแอร์เอเชียอยู่

ส่วนไทยไลอ้อนแอร์ เกิดจากการร่วมทุนของโลวคอสต์สัญชาติอินโดนีเซียชื่อ ไลอ้อนแอร์ กับกลุ่มนักธุรกิจชาวไทย ปัจจุบันยังไม่ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ มีนาย อัศวิน ยังกีรติวร ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ที่ประกาศจุดมุ่งหมายของไทยไลอ้อนแอร์ ว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นเจ้าตลาดโลว์คอสต์ในไทยให้ได้

ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าไทยไลอ้อนแอร์จะก้าวมาเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดสายการบินโลว์คอสต์ในประเทศไทยได้หรือไม่ แต่ดูเหมือนว่า นกแอร์จะไม่ใช่คู่แข่งในสายตาของไทยไลอ้อนแอร์อีกต่อไปแล้ว..