เป็นเรื่องอีกแล้ว! FACEBOOK ยอมรับ แอบฟังผู้ใช้งานคุยกัน

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา..
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Facebook
ว่าจ้างพนักงานชั่วคราวหลายร้อยรายเพื่อถอดข้อความเสียง
จากผู้ใช้งานบน Messenger App

เรื่องนี้กำลังกลายมาเป็นประเด็นใหญ่ในทวีปยุโรป
นำโดยหน่วยงาน Irish Data Protection Commission
ที่กำลังตรวจสอบ Facebook ว่ากำลังละเมิดความเป็นส่วนตัวของสหภาพยุโรป

หลังจากถูกตรวจสอบอย่างหนัก

ล่าสุด Facebook ได้ออกมายอมรับแล้วว่า..
ได้มีการนำเสียงของผู้ใช้งานไปใช้จริง และบอกว่าได้หยุดการกระทำดังกล่าวแล้ว
โดยเสียงนี้จะถูกนำไปให้บริษัทอื่นแปลเป็นข้อความตัวอักษรเสียด้วย

อ้าว แล้วที่ผ่านมา Facebook ปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้แอบฟังผู้ใช้งาน แปลว่าอะไร?

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับการบันทึกเสียงเฉพาะการสนทนาใน Messenger เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการบันทึกเสียงภายนอกระหว่างที่ดูหน้า News Feed ของ Facebook

ทั้งนี้บริษัทอ้างว่า การแปลข้อความเสียงก็เพราะจะนำไปตรวจสอบประสิทธิภาพของ AI ของบริษัทว่าสามารถแปลข้อความเหล่านั้นได้แม่นยำแค่ไหน

ซึ่งนอกจาก Facebook แล้ว บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Amazon และ Apple
ก็กำลังถูกตรวจสอบเรื่องการบันทึกข้อความเสียงของผู้ใช้งานไปใช้..

วิธีการของ Facebook ในการใช้เสียงสนทนาก็คือ จะนำเสียงของผู้ใช้งานที่คุยกัน ไปให้บริษัทอื่นช่วยพิมพ์เป็นตัวอักษรตามเสียงที่บันทึกไว้

ที่น่าสนใจก็คือ พนักงานในบริษัทเหล่านั้นก็รู้สึกว่างานของพวกเขานั้นผิดจรรยาบรรณ

TaskUs เป็นหนึ่งในบริษัทตรวจสอบบทสนทนา ที่อยู่ในแคลิฟอร์เนีย มีการระบุว่า Facebook เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทแห่งนี้

อย่างไรก็ตามพนักงานใน TaskUs ถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดถึงเรื่องนี้ และเรียกโครงการนี้เป็นรหัสลับว่า “Prism” (ปริซึม)

ภายหลังที่ถูกสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ TaskUs ได้ให้คำตอบว่า
“Facebook บอกให้ TaskUs หยุดการทำงานไปเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว”

ประเด็นที่น่าสนใจคือ Facebook เพิ่งจ่ายค่าปรับ 1.5 แสนล้านบาทในเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และปฏิเสธเรื่องการเก็บข้อความเสียงของผู้ใช้งานมาโดยตลอด..

แต่ภายหลัง Facebook ก็ได้ยอมรับว่า สามารถเข้าถึงเสียงสนทนาได้ หากผู้ใช้งานกดอนุญาตให้ Facebook เข้าถึง..

ก็น่าติดตามว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร Facebook จะโดนปรับอีกกี่แสนล้าน

ปิดท้ายด้วยคำพูดของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ที่กล่าวกับวุฒิสมาชิกสหรัฐ ในเดือนเมษายน 2018

“You’re talking about this conspiracy theory that gets passed around that we listen to what’s going on on your microphone and use that for ads,”

“We don’t do that.”

“คุณกำลังพูดถึงทฤษฎีสมคบคิดที่ บอกว่าเราแอบฟังผู้ใช้งานเพื่อการโฆษณา”

“เราไม่ได้ทำเช่นนั้น..”

ในบางครั้งทฤษฎีสมคบคิด มันก็อาจกลายเป็นเรื่องจริง..

Reference:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-08-13/facebook-paid-hundreds-of-contractors-to-transcribe-users-audio