Instagram จะเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram from Facebook

Instagram จะเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram from Facebook

Instagram จะเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram from Facebook / โดย ลงทุนแมน
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดีของวิชา Branding
แอปชื่อ Instagram ที่บางคนอาจไม่รู้ว่า Facebook เป็นเจ้าของ
มาวันนี้ทุกคนจะได้รู้
เพราะ แอปจะเปลี่ยนชื่อเป็น Instagram from Facebook ซะเลย
ไม่ใช่แค่ Instagram แอปแช็ตอย่าง WhatsApp ก็จะเติมคำว่า from Facebook เข้าไปด้วย
เรื่องนี้มีข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ของคนที่ใช้ Instagram และ WhatsApp
เพราะชื่อแอปจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ตัดสินใจ เพิ่ม คำว่า from Facebook ต่อท้ายเข้าไปที่ชื่อแอป
ดังนั้น ต่อไปนี้ ถ้าเราจะโหลดแอปจาก App Store หรือ Google Play เราจะเห็นชื่อแอปเป็น Instagram from Facebook
รวมไปถึงชื่อแอปเวลาอยู่บน Home Screen และ ตอนเปิดแอปก็จะมีคำว่า Instagram from Facebook อีกด้วย
เหตุผลที่ทำแบบนี้ Facebook กล่าวว่าต้องการที่จะทำให้ชัดว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook
ซึ่งสอดคล้องกับข่าวก่อนหน้านี้ว่า Facebook จะทำแอปแช็ต ที่เชื่อมกันระหว่าง Facebook Instagram และ Whatsapp
ถ้าวิเคราะห์ในเชิงการตลาด เรื่องนี้มีข้อดีอย่างไร?
ถ้าเป้าหมายของ Facebook คือต้องการให้ผู้ใช้ทุกแพลตฟอร์มที่ Facebook ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไร้รอยต่อ การทำอย่างนี้ก็ดูเหมือนจะมาถูกทาง
เพราะต่อไป ทุกแบรนด์ที่ Facebook เป็นเจ้าของจะถูกต่อท้ายด้วย Facebook ทำให้ผู้ใช้จดจำแบรนด์ได้ว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน
และมีแนวโน้มว่าจะดาวน์โหลดทุกแอป มาทดลองใช้งาน
คนที่ใช้แต่ Facebook ก็อาจลองใช้ Instagram ได้ง่ายขึ้น
คนที่เลิกใช้ Facebook ไปแล้ว ใช้แต่ Instagram ก็จะเห็นแบรนด์ Facebook บ่อยขึ้น จนกลับมาใช้
การทำอย่างนี้เรียกว่า Umbrella Brand แน่นอนว่าจะทำให้ผู้ใช้งานเห็นแบรนด์ Facebook ได้บ่อยกว่าเดิมหลายเท่า
แล้วข้อเสียคืออะไร?
จริงอยู่ว่าถ้าทุกแอปได้เสียงตอบรับที่ดี มันก็จะทำให้เกิด Synergy และพากันทำให้แบรนด์โดยรวมทั้งหมดดีกว่าเดิม
แต่ถ้าอยู่มาวันหนึ่ง มีแบรนด์ใดที่แย่ลง มันก็จะฉุดให้แบรนด์อื่นตกลงได้เช่นกัน
เพราะจากเดิมชื่อแบรนด์เป็นอิสระต่อกัน เวลาเรื่องแย่ๆเกิดขึ้นมันจะไม่ได้ส่งผลต่ออีกแบรนด์หนึ่ง
เช่น ที่ผ่านมา Facebook มีข่าวทางลบเรื่องนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้
Instagram จะได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะ คนไม่ได้คิดว่า Instagram จะถูกนำข้อมูลไปใช้เหมือน Facebook
จะเห็นได้ว่า ตอนเกิดเรื่องมีหลายคนที่เลิกเล่น Facebook แต่ยังใช้ Instagram อยู่
ซึ่งคนนั้นอาจไม่ทันได้คิดว่า Instagram ก็มี Facebook เป็นเจ้าของ
แต่เรื่องจะไม่เหมือนเดิม ถ้าชื่อ Instagram เปลี่ยนไปโดยมี from Facebook ต่อท้าย
เมื่อเกิดข่าวไม่ดีกับ Facebook มีโอกาสอย่างมากที่คนจะลบทุกแอปที่อยู่ในเครือของ Facebook
ดังนั้นเรื่องนี้ก็ถือเป็นดาบ 2 คม
ถ้า Facebook เลือกที่จะให้ชื่อแบรนด์เป็นอิสระต่อกัน น่าจะเป็นทางที่ปลอดภัย และ conservative มากกว่า
เมื่อมีแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแย่ แบรนด์หนึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย และเชื่อว่าบริษัทส่วนใหญ่ในโลกก็น่าจะเลือกทางนี้
LVMH เป็นเจ้าของแบรนด์มากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Dior, Fendi หลายคนไม่รู้ว่าแบรนด์เหล่านี้มีเจ้าของเดียวกัน
Kering เป็นเจ้าของแบรนด์ Gucci, Balenciaga, Saint Laurent หลายคนไม่รู้ว่ามีเจ้าของดียวกัน
Facebook กำลังเลือกเดินทางที่ไม่ปกติ และกล้าที่จะเสี่ยงในการรวมแบรนด์
Facebook คงคิดมาดีแล้ว และต้องมั่นใจมาก ที่จะให้แพลตฟอร์มทั้งหมดเชื่อมต่อกัน
และที่น่าคิดคือ หนึ่งในเหตุผลนั้น จะเกี่ยวข้องกับ Libra สกุลเงินคริปโตใหม่ที่ริเริ่มโดย Facebook หรือไม่?
ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้นักการเมืองของสหรัฐ บางกลุ่ม กำลังต้องการแยก Facebook Instagram Whatsapp ออกจากกัน เพราะกล่าวหาว่า Facebook ผูกขาดสังคมออนไลน์
ยิ่งนักการเมืองอยากแยก แต่ Facebook ยิ่งอยากรวม
ก็ต้องติดตามว่าตอนสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร
มาถึงตอนนี้ถ้าใครกลัวชื่อยาวไป ไม่ต้องกังวล
เพราะชื่อเดิมเราไม่ได้เรียกเต็มอยู่แล้ว
ต่อให้ยาวขึ้นอีก เราก็คงจะเรียกสั้นๆว่า IG เหมือนเดิม
แต่ไม่แน่อาจมีบางคนเรียก IGF ก็ได้นะ..
------------------
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่
อ่านฟรี โหลดเลย Blockdit.com/download
------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon