นิโคล่า เทสล่า บุคคลที่โลกลืม

นิโคล่า เทสล่า บุคคลที่โลกลืม

นิโคล่า เทสล่า บุคคลที่โลกลืม / โดย ลงทุนแมน
Tesla เมื่อได้ยินชื่อนี้ ทุกคนคงนึกถึงบริษัทผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
และหากพูดถึงบริษัท Tesla บุคคลแรกที่เรานึกถึงคงเป็น Elon Musk
แต่รู้หรือไม่ว่า Tesla เป็นชื่อของบุคคลคนหนึ่ง ก่อนจะถูกนำมาใช้ตั้งชื่อบริษัท
และรู้หรือไม่ว่า Elon Musk ไม่ใช่ผู้ก่อตั้งคนแรกของบริษัท Tesla
ขอต้อนรับเข้าสู่บทความ เทสลา บุคคลสำคัญที่โลกลืม..
บริษัท Tesla ก่อตั้งเมื่อปี 2003 โดยผู้ชาย 2 คน
คนแรกคือ ชื่อ Martin Eberhard อีกคนชื่อ Marc Tarpenning
Martin และ Marc พบกันตั้งแต่ปี 1990 และสนใจในเทคโนโลยีแบตเตอรี่เหมือนกัน
Martin มองว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะไม่เร็วเหมือนกับเทคโนโลยี software แต่เขาน่าจะหาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้
สินค้าอะไรที่จะได้ประโยชน์จากการพัฒนาของแบตเตอรี่?
ในตอนแรก มาร์ติน และ มาร์ค ไม่ได้นึกถึงรถยนต์ แต่นึกถึง E-Book
ทั้งคู่จึงตั้งบริษัทผลิตอุปกรณ์สำหรับอ่าน E-Book และขายบริษัทไปในปี 2000
มาร์ติน มีความเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องวิ่งช้าแบบรถกอล์ฟ เขาจึงคิดว่าในอนาคตรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะได้ประโยชน์จากการพัฒนาของเทคโนโลยีแบตเตอรี่
ในปี 2003 มาร์ติน และ มาร์ค ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า แม้ว่าทั้งคู่จะไม่มีประสบการณ์ด้านการผลิตรถยนต์มาก่อน
ทำไมจึงใช้ชื่อว่า Tesla?
มาร์ติน ใช้เวลาคิดชื่อบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าอยู่หลายเดือน
สุดท้ายเขาคิดว่าควรตั้งชื่อที่ให้เครดิตกับผู้พัฒนาเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า และไฟฟ้ากระแสสลับ (AC)
Cr. Teslauniverse
ผู้ชายคนนั้นชื่อว่า Nikola Tesla
นิโคล่า เทสล่า ชื่อที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยคุ้นหูเรา คนนี้เขาเป็นใคร?
เมื่อลงทุนแมนไปค้นข้อมูล ก็ทำให้ต้องตกใจหลายเรื่อง เพราะบุคคลนี้เรียกได้ว่าน่าจะเป็นบุคคลสำคัญของโลก ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนเป็นพันล้านคนในตอนนี้
ทำไม นายมาร์ติน ถึงอยากให้เครดิตกับ นิโคล่า เทสล่า และทำไม อีลอน มัสก์ ก็ชื่นชมในตัวเขา ถึงขนาดบริจาคเงินประมาณ 25 ล้านบาท เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์ให้กับเขา
ลงทุนแมนจะเล่าประวัติอย่างย่อของเขาให้ฟัง
นิโคล่าเป็นชาวเซอร์เบีย-อเมริกัน เกิดเมื่อปี 1856 หลัง โทมัส เอดิสัน 9 ปี
นิโคล่าเป็นคนอัจฉริยะ
เขามีทักษะความจำเหมือนภาพถ่าย คือเพียงแค่เห็นภาพใดๆ ครั้งเดียว เขาก็จำมันได้ทั้งหมด
เขาสามารถที่จะพลิกหนังสือไปเรื่อยๆ กวาดตามองทีละหน้าๆ อย่างรวดเร็ว เหมือนถ่ายเอกสาร
พอปิดหนังสือ เขาก็ท่องหนังสือได้ทั้งเล่ม
นิโคล่า ยังเป็นนักประดิษฐ์ที่มีส่วนร่วมในสิ่งประดิษฐ์หลายประเภท
เขาเป็นผู้คิดค้น ไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเบื้องหลังของกระแสไฟฟ้าที่เราใช้กันในปัจจุบัน
นอกจากนี้เขายังเป็นผู้คิดค้น มอเตอร์ไฟฟ้า, ขดลวด Tesla Coil ที่ภายหลังถูกนำมาพัฒนาสำหรับใช้นำส่งคลื่นวิทยุ และทีวี
Cr. scienceabc
หลักฐานบางอย่างยังบอกว่าเขาเป็นคนแรกๆ ที่คิดค้น X-rays, วิทยุ, เลเซอร์ และหุ่นยนต์อีกด้วย
นิโคล่า ยังเคยทำงานอยู่ในบริษัทของ โทมัส เอดิสัน อยู่ช่วงหนึ่ง
คงไม่มีใครไม่รู้จัก โทมัส เอดิสัน ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์มากมายที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก
แต่จริงๆ แล้วมีเรื่องราวที่มากมายซ่อนอยู่ระหว่าง นิโคล่า เทสล่า กับ โทมัส เอดิสัน
Cr. energy.org
ในตอนนั้นโลกยังไม่แน่ใจว่าไฟฟ้ากระแสตรง หรือกระแสสลับจะใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
เอดิสันสนับสนุนไฟฟ้ากระแสตรง ในขณะที่นิโคล่าสนับสนุนกระแสสลับ
เอดิสันเคยท้าทายนิโคล่าว่าถ้า นิโคล่าสามารถประดิษฐ์เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงและมีราคาต่ำได้ เขาจะมอบเงินรางวัลให้นิโคล่า 5 หมื่นเหรียญ (คิดเป็นเงินประมาณ 1 ล้านเหรียญในปัจจุบัน)
นิโคล่า ทำสำเร็จ แต่เอดิสันไม่ได้มอบรางวัลให้กับเขา เพียงแต่ขึ้นเงินเดือนให้เขาจาก 18 เหรียญ เป็น 25 เหรียญเท่านั้น
นิโคล่า จึงตัดสินใจลาออก
นิโคล่า ไปได้งานเป็นกรรมกรขนของ แต่เพราะหมกหมุ่นในวิทยาศาสตร์ นิโคล่า จึงมักใช้เวลาว่างไปกับการคิดค้นประดิษฐ์อะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ
รู้หรือไม่ว่า ตอนนี้ระบบการจ่ายไฟฟ้าที่เราใช้กันอยู่ก็ใช้ระบบกระแสไฟฟ้าสลับของ นิโคล่า เทสล่า
แต่ นิโคล่า เป็นนักประดิษฐ์ ไม่ใช่นักธุรกิจ บ่อยครั้งเขามักพลาดเพราะบริหารเงินได้ไม่ดี หรือถูกหุ้นส่วนทางธุรกิจหักหลัง
เมื่ออายุได้ 50 ปี นิโคล่า ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
ชีวิตในบั้นปลายของนิโคล่า ค่อนข้างลำบาก เพราะนอกจากล้มละลายแล้ว เขายังมีความผิดปกติทางจิต ทั้งเป็นโรคนอนไม่หลับ โรคย้ำคิดย้ำทำ และเห็นภาพหลอน
แต่เพราะวิชาจิตวิทยาในสมัยนั้นยังไม่พัฒนาเท่ากับสมัยนี้ คนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเขาคล้ายคนบ้ามากกว่าคนที่มีอาการป่วยทางจิต
แม้ว่าจะได้รับรางวัลจากผลงานการประดิษฐ์สิ่งต่างๆ อยู่บ้าง แต่ นิโคล่า ก็ยังมีฐานะยากจนเหมือนเดิม
นิโคล่า ล้มป่วยลงด้วยโรหัวใจ และขาดสารอาหารอย่างรุนแรง และเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวที่ห้องพัก ในวัย 86 ปี
หลังการเสียชีวิตของเขา รัฐบาลเซอร์เบีย และรัฐบาลอเมริกา ต่างก็แย่งกันเป็นเจ้าของรายงานการวิจัยของ นิโคล่า สมัยที่เขายังมีชีวิตอยู่
แม้จะไม่ได้มีชื่อเสียงในวงกว้าง แต่ นิโคล่า เทสล่าก็นับเป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะที่ได้สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์มากมายให้กับโลก
แล้ว Elon Musk เข้ามามีบทบาทใน Tesla Motors ได้อย่างไร?
อีลอน สนใจเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและการเดินทางในอวกาศมาตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ
แต่ อีลอน เชื่อว่าการเดินทางในอวกาศสำคัญกว่า เขาเชื่ออย่างแรงกล้าว่า มนุษย์ควรจะมี backup planet เพราะเชื่อว่ามีความเสี่ยงสูงที่มนุษย์จะสุญพันธ์จากวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นบนโลก
หลังจากขาย PayPal ได้เงิน 5,200 ล้านบาท เขานำเงินส่วนหนึ่งมาก่อตั้ง SpaceX ในปี 2002
แต่ อีลอน ก็ยังให้สนใจในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามาโดยตลอด
จนกระทั่งในปี 2004 มาร์ติน และมาร์ค กำลังระดมทุน เพื่อสร้างบริษัท Tesla
พวกเขาถูกแนะนำให้ไปเสนอโปรเจกต์นี้กับ อีลอน
เดิมทีกำหนดเวลานำเสนอคือ 30 นาที
แต่ อีลอน มีความสนใจในโปรเจกต์นี้มาก ทำให้คุยกันยาว 2 ชั่วโมง
มาร์ติน และ อีลอน มีความเห็นตรงกันว่า พวกเขาไม่ได้จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าธรรมดาทั่วไป
แต่จะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีกว่ารถยนต์น้ำมันทุกคันที่เคยมีมา
อีลอน ตัดสินใจลงทุนกับ Tesla เป็นเงินประมาณ 236 ล้านบาท และกลายเป็นประธานบอร์ดบริหาร
หลังจากนั้น Tesla ประสบปัญหาทั้งเรื่องการเงินและการบริหาร อีลอน มองว่าปัญหาเกิดจากการบริหารที่ผิดพลาดของ มาร์ติน
อีลอนตัดสินใจเพิ่มเงินลงทุนใน Tesla จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ในภายหลังเขาตัดสินใจปลด มาร์ติน ออกจากตำแหน่ง CEO และมารับตำแหน่ง CEO ด้วยตัวเอง
และในที่สุดบริษัท Tesla ก็มีหน้าตา และมีชื่อเสียงอย่างที่เราเห็นทุกวันนี้
เรื่องราวของทั้งนายเทสล่า และบริษัท Tesla ให้แง่คิดอะไร?
ลงทุนแมนเชื่อว่า ทุกอย่างในโลกไม่ได้แยกแยะง่ายเหมือนสีขาว สีดำ
โทมัส เอดิสัน นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่โลกนับถือ ไม่ได้เป็นคนแรกที่คิดค้นหลอดไฟ และยังเคยผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับ นิโคล่า เทสล่า
นิโคล่า เทสล่า เองก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะ แต่กลับมีปัญหาทางจิต ล้มเหลวในการทำธุรกิจ และเสียชีวิตไปโดยที่ไม่มีใครจดจำ
ทุกคนรู้จักและจดจำ อีลอน มักส์ ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท Tesla แต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักชื่อของ Martin Eberhard และ Marc Tarpenning
Cr. technologystudent
โลกไม่ยุติธรรมกับเทสล่า มาร์ติน และ มาร์ค?
หรือโลกเรายกย่องชื่นชมเอดิสัน และ อีลอน มากเกินไป?
แต่บางคนก็อาจจะบอกว่า อีลอน มักส์ เองก็ทุ่มเทให้กับบริษัท Tesla และสมควรได้รับเครดิตในฐานะผู้ก่อตั้งคนหนึ่งเหมือนกัน
และแม้ว่าเอดิสันจะไม่ได้เป็นคนแรกที่ประดิษฐ์หลอดไฟ แต่บริษัทของเขาก็เป็นบริษัทแรกที่ทำให้มันมีประสิทธิภาพพอจะนำมาใช้งานนอกห้องทดลองได้จริงๆ
โลกเราก็เป็นแบบนี้ ไม่ได้แยกแยะได้ง่ายเหมือนสีขาว สีดำ
สุดท้ายแล้ว ก็คงตอบไม่ได้ว่าโลกควรจะเป็นอย่างไร
บางเวลาโลกก็ดูโหดร้ายสำหรับบางคน
และในบางครั้งโลกก็ดูลำเอียง บางคนได้ดีเกินไปจนน่าหมั่นไส้
มองมุมหนึ่งโลกอาจดูซับซ้อน ไม่ยุติธรรม
แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่ง นี่ก็คงเป็นเสน่ห์ของโลกนี้
โลกก็แค่ดำเนินไป ตามกลไกปกติของมัน
สิ่งที่เกิดขึ้น มันก็จะเทาๆ อย่างนี้แหละ อย่าไปหวังว่าจะให้ชัดเจนทุกอย่าง
ไม่เช่นนั้นโลกนี้ ก็คงไม่ใช่โลก..
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป Blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
หมายเหตุ บทความนี้ลงทุนแมนเขียนขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2018 และอยู่ในหนังสือลงทุนแมน เล่มที่ 7.0
สั่งซื้อ หนังสือลงทุนแมน 7.0 ได้ที่
https://www.lazada.co.th/longtunman
References
-http://www.electron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=888&Itemid=99999999&limit=1&limitstart=1
-https://www.quora.com/Is-it-true-that-Thomas-Edison-stole-ideas-from-others-especially-Nikola-Tesla-If-yes-is-there-any-proof-of-that
-https://listverse.com/2012/06/07/10-ways-edison-treated-tesla-like-a-jerk/
-https://www.activistpost.com/2012/01/10-inventions-of-nikola-tesla-that.html
-https://hilight.kapook.com/view/26340
-https://pantip.com/topic/31462824
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon