FARFETCH หนึ่งในสมาชิก Libra Association / โดย ลงทุนแมน

ในช่วงที่ผ่านมา เราต่างตื่นเต้นกับการเปิดตัว Libra
สกุลเงินดิจิทัลของ Facebook ที่จะมาปฏิวัติระบบการเงินโลก

แต่อีกสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
คือหน่วยงาน Libra Association ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ไม่แสวงกำไร
ทำหน้าที่กำกับดูแลสกุลเงิน Libra

ถึงแม้ Facebook จะพัฒนาสกุลเงินนี้ขึ้นมา
แต่การตัดสินใจใดๆ ต้องผ่านการเห็นชอบจาก Libra Association

โดย Libra Association มีสมาชิกร่วมก่อตั้งทั้งหมด 27 องค์กร
ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่เรารู้จักกันดีอย่าง Mastercard, Visa, PayPal, Booking, Spotify, Uber

แต่มีอีกหลายบริษัทที่เป็นหนึ่งในสมาชิกองค์กร แต่เราอาจยังไม่ค่อยคุ้นชื่อ
และ บริษัท Farfetch ก็เป็นหนึ่งในนั้น..

แล้วบริษัทนี้มีดีอะไร ถึงได้รับเกียรติมาเป็นสมาชิกของหน่วยงานนี้

Farfetch เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์สำหรับสินค้าแฟชั่นระดับแบรนด์หรู

พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นตัวกลางระหว่างผู้บริโภคกับบริษัทแบรนด์หรูต่างๆ

บริษัทก่อตั้งในปี 2007 ที่ลอนดอน โดยคุณ José Neves นักธุรกิจชาวโปรตุเกส

เริ่มแรก Neves ได้สร้างรองเท้าแบรนด์ Swear และเปิดร้านค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่น B Store ของตัวเอง

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 2007
เขาได้ไปงาน Paris Fashion Week เพื่อหาแบรนด์เสื้อผ้ามาวางขายในร้าน B Store ของเขา

มันทำให้เขาเกิดไอเดีย ที่จะสร้างร้านค้าปลีกออนไลน์ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์หรูต่างๆ มาไว้ที่เดียวกัน

เพราะเขามองว่าการซื้อขายเสื้อผ้าแฟชั่น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาร้านค้าปลีกท้องถิ่นอีกต่อไป

เขาจึงได้ตัดสินใจสร้าง Farfetch ขึ้นมา
แต่อุปสรรคคือ เขาไม่มีประสบการณ์ทำเว็บไซต์มาก่อน

ช่วงเริ่มต้นจึงเกิดความท้าทายทางธุรกิจมากมาย
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น

เรื่องสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้คือ การให้แบรนด์หรูต่างๆ มาเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย

ปกติบริษัทแบรนด์หรูจะมีหน้าร้าน และเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
และจะเน้นขายสินค้าผ่านหน้าร้านเป็นหลัก

เพราะต้องการรักษาภาพลักษณ์ระดับพรีเมียม และการให้บริการลูกค้าที่เป็นเลิศ

แล้ว Farfetch มีกลยุทธ์อะไรที่ทำให้แบรนด์ต่างๆ ให้ความไว้วางใจ?

อย่างแรกคือ บริษัทให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ต่างๆ และยืนยันว่าจะช่วยรักษาสิ่งนั้นไว้

โดยสร้างแพลตฟอร์มให้มีความน่าเชื่อถือ และการบริการลูกค้าที่ดีเพื่อรักษามาตรฐานของแบรนด์หรูไว้

อีกอย่างคือบริษัทช่วยให้แบรนด์สามารถนำเสนอสินค้าระดับพรีเมียมให้ได้มากที่สุด ผ่านการให้บริการช่องทางจำหน่ายระหว่างประเทศ พร้อมทั้งจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าแทนแบรนด์ต่างๆ

ดังนั้นเมื่อ Farfetch เติบโต แบรนด์ต่างๆ ที่บริษัทให้บริการก็จะเติบโตไปด้วย

ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายเสื้อผ้าและสินค้าแบรนด์หรูกว่า 700 แบรนด์จากทั่วโลก มีแบรนด์ชื่อดังมากมาย เช่น Chanel, Gucci, Versace และส่งสินค้ากว่า 190 ประเทศ

บริษัทได้ IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในปี 2018
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสูงถึง 193,000 ล้านบาท

ปี 2017 มีรายได้ 11,925 ล้านบาท ขาดทุน 3,469 ล้านบาท
ปี 2018 มีรายได้ 18,612 ล้านบาท ขาดทุน 4,807 ล้านบาท

ถึงแม้รายได้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่ก็ขาดทุนอย่างมากเช่นกัน

เป็นเพราะบริษัทยังอยู่ในช่วงขยายฐานลูกค้า และสร้างการรับรู้ในแบรนด์ จึงยอมขาดทุนหนักช่วงแรก

บริษัทจะสามารถทำกำไรได้หรือไม่ ต้องติดตามดูในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ Farfetch ได้ปฏิวัติวงการแฟชั่นไปเรียบร้อยแล้ว

จากแต่ก่อน ถ้าซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ เราจะซื้อเฉพาะของราคาไม่แพง

ส่วนเสื้อผ้าแบรนด์หรู เราจะซื้อผ่านหน้าร้านอย่างเดียว
เพราะมั่นใจกว่า และไม่ต้องมาลุ้นว่าจะได้ของปลอมหรือสินค้ามีตำหนิ

แต่ตอนนี้หลายคนก็สามารถซื้อเสื้อผ้าแบรนด์หรูชั้นนำได้อย่างสบายใจ แม้จะอยู่บ้านหรือที่ทำงาน

เรื่องนี้ให้ข้อคิดทางธุรกิจอะไรบ้าง?
อย่างแรกคือ ในโลกธุรกิจ การมีพาร์ตเนอร์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ

ถ้าธุรกิจมีพาร์ตเนอร์ที่แข็งแกร่ง ก็จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งตามไปด้วย เหมือนที่ Farfetch มีแบรนด์ชั้นนำคอยสนับสนุนอยู่

ต่อมาคือการสร้างความแตกต่าง

จะเห็นได้ว่า Farfetch เน้นเจาะตลาดระดับบน จึงทำให้บริษัทมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากอีคอมเมิร์ซ
รายอื่นๆ ที่มักจะแข่งขันในตลาดเดียวกัน ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง..
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
References
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Farfetch
-https://finance.yahoo.com/quote/FTCH/
-https://www.farfetch.com/ph/
-Financial Reports 2018_Farfetch