
ซีรีส์บทความ 4 เสือเศรษฐกิจ แห่งเอเชีย
ซีรีส์บทความ 4 เสือเศรษฐกิจ แห่งเอเชีย /โดย ลงทุนแมน
ทุกคนเคยได้ยินว่าประเทศไทยเป็นเสือเศรษฐกิจตัวที่ 5 ของเอเชีย
แต่เคยสงสัยไหมว่า 4 เสือเศรษฐกิจมีใครบ้าง
แต่เคยสงสัยไหมว่า 4 เสือเศรษฐกิจมีใครบ้าง
ในช่วงทศวรรษ 1960 ก็ได้มีกลุ่มเขตเศรษฐกิจกลุ่มหนึ่งในเอเชีย
ที่มีการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของตัวเอง
จนพลิกสถานะจากประเทศกำลังพัฒนา
ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ที่มีการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของตัวเอง
จนพลิกสถานะจากประเทศกำลังพัฒนา
ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้า และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
กลุ่มเขตเศรษฐกิจเหล่านี้ถูกเรียกว่า “สี่เสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย” (Four Asian Tigers)
ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน
ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ และไต้หวัน
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ซีรีส์บทความ “สี่เสือเศรษฐกิจแห่งเอเชีย”
แต่ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจถึงจุดเริ่มต้นแห่งความก้าวหน้าของเอเชียกันสักนิด
จุดเริ่มต้นของความก้าวหน้า
เกิดจากรากฐานที่ดีของประเทศที่มีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมมากที่สุดในเวลานั้น
ซึ่งก็คือ ประเทศญี่ปุ่น
เกิดจากรากฐานที่ดีของประเทศที่มีความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมมากที่สุดในเวลานั้น
ซึ่งก็คือ ประเทศญี่ปุ่น
นับตั้งแต่การปฏิรูปเมจิ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
ญี่ปุ่นได้เปิดรับวิทยาการใหม่ๆ ของชาติตะวันตก ศึกษาทุกองค์ความรู้
วางรากฐานระบบอุตสาหกรรมของตัวเอง และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจจนเติบโต
ญี่ปุ่นได้เปิดรับวิทยาการใหม่ๆ ของชาติตะวันตก ศึกษาทุกองค์ความรู้
วางรากฐานระบบอุตสาหกรรมของตัวเอง และสามารถพัฒนาเศรษฐกิจจนเติบโต
แม้จะประสบความพ่ายแพ้อย่างหนักหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ฐานความรู้ที่สั่งสมมานาน
ก็ทำให้ญี่ปุ่นสามารถพลิกฟื้นประเทศจนกลับมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำได้อีกครั้ง
ก็ทำให้ญี่ปุ่นสามารถพลิกฟื้นประเทศจนกลับมาเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำได้อีกครั้ง
กลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียดำเนินรอยตาม
โดยเฉพาะ สี่เสือเศรษฐกิจ
ซึ่งได้พัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตที่อาศัยเทคโนโลยีอันก้าวหน้า
หรือพัฒนาการบริการที่มีความสลับซับซ้อน
จนมีเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วจนกลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งเอเชีย
โดยเฉพาะ สี่เสือเศรษฐกิจ
ซึ่งได้พัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตที่อาศัยเทคโนโลยีอันก้าวหน้า
หรือพัฒนาการบริการที่มีความสลับซับซ้อน
จนมีเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วจนกลายเป็นความมหัศจรรย์แห่งเอเชีย

จากจุดเริ่มต้นในช่วงปี 1960
ซึ่งในขณะนั้น เศรษฐกิจญี่ปุ่นเจริญเติบโตอย่างมาก
และกำลังจะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี 1964
ญี่ปุ่นมีรายได้ต่อหัวต่อปีในปี 1960 อยู่ที่ 10,155 บาท
ซึ่งในขณะนั้น เศรษฐกิจญี่ปุ่นเจริญเติบโตอย่างมาก
และกำลังจะเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ในปี 1964
ญี่ปุ่นมีรายได้ต่อหัวต่อปีในปี 1960 อยู่ที่ 10,155 บาท
ส่วนรายได้ต่อหัวต่อปีของสี่เสือเศรษฐกิจในปี 1960 คือ
(ค่าเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐในปี 1960 = 21.2 บาท)
(ค่าเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐในปี 1960 = 21.2 บาท)
ฮ่องกง 9,094 บาท
สิงคโปร์ 9,073 บาท
เกาหลีใต้ 3,350 บาท
ไต้หวัน 2,968 บาท
สิงคโปร์ 9,073 บาท
เกาหลีใต้ 3,350 บาท
ไต้หวัน 2,968 บาท
ซึ่งในเวลานั้นประเทศไทยมีรายได้ต่อหัวต่อปีอยู่ที่ 2,141 บาท
ฮ่องกงและสิงคโปร์ อาศัยความมีชัยภูมิที่ดีในการเป็นทำเลศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้า
พัฒนาธุรกิจบริการที่มีความสลับซับซ้อน เช่น การขนส่ง การเงิน และประกันภัย
พัฒนาธุรกิจบริการที่มีความสลับซับซ้อน เช่น การขนส่ง การเงิน และประกันภัย

ส่วนเกาหลีใต้และไต้หวัน อาศัยญี่ปุ่นเป็นต้นแบบในการพัฒนาอุตสาหกรรม
และทุ่มงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยมีสัดส่วนงบประมาณ R&D เพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ จนในปี 2017
เกาหลีใต้ มีสัดส่วนงบ R&D ถึง 4.4 % ของ GDP
และไต้หวัน มีสัดส่วน 3.3 % ของ GDP
ทั้งสองประเทศสามารถพัฒนานวัตกรรมเป็นของตัวเองจนได้รับการยอมรับในระดับโลก
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
และทุ่มงบประมาณให้กับการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยมีสัดส่วนงบประมาณ R&D เพิ่มขึ้น
เรื่อยๆ จนในปี 2017
เกาหลีใต้ มีสัดส่วนงบ R&D ถึง 4.4 % ของ GDP
และไต้หวัน มีสัดส่วน 3.3 % ของ GDP
ทั้งสองประเทศสามารถพัฒนานวัตกรรมเป็นของตัวเองจนได้รับการยอมรับในระดับโลก
โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

ตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี
ทั้งสี่เสือได้พัฒนาตนเองจนมีสถานะเป็นกลุ่มเขตเศรษฐกิจรายได้สูง
และจัดเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
ทั้งสี่เสือได้พัฒนาตนเองจนมีสถานะเป็นกลุ่มเขตเศรษฐกิจรายได้สูง
และจัดเป็นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
รายได้ต่อหัวต่อปี ในปี 2017
สิงคโปร์ 1,829,534 บาท
ฮ่องกง 1,464,318 บาท
เกาหลีใต้ 942,853 บาท
ไต้หวัน 779,090 บาท
สิงคโปร์ 1,829,534 บาท
ฮ่องกง 1,464,318 บาท
เกาหลีใต้ 942,853 บาท
ไต้หวัน 779,090 บาท
โดยที่สิงคโปร์และฮ่องกงต่างก็มีรายได้ต่อหัวแซงหน้าญี่ปุ่น ซึ่งมีรายได้ 1,218,231 บาทไปแล้ว
ขณะที่ประเทศไทยมีรายได้ต่อหัวต่อปีอยู่ที่เพียง 209,062 บาท
แต่ละเขตเศรษฐกิจ ต่างก็มีเส้นทางพัฒนาของตัวเองที่แตกต่างกันไป
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไร
ติดตามได้ในบทความตอนที่ 1 ประเทศสิงคโปร์ ในสัปดาห์หน้า...
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
References
-อาร์เทอร์ ชิค, ญี่ปุ่น : แดนอาทิตย์อุทัยทอรัศมีเหนือแปซิฟิก, นิตยสารเนชั้นแนล จีโอกราฟฟิก (ภาษาอังกฤษ) ฉบับเดือนพฤศจิกายน ปี 1991
-https://docs.google.com/document/d/1PQxN_lK-ZctfyMOkIvi5ErhEP-8rdj0n5b6C1-QIxP8
-The Pacific Exchange Rate Service
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Four_Asian_Tigers
-https://data.oecd.org/rd/gross-domestic-spending-on-r-d.htm
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
References
-อาร์เทอร์ ชิค, ญี่ปุ่น : แดนอาทิตย์อุทัยทอรัศมีเหนือแปซิฟิก, นิตยสารเนชั้นแนล จีโอกราฟฟิก (ภาษาอังกฤษ) ฉบับเดือนพฤศจิกายน ปี 1991
-https://docs.google.com/document/d/1PQxN_lK-ZctfyMOkIvi5ErhEP-8rdj0n5b6C1-QIxP8
-The Pacific Exchange Rate Service
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Four_Asian_Tigers
-https://data.oecd.org/rd/gross-domestic-spending-on-r-d.htm