HUAWEI ไม่ง้อ Android / โดย ลงทุนแมน

“แม้ในอนาคตเราจะถูกแบนไม่ให้ใช้ Android ก็ไม่เป็นไร
Huawei เตรียมพร้อม และเรามีแผนสำรองไว้แล้ว..”

ประโยคนี้กล่าวโดยคุณ Richard Yu ผู้บริหารบริษัท Huawei

หลังจากที่เขาถูกถามว่า
ถ้าผลกระทบจากสงครามการค้าส่งผลให้ Android และ Windows ถูกระงับการขายและให้บริการในประเทศจีน บริษัทจะรับมืออย่างไร

การรับมือของ Huawei โดยไม่มีสหรัฐอเมริกา มีอะไรบ้าง?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปัจจุบัน..
โลกนี้มีระบบปฏิบัติการที่เป็นที่นิยมกันอยู่เพียง 2 ระบบ
นั่นคือ iOS ของ Apple และ Android ของ Google

ส่วนแบ่งการตลาดระบบปฏิบัติการ
ปี 2013 Android 78.5%, iOS 15.5% และอื่นๆ 6.0%
ปี 2015 Android 81.6%, iOS 15.9% และอื่นๆ 2.5%
ปี 2017 Android 85.9%, iOS 14.0% และอื่นๆ 0.1%

จากตัวเลขปี 2017 เราอาจสรุปได้ว่าสมาร์ตโฟนทุกๆ 100 เครื่อง จะทำงานบนระบบ Android ถึงประมาณ 86 เครื่อง และเทรนด์นี้มีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ..

ปัจจุบัน Huawei กลายมาเป็นหนึ่งผู้เล่นสำคัญในตลาดผู้ผลิตสมาร์ตโฟน

อ้างอิงจากไตรมาสที่ 4 ปี 2018 Huawei มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 16.1%
รั้งเป็นอันดับที่ 3 เป็นรองเพียง Samsung 18.7% และ Apple 18.2%

ทั้งนี้ Huawei เริ่มวางแผนการพัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือเพื่อทดแทนระบบ Android ตั้งแต่ปี 2012

เรื่องนี้เกิดขึ้นมาจาก การที่ทางการสหรัฐอเมริกาเปิดการสอบสวนบริษัท Huawei และ ZTE ตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว

และปัจจุบันเริ่มยกระดับความรุนแรงถึงขนาดออกคำสั่งห้ามซื้อ-ขายอุปกรณ์เครือข่ายจากทั้ง 2 บริษัท

แต่ระบบปฏิบัติการก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นได้ง่ายๆ
เพราะมีแค่ระบบอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แอปพลิเคชันบนระบบก็สำคัญไม่แพ้กัน..

ปี 2018
Google Play มี 3.5 ล้านแอปพลิเคชัน
Apple App Store มี 2.1 ล้านแอปพลิเคชัน

หมายความว่า ระบบปฏิบัติการใหม่จะต้องมีส่วนผสมจากฟากผู้พัฒนา เพื่อมาสร้างสรรค์แอปพลิเคชันต่างๆ บนแพลตฟอร์ม ให้น่าดึงดูดมากขึ้น..

ซึ่งหมายความว่าเรื่องนี้ก็เป็นการบ้านที่ยากของ Huawei อยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม

การจับมือร่วมกันพัฒนากล้องร่วมกับ Leica
การพัฒนาเครื่องเสียงบนอุปกรณ์ร่วมกับ Harman Kardon
การผลิตแว่นอัจฉริยะที่เพิ่งเปิดตัวร่วมกับ Gentle Monster

ด้วยนวัตกรรมทั้งหมดนี้ ทำให้เรื่องราวของ Huawei ในวันที่ไม่ได้อยู่บน Android กลายมาเป็นอีกหนึ่งเรื่องในวงการธุรกิจที่น่าติดตาม

และนอกจากระบบ Android อีกธุรกิจที่หนีไม่พ้นคงจะเป็น ชิปจาก Intel ก็อาจถูกแทนที่ด้วยนวัตกรรมชิปที่ Huawei ผลิตขึ้นเอง..

ปัจจุบัน บริษัท Intel มีสัดส่วนรายได้จากประเทศจีนสูงถึง 26.5% ในขณะที่ Google ผู้ให้บริการ Android มีสัดส่วนรายได้จากเอเชีย แปซิฟิก 6.8 แสนล้านบาท คิดเป็น 15% ของรายได้ทั้งหมด

เรียกได้ว่าประเทศจีนมีความสำคัญต่อบริษัทอเมริกันเป็นอย่างมาก

ในขณะที่บริษัทของจีนก็มีความสามารถไม่แพ้บริษัทอเมริกัน
สังเกตได้จากแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คนจีนใช้

คนจีนคุยกันผ่าน WeChat
สั่งของออนไลน์ผ่าน Taobao
ค้นหาข้อมูลผ่าน Baidu
เล่นเกมจากบริษัท Tencent

ก็ไม่แน่ว่าระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นบนประเทศที่มีฐานประชากร 1,400 ล้านคนที่คิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของประชากรโลก อาจเป็นตัวแปรสำคัญให้โลกนี้มีระบบปฏิบัติการที่ 3 เกิดขึ้นมาได้..

จากคำตอบสั้นๆ ของผู้บริหาร Huawei ว่า “เราพร้อมแล้วสำหรับเรื่องนี้..”

กลับกลายเป็น
คำถามสำคัญที่ส่งตรงไปยังบริษัท Google และ Intel ว่า..

ถ้าสินค้าไม่สามารถส่งไปขายหรือให้บริการให้กับคนจีนได้อีกต่อไป
บริษัทอเมริกัน จะทำอย่างไร?
----------------------
Huawei อยากจะก้าวข้าม Apple อ่านเรื่องนี้ได้ที่
https://www.blockdit.com/articles/5c370224e54e7b7bcedd215e

ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit โหลดได้ที่ http://www.blockdit.com

สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 9.0 ได้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/90-i293980783-s493954943.html

Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือ-ลงทุนแมน-9.0-i.116732911.1933827833
----------------------
References
-Intel Annual Report 2018
-Alphabet Annual Report 2018
-Microsoft Annual Report 2018
-https://abc.xyz/investor/static/pdf/20180204_alphabet_10K.pdf?cache=11336e3
-https://www.lifewire.com/iphone-vs-android-best-smartphone-200030
-https://www.theverge.com/2019/3/14/18265646/huawei-operating-systems-android-windows-ban
-https://go.skimresources.com/?xs=1&url=https%3A%2F%2Fwww.welt.de%2Fwirtschaft%2Farticle190034791%2FHuawei-Manager-zu-Spionagevorwurf-Das-hat-politische-Gruende.html&xguid=85UTUFk2RzAa&id=66960X1514734&checksum=fc5d6ea7126bb8e6a7af56a7049975e787946c4e625ac9ceef083a8513bb04da