ตลาดหุ้นใน ซีเรีย

ตลาดหุ้นใน ซีเรีย

ทุกคนคงรู้ดีว่าประเทศซีเรียกำลังอยู่ในภาวะสงครามมาอย่างยาวนาน ภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตาคือสภาพบ้านเมืองที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง แต่เราเคยสงสัยไหมว่าประเทศนี้มีตลาดหุ้นหรือไม่? แล้วหุ้นในประเทศนี้จะตกจนไม่เหลือมูลค่าอะไร หรือว่ายังมีบางบริษัทยังทำธุรกิจได้อยู่ในประเทศซีเรีย
ทุกคนคงแปลกใจถ้าจะบอกว่า ประเทศซีเรียมีตลาดหุ้น และยังคงเปิดให้มีการซื้อขายกันอยู่ถึงหลักสิบล้านหุ้นต่อปี
ตลาดหุ้นซีเรีย (Damascus Securities Exchange) เปิดทำการเมื่อปี 2009 ก่อนสงครามจะเกิดขึ้น 2 ปี โดยในปีแรก มีบริษัทจดทะเบียน 9 บริษัท และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 24 บริษัทในปัจจุบัน
จำนวนหุ้นที่มีการซื้อขาย (Trade volume) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังเปิดตลาด หุ้นมากกว่า 15 ล้านหุ้นได้ถูกซื้อขายในปี 2011 ภายใต้ภาวะสงคราม การซื้อขายมีลดบ้างเพิ่มบ้างจนขึ้นไปสูงสุดเกือบ 20 ล้านหุ้นในปีที่แล้ว
มูลค่าตามราคาตลาด (Market cap) ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน แต่... มูลค่าที่แท้จริงของหลักทรัพย์เหล่านี้กลับลดลงอย่างมาก สืบเนื่องมาจากภาวะเงินเฟ้อและการอ่อนค่าอย่างหนักของสกุลเงินซีเรีย
เมื่อก่อนที่เคยใช้ 50 ซีเรียนปอนด์เพื่อแลก 1 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2010 แต่ปัจจุบันกลับต้องจ่ายมากขึ้นถึง 10 เท่า
ปัจจุบันหุ้นที่ยังมีการซื้อขายอยู่ เหลือน้อยมาก มีเพียง 6-8 บริษัทเท่านั้น โดยหุ้นที่ถูกซื้อขายมากที่สุดแทบทั้งหมดเป็นบริษัทย่อยของธนาคารจากต่างประเทศ แต่ที่น่าสนใจคือ งบการเงินของธนาคารเหล่านั้นแสดงผลกำไรได้อยู่..
ทำไมธนาคารต่างประเทศในซีเรียถึงมีกำไร?
นอกเหนือจากการมองหาลูกค้าที่ยังพอที่จะชำระหนี้ได้ ธนาคารยังมีการใช้เทคนิคทางการเงินเพื่อให้ธนาคารดูมีกำไร
โดยธนาคารต่างประเทศเหล่านี้จะมีส่วนของเงินทุนเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เทคนิคที่ธนาคารทำคือ รับรู้เงินทุนเหล่านั้นเป็นสกุลเงินซีเรียนปอนด์ ซึ่งจากการอ่อนค่าของเงินซีเรีย ทำให้กำไรของธนาคารดูเพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน
แม้ว่าธนาคารกลางของซีเรียจะรู้ถึงการกระทำนี้ แต่ก็ไม่ต้องการให้คนแตกตื่นจากการที่เห็นธนาคารในประเทศอยู่ในภาวะขาดทุน รวมไปถึงบริษัทตรวจสอบบัญชีที่ “รู้งาน” ก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน
รู้แบบนี้แล้ว ทำไมถึงยังมีคนเข้าไปลงทุนอีก?
คำตอบคือ นักลงทุนเหล่านี้ไม่มีทางเลือก พวกเขาเลือกที่จะถือครองหุ้นเอาไว้ และรอวันที่สงครามจบลง..
เมื่อประเทศเข้าสู่ช่วงฟื้นฟู แน่นอนว่าประเทศต้องมีการบูรณะและก่อสร้างเมืองใหม่ครั้งใหญ่ และจะมีบริษัทเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น เช่นกลุ่ม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ก่อสร้าง ถึงเวลานั้นนักลงทุนก็หวังว่าจะทำกำไรได้จากตลาดหุ้น
สรุปแล้ว แม้แต่ในประเทศซีเรียที่คิดว่าสิ้นหวังทุกอย่างแล้ว ก็ยังมีนักลงทุนที่รอคอยโอกาสในภาวะวิกฤตอยู่เช่นกัน
แล้วประเทศไทยที่ยังดูดีกว่าซีเรีย ทำไมดูเหมือนว่า หลายคนเริ่มหมดหวังกับอนาคตของประเทศไทยไปแล้ว..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon