TINDER แอปสละโสด โตระเบิด / โดย ลงทุนแมน

“เราจะรู้สึกสบายใจที่จะเข้าใกล้ใครสักคน
ถ้าเรารู้ว่าเขาก็อยากรู้จักเราเหมือนกัน..”

ประโยคนี้เป็นไอเดียของคุณ Sean Rad และคุณ Justin Mateen
ก่อนที่จะถูกพัฒนามาเป็นแอปพลิเคชัน Tinder

Tinder เป็นแพลตฟอร์มหนึ่งภายใต้ Match Group
ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการหาคู่ออนไลน์โดยเฉพาะ

บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าสูงระดับ 472,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าใกล้เคียงกับธนาคารกสิกรไทย..

แล้วแพลตฟอร์มหาคู่ เติบโตดีขนาดไหน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า..
Tinder ถูกสร้างใน Hatch Labs
เป็นโครงการพัฒนาบริษัทสตาร์ตอัปของบริษัท InterActiveCorp (IAC)

บริษัท IAC ก่อตั้งในปี 1986 ในชื่อ Silver King Broadcasting Company เริ่มต้นทำธุรกิจสื่อและช่องทีวี

ภายหลังบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ และผันตัวไปเป็นบริษัท Holdings
กระจายการลงทุนในหลายธุรกิจ โดย Tinder เป็นผลผลิตหนึ่งจากโครงการที่ได้รับการระดมทุน

เมื่ออินเทอร์เน็ตเริ่มโต
คนโสดเริ่มมากขึ้น
ผลลัพธ์ก็คือ นวัตกรรมใหม่ในเรื่องการสละโสด

บริษัท InterActiveCorp ลงทุนในแพลตฟอร์มหาคู่ เช่น Match.com, OKCupid, Meetic รวมถึง Tinder และได้ตัดสินใจจดทะเบียนบริษัทลูก Match Group ขึ้นมา สำหรับธุรกิจที่ให้บริการหาคู่ออนไลน์ทั้งหมด..

บริษัท Match Group เติบโตอย่างรวดเร็ว
จนในที่สุดสามารถจดทะเบียนใน NASDAQ ได้สำเร็จในปี 2015

บริษัท Match Group
ปี 2016 รายได้ 35,400 ล้านบาท กำไร 5,650 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 42,200 ล้านบาท กำไร 11,100 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 54,800 ล้านบาท กำไร 15,150 ล้านบาท

ปี 2017 รายได้โตขึ้น 19%
ปี 2018 รายได้โตขึ้นอีก 30%

โดยแอป Tinder เริ่มมีส่วนสำคัญต่อรายได้ของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ

ปี 2016 รายได้จาก Tinder เป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด
ปี 2017 รายได้จาก Tinder เป็น 34% ของรายได้ทั้งหมด
ปี 2018 รายได้จาก Tinder เป็น 50% ของรายได้ทั้งหมด

ทำไม Tinder ถึงโตขนาดนี้?

เรื่องแรกคงหนีไม่พ้นฟังก์ชันการใช้งาน “Swipe”

ไม่ชอบ ปัดซ้าย
ชอบ ปัดขวา
ชอบมากๆ ปัดบน..

แม้จะเป็นสิ่งแปลกใหม่ในช่วงแรก
แต่มันกลับเป็นฟังก์ชันเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย
และกลายมาเป็นจุดขายของแอปพลิเคชัน..

แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ซ่อนอยู่คือ การกำหนดจำนวนการชอบและขอบเขตการค้นหา
โดยที่หากอยากได้ฟังก์ชันเพิ่มมากไปกว่านั้น เราต้องสมัครเป็นสมาชิก..

เรื่องนี้จึงกลายเป็นที่มาของ Tinder Gold หรือเรียกง่ายๆ ว่า สมาชิกกรอบทอง
ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจ Subscription ที่ให้ผู้ใช้งานจ่ายเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษ

เช่น ปัดผิดกลับไปปัดใหม่ หรือบูสต์โปรไฟล์ให้คนอื่นเห็นเรามากขึ้น

อีกฟังก์ชันที่พีกของสมาชิกกรอบทอง ก็คือ
เราสามารถบินไปอยู่ตรงไหนก็ได้ในโลก เพื่อค้นหาคนที่เราสนใจแถวๆ นั้น..

ตัวอย่างเช่น เราสามารถคุยกับคนในกรุงเทพฯ ได้ ทั้งๆ ที่เราอยู่ในลอนดอน
โดยทั้งสองไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่สนใจในกันและกัน

ในนั้น เราไม่จำเป็นต้องมีพาสปอร์ต ไม่ต้องมีวีซ่า แต่เราสามารถรู้จักกับคนอื่นๆ ทั่วโลกได้

แล้วตอนนี้สมาชิกกรอบทอง มีมากแค่ไหน?

การเติบโตของยอดสมาชิก ใน Tinder
ปี 2015 จำนวน 100,000 บัญชี
ปี 2016 จำนวน 920,000 บัญชี
ปี 2017 จำนวน 1,860,000 บัญชี
ปี 2018 จำนวน 3,470,000 บัญชี

ปัจจุบันยอดดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปถึง 4,350,000 บัญชี ซึ่งในจำนวนนี้มีสมาชิกกรอบทองสูงถึงกว่า 60%

เมื่อรวมกับแพลตฟอร์มที่เหลือ ปัจจุบัน Match Group มียอดสมาชิกสูงเกินกว่า 8 ล้านบัญชีแล้ว

ในขณะที่ยอดผู้ใช้งาน Tinder ทั่วโลกตอนนี้อยู่ที่ 57 ล้านบัญชี

ที่น่าสนใจคือ นอกจากรายได้จากค่าสมาชิกแล้ว
Tinder ยังมีรายได้จากการแทรกโฆษณาไว้ระหว่างการปัดของเราอีกด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้
บริษัท Match Group มีมูลค่าสูงถึงระดับ 472,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..

ความสำเร็จของ Match Group และ Tinder ที่มีจนถึงวันนี้
ส่วนหนึ่งก็เพราะอาศัย “ความสัมพันธ์ของมนุษย์” ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับเรามาเนิ่นนาน

ถ้าถามว่า ตอนนี้คู่แข่งของ Match Group และ Tinder คือใคร?

คำตอบก็คงจะเป็น คนที่ไม่โสด นั่นเอง..
----------------------
รู้ไหม Tinder เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร อ่านเรื่องนี้ได้ที่
https://www.blockdit.com/articles/5b30b122076e65512a686e75

ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit โหลดได้ที่ http://www.blockdit.com

สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมน 9.0 ได้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/90-i293980783-s493954943.html

Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือ-ลงทุนแมน-9.0-i.116732911.1933827833
----------------------
Reference
-Match Group, Annual Report 2018