Streaming เทรนด์การฟังเพลงของคนรุ่นใหม่

Streaming เทรนด์การฟังเพลงของคนรุ่นใหม่

Streaming เทรนด์การฟังเพลงของคนรุ่นใหม่ / โดย ลงทุนแมน
จากเมื่อก่อนฟังเพลงจาก แผ่นเสียง
ต่อมาเป็น เทป วิทยุ
หลังจากนั้นคือ ซีดี
พอ MP3 เริ่มมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
สุดท้าย ตอนนี้สิ่งที่มาแทนก็คือ Streaming
ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเพลง ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก มูลค่าตลาดลดลงไปเกือบครึ่ง หลังจากพฤติกรรมการบริโภคสินค้าเพลงของคนเปลี่ยนไป
แต่แล้ววงการเพลงกำลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจ Streaming ที่ใช้เทคโนโลยีมาทำให้การฟังเพลงเหมาะกับรสนิยมของแต่ละคน

เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดเพลงที่ใหญ่ที่สุดในโลก เคยมีมูลค่าสูงสุด เมื่อปี 1999 ที่ 4.56 แสนล้านบาท โดย 92% มาจากยอดขายซีดี
หลังจากนั้น การเติบโตของโลกอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้ยอดขายสินค้าแบบจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น เทปหรือซีดี ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนหันไปบริโภคเพลงผ่านทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงแบบละเมิดลิขสิทธิ์ ทำให้มูลค่าตลาดเพลงหายไปเกือบครึ่ง
แต่ปัจจุบัน รูปแบบธุรกิจที่ทำให้อุตสาหกรรมเพลง กลับมาคึกคักอีกครั้ง คือ Music Streaming
ปี 2017 มูลค่าตลาดเพลงในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 2.72 แสนล้านบาท ซึ่งเติบโต 16% จากปีก่อนหน้า
65% มาจาก Music Streaming “เติบโต” 43% จากปีก่อนหน้า
15% มาจาก Digital Download “ลดลง” 25% จากปีก่อนหน้า
17% มาจาก แผ่น CD “ลดลง” 4% จากปีก่อนหน้า
จะเห็นได้ว่า ธุรกิจ Streaming มีการเติบโตที่รวดเร็ว และสามารถยึดครองตลาดได้อย่างหมดจด ทั้งๆ ที่เมื่อ 10 ปีก่อนหน้า การ Streaming มีส่วนแบ่งตลาดเพียงแค่ 2.5% เท่านั้น
ในทางกลับกัน การฟังเพลงผ่านการดาวน์โหลด หรือซื้อแผ่นซีดี กลับลดลงอย่างมาก
นั่นเป็นเพราะ ผู้บริโภคสามารถเลือกที่จะจ่ายเงินให้กับระบบ Streaming และรับฟังเพลงได้มากมาย หลากหลายประเภท ในราคาที่เทียบเท่ากับการไปซื้อเพลงในแบบเดิม แต่ได้ฟังอยู่ไม่กี่เพลงเท่านั้น
ซึ่งถ้าหากพูดถึงธุรกิจ Music Streaming แบรนด์ที่เป็นผู้นำ คือ Spotify แพลตฟอร์มการฟังเพลงออนไลน์สัญชาติสวีเดน ที่มีผู้ใช้งานสูงที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ราว 36%
สิ่งที่ทำให้ Spotify มีความแตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น คือ การใช้เทคโนโลยี A.I. มาวิเคราะห์รูปแบบการฟังเพลงของเรา
Spotify จะแนะนำ Playlist ส่วนตัว ที่คิดว่าเหมาะกับรสนิยมของเรา จากประวัติการฟังเพลงในอดีต โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลาค้นหาเพลงในระบบกว่าหลายสิบล้านเพลงเลย

ผลประกอบการของ Spotify
ปี 2016
รายได้ 92,000 ล้านบาท
ขาดทุน 17,000 ล้านบาท
มีสมาชิกแบบ Premium 48 ล้านราย
ปี 2017
รายได้ 130,000 ล้านบาท
ขาดทุน 39,000 ล้านบาท
มีสมาชิกแบบ Premium 71 ล้านราย
ปี 2018
รายได้ 160,000 ล้านบาท
ขาดทุน 2,000 ล้านบาท
มีสมาชิกแบบ Premium 96 ล้านราย

จะเห็นได้ว่า แบรนด์ Music Streaming รายนี้ มีรายได้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับจำนวนสมาชิกที่จ่ายเงินในแบบ Premium
อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูกันต่อไปว่า บริษัทจะทำกำไรได้เมื่อไร เพราะช่วงนี้อยู่ในช่วงขยายตลาดซึ่งปกติแล้วบริษัทจะไม่เน้นกำไร

คำถามต่อไปคือ
แล้วธุรกิจในอุตสาหกรรมเพลงด้านอื่นจะแย่ไปหมดเลยหรือไม่
คำตอบคือ มีบางธุรกิจที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจขายแผ่นเสียง ในสหรัฐอเมริกา มีการเติบโตติดต่อกันมาเป็นสิบปีแล้ว
ปี 2008 ยอดขายในสหรัฐอเมริกา 1.9 ล้านแผ่น มูลค่าตลาด 1,700 ล้านบาท
ปี 2018 ยอดขายในสหรัฐอเมริกา 16.8 ล้านแผ่น มูลค่าตลาด 12,000 ล้านบาท

แม้ว่าธุรกิจขายแผ่นเสียงจะมีมูลค่าไม่มาก และหลายคนอาจคิดว่าแผ่นเสียง เป็นสิ่งที่หายไปตามกาลเวลาแล้ว แต่จากข้อมูลก็อาจจะสะท้อนได้ว่า สิ่งเก่าๆ ก็ยังคงมีเสน่ห์ของมันอยู่
จากเรื่องราวนี้ เราได้เห็นกระแสอะไรบางอย่างในเทรนด์การฟังเพลงของคนยุคใหม่
ในสังคมปัจจุบันที่ชีวิตของเรา ต้องอยู่กับความเร่งรีบ มนุษย์จึงต้องการตัวช่วยที่ให้ความสะดวกสบายแบบเบ็ดเสร็จ อย่างธุรกิจเพลงแบบ Streaming ที่เลือกเพลงที่เราน่าจะชอบ มาให้ฟังที่ไหน เมื่อไรก็ได้

อย่างไรก็ตามในอีกมุมหนึ่ง
หากมีเวลาว่าง คนเราก็ยังต้องการอะไรที่จับต้องได้
ดังเช่นกรณีของแผ่นเสียง ที่ต้องดูแลรักษาอย่างพิถีพิถัน
แล้วค่อยๆ วางลงบนเครื่องเล่นอย่างประณีต
รับฟังสิ่งที่เราทำเองกับมือ อย่างสบายๆ ที่บ้าน
เหรียญมี 2 ด้านเสมอ
ในเวลาที่ทุกคนเร่งรีบ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบางคน
ที่โหยหา “ความช้า” ด้วยเช่นกัน..
----------------------
การฟังเพลงจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หากได้หูฟังที่มีคุณภาพดี อ่านเรื่อง BOSE หูฟังจากวิศกร MIT ได้ที่
https://www.blockdit.com/articles/5b7ce01412b4b61dd5004ba5
ติดตามเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit โหลดได้ที่ http://www.blockdit.com
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon