อะไรคือ Room 39 ในเกาหลีเหนือ?

อะไรคือ Room 39 ในเกาหลีเหนือ?

อะไรคือ Room 39 ในเกาหลีเหนือ? / โดย ลงทุนแมน
ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อประเทศเกาหลีเหนือ เรานึกถึงอะไร?
คำตอบแรกอาจเป็น ท่านผู้นำตระกูลคิม
และหากถามต่อว่า
รายได้หลักของเกาหลีเหนือ มาจากอะไร?
คนส่วนใหญ่คงนึกถึง การค้าอาวุธสงคราม
แต่หลายคนอาจยังนึกไม่ถึงว่า
การเปิดร้านอาหารในต่างแดน คือ อีกหนึ่งช่องทางสำคัญของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ในการหารายได้ เพื่อค้ำจุนระบบเศรษฐกิจ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
นับตั้งแต่เกาหลีเหนือก่อตั้งประเทศในปี 1948
รัฐบาลเกาหลีเหนือได้เดินตามรอยแนวคิดสังคมนิยมสไตล์ Juche (จูเช่) คือ การปกครองแบบพึ่งพาตนเอง และควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดจากส่วนกลาง
รัฐบาลทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการทหาร แม้ประชาชนยังคงยากจน เพราะแรงงานส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในภาคเกษตรกรรม
และยังจำกัดการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ..

จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ประเทศที่ปิดกั้นตัวเองมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก
แปลว่า รายได้จากการเกษตรเพียงอย่างเดียว คงไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ
แล้วรัฐบาลนำเงินมาจากแหล่งใดอีก?
คำตอบคือ จากองค์กรลับที่มีชื่อว่า Room 39
Room 39 หรือ สำนักงานกรรมการกลาง 39 แห่งพรรคแรงงานเกาหลี ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1972 โดย คิม อิลซุง ท่านผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ
เชื่อกันว่า องค์กรแห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของอาคารสำนักงานกรรมการกลาง ณ กรุงเปียงยาง ใกล้กับบ้านพักของท่านผู้นำ
หน้าที่หลักของ Room 39 คือ การจัดหาเงินตราต่างประเทศให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำมามอบให้กับท่านผู้นำ เพื่อพัฒนาประเทศ และกองทัพ
ทำไม เงินตราต่างประเทศ จึงมีความสำคัญ?
เงินตราต่างประเทศ คือ หนึ่งในรูปแบบของเงินสำรองระหว่างประเทศ มักได้รับจาก การค้าระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยว
ซึ่งจะถูกเก็บรักษาไว้ โดยธนาคารกลาง เพื่อใช้รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประเทศต่อตลาดโลก
ยิ่งสำหรับประเทศสันโดษอย่างเกาหลีเหนือ
Room 39 จึงเป็นแหล่งเงินทุนสำรองของรัฐบาล ที่มีความสำคัญระดับสูงสุด และได้รับการปกป้องคุ้มกันอย่างแน่นหนาเทียบเท่ากับท่านผู้นำเลยทีเดียว
โดยเฉลี่ยแล้ว ธุรกิจที่อยู่ภายใต้องค์กร Room 39 สร้างรายได้ให้กับรัฐบาลกว่า 156,000 ล้านบาทต่อปี
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่
โรงแรม 5 ดาว สกีรีสอร์ต
ห้างสรรพสินค้าสุดหรู ในกรุงเปียงยาง
การนำเข้า-ส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ
รวมถึง ธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น บ่อนและการค้าฝิ่น
แต่อีกหนึ่งธุรกิจที่หลายคนอาจยังไม่รู้ และเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ
นั่นก็คือ “ร้านอาหาร”
ในช่วงแรก รัฐบาลเริ่มเปิดกิจการร้านอาหารในจีน เป็นประเทศแรก ตามรอบแนวชายแดนจีน-เกาหลีเหนือ กรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้
ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990
เศรษฐกิจเกาหลีเหนือทรุดหนัก ประชาชนอดอยาก จากการขาดแคลนน้ำมันที่ใช้ในการผลิต เนื่องจากมีเงินตราต่างประเทศไม่พอสำหรับการนำเข้า และอุทกภัยที่เกิดขึ้นต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน ทำให้สินค้าการเกษตรเสียหายนับล้านตัน
ประกอบกับภายหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต กลุ่มประเทศสังคมนิยมเดิมที่เคยเป็นพันธมิตรหลัก เช่น จีนและประเทศในแถบยุโรป ได้หันไปสู่ระบบทุนนิยม ทำให้เงินช่วยเหลือจากต่างชาติเริ่มหมดลง
ตั้งแต่ปี 2000
ธุรกิจร้านอาหาร จึงได้กลายเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งของรัฐบาล ในการหารายได้จากต่างประเทศ
ปัจจุบัน มีร้านอาหารเกาหลีเหนือกว่า 130 แห่งทั่วโลก
แบ่งเป็น
ในจีน 100 สาขา
และประเทศแถบเอเชีย อีกกว่า 30 สาขา
ได้แก่ กัมพูชา, พม่า, เวียดนาม, ลาว, บังกลาเทศ, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
รวมถึงในประเทศไทยด้วย..
โดยร้านเหล่านี้ มักมีรูปแบบอาหารและการตกแต่งที่คล้ายกัน
พร้อมกับ กฎเหล็กหนึ่งข้อสำหรับลูกค้า ที่ว่า
ห้ามถ่ายรูปบรรยากาศภายในร้าน ถ่ายได้แค่อาหารเท่านั้น
อาหารที่เสิร์ฟภายในร้าน จะเป็นเมนูพื้นฐาน ที่หาได้จากอาหารเกาหลีใต้ แต่จะมีรสชาติที่อ่อนกว่ามาก
ด้านการตกแต่งภายในร้าน จะเน้นความเรียบง่าย แบบย้อนยุคไปเมื่อ 30 ปีก่อน พร้อมกับโทรทัศน์สำหรับฉายภาพท่านผู้นำและดินแดนเกาหลีเหนือ ที่สื่อให้เห็นถึงความรักชาติ
รวมไปถึงเวที สำหรับการแสดงร้องเล่นเต้นรำ ซึ่งจะเริ่มในช่วงประมาณ 20.00 น. ของทุกวัน การแสดงนำโดยพนักงานสาวชาวเกาหลีเหนือ ที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของทั้งเกาหลีเหนือ และประเทศที่ตั้งของร้าน
สิ่งที่น่าสนใจ คือ
พนักงานในร้านส่วนใหญ่ เป็นหญิงสาวชาวเกาหลีเหนือจากครอบครัวชั้นสูง ที่ผ่านการคัดเลือกจากรัฐบาล จึงมักมีหน้าตาดี มีการศึกษา พูดได้หลายภาษา มีความสามารถทางการแสดง
และที่สำคัญ ต้องมีความภักดีต่อชาติ..
ในระหว่างทำงาน หญิงสาวเหล่านี้จะต้องทำงาน 12 ชั่วโมงต่อวัน แลกกับค่าตอบแทนวันละ 1,000 - 1,450 บาท และจะได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกเมื่อมีผู้คุมหรือไปกันเป็นกลุ่มเท่านั้น
โดยจะมีสัญญาการทำงาน 4 ปี เมื่อครบกำหนดเดินทางกลับบ้าน จะได้รับเงินสดประมาณ 87,500 บาท พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์หรือเครื่องซักผ้า
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า
ร้านอาหารเหล่านี้ มีกระแสตอบรับเป็นอย่างไร?
อาหารเกาหลีเหนือในต่างแดน ได้รับความนิยมสูงมาก
โดยเฉพาะในหมู่คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ที่สนใจในวัฒนธรรมเกาหลีเหนือ ซึ่งกว่า 70% เป็นชาวเกาหลีใต้
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสะสมสกุลเงินต่างประเทศของรัฐบาล ซึ่งสร้างรายได้มากถึง 310 ล้านบาทต่อปี
เรื่องราวนี้อาจแสดงให้เห็นว่า
นอกเหนือจากเรื่องรสชาติความอร่อย
เสน่ห์ที่สำคัญของอาหารอีกอย่างหนึ่งอาจเป็น ความไร้พรมแดน
ซึ่งช่วยเปิดมุมมอง และแง่คิดใหม่ๆ ให้กับผู้คน
ผ่านเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในจานอาหารตรงหน้า
และเปิดใจ ที่จะเรียนรู้เรื่องราวของกันและกัน
ในช่วงปีที่ผ่านมา
เกาหลีเหนือเอง ก็ดูมีแนวโน้มจะเปิดประเทศมากขึ้น หลังยอมเจรจากับสหรัฐอเมริกา และจับมือร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกับเกาหลีใต้ ในการจัดกีฬาโอลิมปิกปี 2032
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ตั้งแต่ปี 2006
เกาหลีเหนือ ถูกคว่ำบาตรจาก UN และนานาชาติ รวม 8 ครั้ง
หลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
เงินสำรองระหว่างประเทศของเกาหลีเหนือประสบปัญหาลดลงอย่างมาก
ยอดเงินสำรองของ เกาหลีเหนือ
ในปี 2013 คงเหลือ 250,000 ล้านบาท
ในปี 2017 คงเหลือ 94,000 ล้านบาท
ยอดเงินสำรองของ เกาหลีใต้
ในปี 2013 คงเหลือ 10,476,000 ล้านบาท
ในปี 2017 คงเหลือ 11,844,000 ล้านบาท
คำนวณง่ายๆ คือ ต่างกันประมาณ 126 เท่า..
----------------------
อ่านเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit ได้ที่ http://www.blockdit.com
สั่งหนังสือลงทุนแมน 9.0 ได้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/90-i293980783-s493954943.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือ-ลงทุนแมน-9.0-i.116732911.1933827833
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon