ผู้สนับสนุน..
หลายคนคุ้นเคยกับการลงทุน
แต่หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโด
สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างไร?

ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

การลงทุนที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ
จะมีอยู่ 3 ประเภท

ประเภทแรก คือ พันธบัตร
เป็นการลงทุนที่เหมาะกับคนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยง เพราะถึงผลตอบแทนที่ได้อาจจะไม่มาก แต่ก็ถือว่ามีความมั่นคง เพราะมีความผันผวนต่ำ

ประเภทที่สอง คือ หุ้น
ที่เรามีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากขึ้น แต่ก็จะมีความผันผวนที่สูงขึ้นตามด้วยเช่นกัน

ส่วนประเภทสุดท้าย คือ อสังหาริมทรัพย์
จะมีความแตกต่างจากการลงทุนใน 2 ประเภทแรก คือ เราจะได้ครอบครองสินทรัพย์ที่มีตัวตนและจับต้องได้ ซึ่งการลงทุนในคอนโด ก็จัดอยู่ในประเภทนี้

ส่วนการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ สามารถทำได้ 2 รูปแบบ

แบบแรก คือ ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า หรือที่เรียกกันว่า Rental Yield

สามารถคำนวณได้จาก

นำรายได้ค่าเช่าหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว มาหารด้วยราคาที่เราซื้อ

แบบที่ 2 คือ ผลตอบแทนจากการขายต่อในราคาที่สูงกว่าที่ซื้อ หรือ Capital Gain

สามารถคำนวณได้จาก

นำส่วนต่างของราคาจากการขายหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว มาหารด้วยราคาที่เราซื้อ

ตัวอย่างการคำนวณ Rental Yield

สมมติว่า
เราซื้อคอนโดมาในราคา 6 ล้านบาท
ปล่อยเช่าได้ 22,000 บาทต่อเดือน หรือ 264,000 บาทต่อปี
หักค่าส่วนกลาง 24,000 บาทต่อปี
หลังหักค่าส่วนกลางแล้ว รายได้จะอยู่ที่ 240,000 บาทต่อปี
เมื่อนำมาหารด้วยราคาคอนโด

Rental Yield ก็จะเท่ากับ 4% ต่อปี

ตัวอย่างการคำนวณ Capital Gain

ด้วยตัวอย่างเดิม
ถ้าเราซื้อคอนโดตอนนี้ราคา 6 ล้านบาท
สมมติ ผ่านไป 5 ปี คอนโดที่เรามีมูลค่ามากขึ้นเป็น 7.5 ล้านบาท
ด้วยส่วนต่าง 1.5 ล้านบาท เมื่อนำไปหารด้วยราคา 6 ล้านบาท แล้วเฉลี่ยเป็นต่อปี

Capital Gain ก็จะอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทน Rental Yield และ Capital Gain เป็นการยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น

ในสถานการณ์จริง อัตราผลตอบแทนอาจสูงขึ้นหรือต่ำกว่านี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความต้องการของผู้เช่าและทำเลของคอนโด

9-10 มี.ค. นี้ พบกับงาน XT Extend Your Deal ที่ Sales Gallery XT Phayathai
คอนโดแต่งครบ เริ่ม 5.59 ล้าน*
พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 1,000,000 บาท*

ชมข้อมูลโครงการได้ที่: siri.ly/xtpyt5