ธนาคารจีน มีหนี้เสียมากสุดในรอบ 10 ปี

ธนาคารจีน มีหนี้เสียมากสุดในรอบ 10 ปี

ธนาคารจีน มีหนี้เสียมากสุดในรอบ 10 ปี / โดย ลงทุนแมน
ธนาคารจีน ใหญ่ขนาดไหน?
บริษัทที่มีสินทรัพย์มากสุดในโลก 3 อันดับแรก
เป็นธนาคารจากประเทศจีน..
หากเราจัดอันดับบริษัทใหญ่สุดในโลก ตามขนาดสินทรัพย์
อันดับ 1 ICBC 125.6 ล้านล้านบาท
อันดับ 2 China Construction Bank Corporation 106.5 ล้านล้านบาท
อันดับ 3 Agricultural Bank of China 101.4 ล้านล้านบาท
แค่ 3 ธนาคารนี้ก็มีสินทรัพย์เป็น 1 ใน 3 ของทุกธนาคารจีนรวมกัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นของทั้ง 3 ธนาคารกำลังซื้อขายที่ P/E เพียง 7 เท่า
ถูกกว่าค่าเฉลี่ย P/E ธนาคารทั้งหมดของประเทศไทยที่ระดับ 11 เท่า..
ซึ่งเรื่องนี้แสดงถึงความกังวลของนักลงทุน ต่อธนาคารในประเทศจีน
หากสรุปธุรกิจธนาคารง่ายๆ..
เมื่อเราไปฝากเงิน ธนาคารจะนำเงินฝากของเราไปปล่อยกู้
ธุรกิจธนาคารส่วนใหญ่จะมีสินทรัพย์ ที่สูงกว่าธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ
จากตรงนี้ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี
อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่ถูกปล่อยออกไปให้คนอื่นกู้
ความเสี่ยงของธุรกิจธนาคารจึงหนีไม่พ้นตัวแปรที่ชื่อว่า หนี้เสีย นั่นเอง..
คำว่าหนี้เสีย ศัพท์ในวงการเรียกว่า NPL หรือย่อมาจาก Non-performing Loan
ย้อนกลับมาที่ประเทศจีน..
ตอนนี้ประเทศจีนมีหนี้เสีย มากขนาดไหน?
ในปี 2018 ธนาคารพาณิชย์ในประเทศจีนมีหนี้เสียรวมกันสูงถึง 9.3 ล้านล้านบาท
เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 6.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 43%
นอกจากนี้ อัตราหนี้เสียธนาคารพาณิชย์จีนกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ
ปี 2016 1.74%
ปี 2017 1.75%
ปี 2018 1.89%
อัตราหนี้เสียเป็นการเทียบระหว่าง หนี้เสีย หารด้วยสินเชื่อปล่อยกู้ในระบบ
และตัวเลข ณ สิ้นปีล่าสุด 1.89% เป็นจุดสูงสุดในรอบ 10 ปี..
เรื่องนี้เกิดมาจากตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศจีน
ปี 2017 GDP เพิ่มขึ้น 6.9%
ปี 2018 GDP เพิ่มขึ้น 6.3%
แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังมีการเติบโต แต่มันกำลังเติบโตในแนวโน้มที่ชะลอตัวลง
การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ รวมถึงสงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา
ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยมีการกู้เงิน
เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว
ก็ทำให้บางธุรกิจขาดสภาพคล่อง
จนในที่สุดกลายไปเป็นหนี้เสียของธนาคาร
นอกจากหนี้เสีย 9.3 ล้านล้านบาทในปี 2018 แล้ว
ข้อมูลจากสำนักข่าว Reuters ได้กล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของหนี้สงสัยจะสูญที่กำลังจะกลายไปเป็นหนี้เสียของธนาคารจีนทั้งระบบว่ามีปริมาณมากถึง 15.7 ล้านล้านบาท
ตัวเลขนี้มากมายมหาศาล เทียบเท่ากับ GDP ประเทศไทยทั้งประเทศ..
เรื่องราวทั้งหมดนี้จึงย้อนกลับไปที่ P/E ของธนาคารในประเทศจีน
ที่ซื้อขายกันที่ระดับ 7 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าธุรกิจธนาคารทั่วโลก
ซึ่งเราอาจแปลความหมายได้ว่า..
หุ้นที่มี P/E ต่ำมากๆ มันไม่ได้แปลว่าหุ้นตัวนั้นถูก
แต่อาจเป็นเพราะ บริษัทเหล่านั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ที่เราไม่รู้..
----------------------
อ่านเรื่อง จีนกำลังเติบโตช้าลงในรอบ 28 ปี ได้ที่ https://www.blockdit.com/articles/5c63df4bffb85c0b8da96062
อ่านเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆหลายท่าน โหลดแอป blockdit ได้ที่ blockdit.com
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon