กรณีศึกษา ชีวิตของ Jack Dorsey CEO ของ Twitter และ Square

กรณีศึกษา ชีวิตของ Jack Dorsey CEO ของ Twitter และ Square

17 ก.ย. 2018
กรณีศึกษา ชีวิตของ Jack Dorsey CEO ของ Twitter และ Square / โดย ลงทุนแมน
“เป้าหมายของผมคือการทำให้สิ่งที่ผมสร้างขึ้นมา มีอายุยืนยาวกว่าตัวผม”
ประโยคนี้เป็นคำพูดของ Jack Dorsey
ผู้เป็น CEO ของ 2 ธุรกิจใหญ่อย่าง Twitter และ Square
เป็นที่รู้กันว่างาน CEO คงไม่ใช่งานที่สบายนัก
การที่จะต้องบริหารกิจการสักแห่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว แต่ Jack Dorsey มีกิจการที่ต้องดูแลถึง 2 แห่ง
เขามีวิธีจัดการอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
การเป็น CEO ของ Twitter และ Square ทำให้ Jack Dorsey กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยี
แต่ก็มาพร้อมความท้าทายและความยากของทั้ง 2 ธุรกิจที่แตกต่างกัน
สำหรับ Twitter แพลตฟอร์ม Social Network ที่มีโลโก้เป็นนกสีฟ้า คงไม่ต้องอธิบายกันมากเนื่องจากเราน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
ส่วน Square เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงิน
คนไทยเราอาจจะไม่คุ้นหูนัก เพราะปัจจุบัน Square ยังให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
 
Square ให้บริการระบบการขายหน้าร้าน (Point of sale) การชำระเงิน การจัดการเงินเดือน รวมถึงการปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนา Cash App แอปพลิเคชันสำหรับโอนหรือรับเงินระหว่างบุคคล
โดยที่ผู้โอนหรือรับเงินไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใช้ของ Cash App ก็ได้
และเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้เพิ่มฟังก์ชันการใช้งาน ให้ผู้ใช้สามารถซื้อขาย Bitcoin จากบัญชีของ Cash App ได้เลย
ล่าสุดจำนวนยอดดาวน์โหลดสะสมของ Cash App สามารถเอาชนะแอปพลิเคชันคู่แข่งอย่าง Venmo ของ PayPal ไปได้แล้ว
Cash App มีผู้ดาวน์โหลด 33.5 ล้านครั้ง
Venmo มีผู้ดาวน์โหลด 32.9 ล้านครั้ง
ทำให้หุ้น Square ทำลายสถิติราคาสูงสุด ตั้งแต่ที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
และราคาก็ยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมาปิดที่ 92.28 ดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 11 กันยายน
เพิ่มขึ้น 925% จากราคา IPO ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี
ที่น่าสนใจคือ มูลค่ากิจการของ Square ตอนนี้ก็สูงกว่า Twitter แล้วเช่นกัน
จาก Twitter และ Square ปัจจุบัน Dorsey มีสินทรัพย์สุทธิประมาณ 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1 แสนล้านบาท
เส้นทางชีวิตของ Jack Dorsey จะว่าไปแล้วก็มีความคล้ายคลึงกับ Steve Jobs
Dorsey เองก็เรียนไม่จบเช่นกัน
หลังจากลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
ในปี 2006 เขากับเพื่อนอีก 3 คน ก็ได้ร่วมกันก่อตั้ง Twitter ขึ้นมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป Dorsey ก็มีปัญหาขัดแย้งกับหนึ่งในหุ้นส่วน
และโดนไล่ออกจากบริษัทในปี 2008
ซึ่งช่วงเวลานั้นเขาก็ได้ก่อตั้งอีกหนึ่งบริษัท นั่นก็คือ Square
ต่อมาในปี 2011 Dorsey ได้มีโอกาสกลับไปบริหารงานที่ Twitter อีกครั้ง
และได้ก้าวขึ้นเป็น CEO ของ Twitter ในปี 2015
โดยสถานการณ์ของ Twitter ในตอนนั้นก็กำลังประสบปัญหาหลายอย่าง
คล้ายกับ Apple เมื่อครั้งที่ Steve Jobs กลับมาบริหารงาน
การที่ต้องเป็น CEO บริหารงานให้กับ 2 ธุรกิจ ก็ถือเป็นงานหนักสำหรับ Dorsey เช่นกัน
Dorsey เล่าว่าในช่วงแรกของการทำงาน
เขาพยายามจะมีส่วนร่วมในทุกงานเท่าที่จะทำได้
แต่ต่อมาเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
เขาเริ่มจัดลำดับความสำคัญของแต่ละงาน และเลือกโฟกัสเฉพาะงานที่จำเป็นเท่านั้น
มีการแบ่งเวลาอย่างชัดเจน
ครึ่งเช้าสำหรับ Twitter และครึ่งบ่ายสำหรับ Square
โชคดีหน่อยที่ออฟฟิศของทั้ง 2 บริษัทอยู่ตรงข้ามกัน แค่เพียงเดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว
แต่แม้ว่าจะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปมา
Dorsey ก็ยังต้องเริ่มทำงานตั้งแต่ตี 5 และเลิกงานประมาณ 5 ทุ่ม
Dorsey มีหลักคิดว่าการจัดสรรเวลา ไม่ใช่การกำหนดว่าเราจะใช้เวลาเท่าไหร่ในการทำสิ่งหนึ่ง
แต่คือการมองว่าเราใช้เวลาของเราอย่างไร ให้ความสำคัญกับสิ่งไหน
และสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ ใช่หรือไม่
จากนั้นก็ต้องมีทีมงานที่เหมาะสมกับงานที่จะทำ สามารถตัดสินใจได้
เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต
เป้าหมายของ Dorsey คือการทำให้สิ่งที่เขาสร้างยังคงอยู่ แม้เขาจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว..
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาต้องสร้างโครงสร้างองค์กรที่ไม่ได้พึ่งพาเฉพาะเขาคนเดียว
รวมทั้งทำให้ความตั้งใจของเขาสามารถฝังลึกลงไปในระดับ DNA ของบริษัทให้ได้
เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าคิดให้เราได้เรียนรู้
ถึงแม้ว่า Jack Dorsey จะมีทรัพย์สินเป็นแสนล้านบาท แต่เขาก็ยังต้องรับผิดชอบกับงานหลายอย่าง
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต่างจากเจ้าของกิจการใหญ่ๆ ทั่วไป
สิ่งสำคัญคือ เราไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเราเองคนเดียว
เสน่ห์ของการเป็นผู้บริหารที่ดีคือ การรู้จักแบ่งเวลา และจัดลำดับความสำคัญ
และ Jack Dorsey ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งให้เราได้เห็นว่า
การเป็นผู้บริหาร ทุกคนอาจจะมีโอกาสได้เป็นในสักวันหนึ่ง แต่การเป็นผู้บริหารที่เก่งนั้น ไม่ง่ายเลย..
----------------------
เปิดจองหนังสือ ลงทุนแมน 6.0
สั่งซื้อได้ที่ลิงก์นี้ https://www.lazada.co.th/-i258086582-s397891180.html
ตัวเนื้อหาของแต่ละบทความในเล่มนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น
เหมาะกับการซื้อมาอ่านเองในยามว่าง หรือ ซื้อฝากญาติสนิท มิตรสหาย ที่เรารัก
สั่งซื้อหนังสือลงทุนแมนรอบนี้ มีส่วนลด 15% เหลือราคา 213 บาท #มีจำนวนจำกัด
รับหนังสือภายใน 2 วันทำการ
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.