แมงป่อง จากร้านขายซีดี กลายเป็นธุรกิจความงาม

แมงป่อง จากร้านขายซีดี กลายเป็นธุรกิจความงาม

14 ก.ค. 2018
แมงป่อง จากร้านขายซีดี กลายเป็นธุรกิจความงาม / โดย ลงทุนแมน
ถ้าให้ย้อนไปในยุคที่คนฟังเพลงหรือดูหนังด้วยแผ่นซีดี
คงไม่มีใครไม่รู้จัก ร้านแมงป่อง
แล้ววันนี้ร้านแมงป่องได้กลายสภาพเป็นอะไร
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
ร้านแมงป่องก่อตั้งโดยคุณมนตรี มิตรศรัทธา และคุณกิตติ์ยาใจ ตรีเอกวิจิตร ในปี พ.ศ. 2524 เนื่องจากทั้งคู่นั้นชอบการดูหนังฟังเพลง จนเอาความชอบนี้มาเป็นอาชีพ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปิดร้านแมงป่องสาขาแรกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ราชประสงค์ โดยเป็นการขายสินค้าประเภทหนัง เพลงในรูปแผ่น ซีดี วิดีโอเทป และเทปคาสเซต
ปี 2547 บริษัท แมงป่อง จำกัด (มหาชน) ก้าวมาถึงจุดที่สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ใช้ชื่อว่า PONG
ปี 2548 จำนวนสาขาและจุดขายของร้านแมงป่องมีกว่า 370 แห่ง และบริษัทมีรายได้รวมกว่า 1,617 ล้านบาท
ปี 2549 แมงป่องเปลี่ยนชื่อเป็น ป่องทรัพย์พร้อมชื่อหุ้นใหม่ชื่อ PSAAP เพื่อขยายธุรกิจที่มากกว่าการจำหน่ายสื่อบันเทิง
แต่ต้องยอมรับว่าการแข่งขันในอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงโดยเฉพาะธุรกิจจำหน่ายแผ่นดีวีดีและซีดีเป็นไปอย่างรุนแรง
ขณะที่การเกิดขึ้นของเทปผี ซีดีเถื่อน ทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมนี้ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปทีละราย
ไม่เว้นแม้แต่แมงป่อง ที่ผลประกอบการลดลงจนส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ
ปี 2552 หุ้น PSAAP จึงถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ บริษัทต้องเข้าแผนฟื้นฟูและปรับโครงสร้างหนี้
ปี 2557 แมงป่องได้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในชื่อหุ้น MPG อีกครั้ง
ปัจจุบัน ธุรกิจของร้านแมงป่องประกอบไปด้วย 2 กลุ่มธุรกิจ
ธุรกิจค้าปลีก
แบรนด์ แมงป่องขายหนังและเพลงมี 13 สาขา
แบรนด์ กิซแมน ขายสินค้าไลฟ์สไตล์ด้านไอทีและเทคโนโลยีมี 13 สาขา
รวมไปถึงแบรนด์ สตาร์ดัส ร้านจำหน่ายเครื่องสำอางให้แก่หลายยี่ห้อมีจำนวน 8 สาขา
แมงป่องยังมีธุรกิจเครื่องสำอาง
เป็นการรับจ้างผลิต (OEM) แล้วนำไปขายผ่านร้านสตาร์ดัส และผ่านช่องทางออนไลน์
บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ปี 2558 รายได้ 384 ล้านบาท ขาดทุน 60 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 318 ล้านบาท ขาดทุน 98 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 264 ล้านบาท ขาดทุน 69 ล้านบาท
ผลประกอบการที่ลดลงทำให้ มูลค่าตลาดของบริษัท (Market Cap) ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปี พ.ศ. 2557 บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 1,536 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันอยู่ไม่ถึง 200 ล้านบาท
แต่ที่น่าสนใจคือ ในช่วงปี พ.ศ. 2558-2560 สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายแผ่นดีวีดีและซีดีลดลงจาก 55% มาอยู่ที่ 15% แต่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจเครื่องสำอางเพิ่มขึ้นจาก 14% มาอยู่ที่ 46%
เรื่องนี้ทำให้เราน่าจะบอกได้ว่าภาพของร้านแมงป่องที่จำหน่ายแผ่นดีวีดีและซีดีในอดีตกำลังค่อยๆ เปลี่ยนไปสู่ธุรกิจความงาม
แต่ต้องยอมรับว่าธุรกิจของบริษัทยังอยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันอย่างรุนแรงมาก
ในปี 2558 มีผู้ขอจดทะเบียนแจ้งผลิตเครื่องสำอางจากกระทรวงสาธารณสุขกว่า 13,000 รายและได้รับอนุมัติมากกว่า 8,000 ราย
ขณะที่สถิติการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นอุปสรรคหลักของธุรกิจเดิมของแมงป่อง ยังอยู่ในระดับสูง ตั้งแต่ปี 2559 ถึงกลางปี 2560 มีจำนวนคดีกว่า 11,310 คดี มีของกลางที่จับกุมได้กว่า 7.6 ล้านชิ้น
ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตร้านแมงป่องจะงามตามธุรกิจที่บริษัทกำลังมุ่งไปหรือไม่
แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว งานนี้คงต้องเหนื่อยเหมือนกัน..
บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
----------------------
ลงทุนแมนยังไม่มีธุรกิจความงาม มีแต่บทความให้ติดตามที่แอปพลิเคชันลงทุนแมน โหลดฟรีทั้ง iOS และ android www.blockdit.com/app
.
หนังสือลงทุนแมนให้อ่านยามว่าง เล่ม 1.0-4.0 หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
.
อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
.
ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
.
ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
----------------------
Reference
-http://www.mangpong.co.th/corporate/index.php?lang=en
-https://www.set.or.th/set/companyprofile.do?symbol=MPG&ssoPageId=4&language=th&country=TH
-https://www.set.or.th/set/factsheet.do?symbol=MPG&ssoPageId=3&language=th&country=TH
-https://www.brandbuffet.in.th/2017/10/mangpong-group-build-cosmetic-business/
-https://www.meconomics.net/content/723
-https://prachatai.com/journal/2017/06/72186
-capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/56/20050747T06.DOC
-http://www.ipthailand.go.th/th/protect-005/item/1
[7945].
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.